เขียนโดย แคเธอรีน ชัคดัม
Source : www.rt.com
ในระหว่างการเข้าแทรกแซงทางทหารของรัสเซียในซีเรีย และการที่อิหร่านท้าทายอำนาจอิทธิพลของซาอุดิอารเบียในตะวันออกกลาง ภูมิภาคนี้กำลังประสบกับความขัดแย้งทางการเมืองอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ความเจ็บปวดที่เพิ่มมากขึ้นในท้ายที่สุดจะได้เห็นการสำแดงระเบียบแบบแผนใหม่ออกมาอย่างหนึ่ง ซึ่งจะเป็นแบบไหนนั้น ยังคงต้องพิจารณากันต่อไป
ถ้าตะวันออกกลางเป็นพื้นที่กลัดหนองมายาวนานเนื่องจากความวุ่นวายทางการเมือง ความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ และความตึงเครียดจากลัทธิความเชื่อ ที่น่าจะเป็นผลผลิตโดยตรงจากนโยบายที่ล้มเหลวของตะวันตก การยืนหยัดท้าทายมหาอำนาจของทั้งรัสเซียและอิหร่านได้ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวของพลวัตใหม่ ซึ่งยังสามารถมองเห็นการเริ่มต้นของระเบียบใหม่ทางภูมิศาสตร์การเมือง ที่ระบบได้สิทธิ์ข้อยกเว้นพิเศษของอเมริกาและความเป็นจ้าวอำนาจของซาอุดี้ฯ จะไม่มีอำนาจสั่งการเหนือชาติต่างๆ ในโลกอีกต่อไป
ในขณะที่นักวิเคราะห์การเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐถกเถียงกันถึงนโยบายต่างประเทศและยุทธศาสตร์ในซีเรีย โต้แย้งกันไปมาว่าชาติไหนควรจะแบกรับภาระผู้นำในการต่อสู้กับการก่อการร้ายทั่วโลก รัสเซียก็ได้ถอดรหัสความเงียบออกมา เป็นการท้าทายต่อการผูกขาดทางการเมืองของอเมริกาอย่างเปิดเผย
อย่าทำผิดพลาด ‘Make no mistake’ : การรณรงค์ครั้งใหม่ของวอชิงตันเพื่อคัดค้านการเข้าแทรกแซงในซีเรียของมอสโก เลยเถิดไปมากกว่าเรื่องการเป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีปูตินกับประธานาธิบดีบะชัร อัสซาดในการต่อสู้กับไอซิล(ISIL) หรือแม้แต่เรื่องการเลือกเป้าหมายทางทหารของเขาในดินแดนนี้ แต่หัวใจของเรื่องนี้คือการควบคุมและครองอำนาจทางการเมือง
แต่ลืมซีเรีย และลืมการแทรกแซงทางทหารของรัสเซียเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายสักประเดี๋ยว ขอให้ฉันได้พาคุณข้ามพ้นความสับสนวุ่นวายทางการเมืองในขณะนี้ไปยังแง่มุมที่ใหญ่กว่า แต่ขอเตือนไว้หน่อยว่า ฉันไม่ได้บอกตรงนี้ว่าตัวเองมีความจริงครบถ้วนใดๆ เกี่ยวกับเรื่องราวของโลก ฉันแค่เสนอว่าให้เรามองถึงความเป็นไปได้ต่างๆ จากมุมมองที่กว้าง ขณะเดียวกัน ปัญหามากมายของโลกนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาบอกกับเราที่เป็นประชาชนว่า แบบอย่างเดียวเท่านั้นที่ควรค่าแก่การมีก็คือ… ความฝันของอเมริกาที่น่าชังที่สุด!
เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่สหรัฐฯ ได้ผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจของโลก เป็นยักษ์ใหญ่ที่ตั้งอยู่บนกองเถ้าของจักรวรรดิ์อังกฤษ อเมริกาไม่รู้จักอำนาจท้าทายที่แท้จริงต่ออิทธิพลทางการเมืองของมันเลย อาจจะยกเว้นแค่จากสหภาพโซเวียตรัสเซีย ย้อนกลับไปในสมัยสงครามเย็น แต่ตอนนั้น แรงดึงของโซเวียตรัสเซียมีจำกัดอยู่แค่การไปให้ถึงอุดมการณ์ทางการเมืองของตน ในขณะที่ระบอบทุนนิยมอเมริกาลงแข่งขันเพื่อควบคุมทรัพยากรทั้งหมดทั่วโลกไปแล้ว
รัสเซียวันนี้แตกต่างกันมากจากรัสเซียในยุค 1980s … รัสเซียวันนี้กลายเป็นผู้นำประเทศต่างๆ เป็นสัญลักษณ์การระดมพลสำหรับกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และที่สำคัญพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า วิธีของอเมริกาไม่ใช่วิธีเดียวที่มี นี่ไม่ใช่การโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซียแต่อย่างใด! ข้อความข้างบนเป็นแค่การสะท้อนความเป็นจริงทางการเมืองที่เรากำลังประสบอยู่ รัสเซียได้กลายเป็นทางเลือกอื่นที่แท้จริงจากความเป็นจ้าวอำนาจของอเมริกาเพียงทางเลือกเดียวในด้านอิทธิพลทางการเมืองภายในประชาคมระหว่างประเทศ และไม่ใช่แค่ในตะวันออกกลาง แต่ทุกที่ และในขณะที่หลายคนอาจไม่เห็นด้วยกับสไตล์การเมืองของประธานาธิบดีปูติน แต่อย่างไรก็ตาม หลายคนยอมรับว่านโยบายต่างประเทศและเป้าหมายของรัสเซียมีความแผ่กระจายน้อยกว่าการนำของสหรัฐฯ มาก รัสเซียไม่ได้หวังที่จะเป็นอาณาจักรหนึ่งเหมือนที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เสนอ แต่จะเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ของโลกตัวหนึ่งภายในเครือข่ายแน่นหนาของความสัมพันธ์และความร่วมมือเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย
กลุ่มอนุรักษ์นิยมใหม่ (Neo-cons) คัดค้านเรื่องนี้ ฉันแน่ใจว่าตอนนี้คุณคงต้องการจะระเบิดใส่บทความนี้และทำให้ฉันรู้ว่าฉันเบาปัญญาแค่ไหนที่ไม่เชื่อว่าอเมริกาถูกเลือกมาจากพระเจ้าเพื่อให้เป็นผู้นำของมนุษย์และประเทศต่างๆ
เรากลับไปที่ตะวันออกกลางกัน ต่อไปนี้คือพัฒนาการบางอย่างที่คุณอาจจะพลาดไปเพราะองค์กรสื่อได้ระดมข้อมูลที่ผิดๆ เข้าใส่สมองทั้งสองซีก
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซาอุดิอารเบียซึ่งเป็นราชอาณาจักรที่ปกครองด้วยแนวคิดวะฮาบีขั้นสูง ได้มีการออกคำฟัตวา (คำวินิจฉัยของอิสลาม) โดยนักการศาสนาหลายครั้งที่ระบุว่า กองทหารรัสเซียทั้งหมดในซีเรียนั้นเป็นคนนอกศาสนา ด้วยเหตุนี้จึงเรียกร้องให้สังหารพวกเขาโดยทันที และอย่าง “เป็นธรรม” เท่าที่ผู้นำอัลซาอูดสนใจก็คือ ทุกคนที่ต่อต้าน “กฎหมายศักดิ์สิทธิ์” ของตนก็คือศัตรูของพระเจ้าด้วย… อเมริกาดูเอาไว้ คุณไม่รู้หรอกว่าวะฮะบีพวกนั้นจะเตรียมฟัตวาอะไรไว้เป็นลำดับต่อไป
คุณอาจจะถามว่าทำไมมันจึงสำคัญนัก? ซาอุดิอารเบียเปลี่ยนจากการสนับสนุนการก่อการร้ายในตะวันออกกลางอย่างลับๆ มาเป็นการเรียกร้องให้ปกป้องนักรบก่อการร้ายที่มีค่าของมันในภูมิภาคนี้อย่างเปิดเผย แล้วตอนนี้รัสเซียเป็นอันตรายต่อปฏิบัติการของมันในซีเรีย ริยาดจึงต้องเอาปืนใหญ่ออกมาและเล่นเกมศาสนา
ตอนนี้ “นั่น” ทำให้วอชิงตันอยู่ในจุดที่ยากลำบาก เพราะจากเงินหลายพันล้านดอลล่าร์และน้ำมันดิบหลายพันล้านบาร์เรล อัล-ซาอูดกำลังกลายเป็นภาระรับผิดชอบที่สหรัฐฯ ไม่ปรารถนาจะมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเล่นกับการก่อการร้ายเพื่อเพิ่มแต้มทางการเมืองไม่ได้ผลอย่างแท้จริง ถามว่าทำเนียบขาวจะทำอะไรได้? ประธานาธิบดีบารัก โอบาม่า ไม่สามารถตำหนิพันธมิตรที่ไว้ใจได้มากที่สุดและร่ำรวยที่สุดในภูมิภาคนี้ของเขาอย่างเปิดเผยได้จริงๆ ใช่ไหม? อย่างน้อยก็ทำไม่ได้โดยไม่ให้มีผลสะท้อนกลับทางการเงินและการเมืองอย่างร้ายแรง
ถ้าเพียงแต่มีสักประเทศหนึ่งที่สามารถและอยากจะจัดการกับซาอุดิอารเบีย?
เดี๋ยวก่อน! มีสิ… อิหร่านไง
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวอชิงตันจะสนับสนุนอิหร่านอย่างลับๆ ในขณะที่เตหะรานไล่ตามริยาดอยู่ในเกมการแข่งขันช่วงชิงความเป็นจ้าวอำนาจแห่งภูมิภาคครั้งใหญ่? นั่นคงจะเป็นตัวแทนที่ถูกส่งมาจากสวรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนโยบายต่างๆ ของอิหร่านอยู่ในนิยามของการต่อต้านซาอุดิอารเบีย หรือน่าจะเป็นต่อต้านวะฮาบีมากกว่า อิหร่านไม่ได้มีปัญหาในเนื้อแท้ใดๆ กับซาอุดิอารเบีย ตัวผู้นำและการแพร่ความสุดโต่งทางศาสนาของมันต่างหากที่เตฮะรานรังเกียจมากที่สุด
ความคิดเรื่องการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับอเมริกาอาจจะฟังดูเหมือนไม่น่าจะเป็นไปได้เมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ใช่วันนี้
วันนี้ วอชิงตันพบว่าตัวเองอยู่ตรงทางแยกที่ยากลำบาก
อเมริกาสามารถที่จะยืนเคียงข้างพันธมิตรในตะวันออกกลางของตนและเฝ้ามองขณะที่เงินหลายพันล้านของอัล-ซาอูดกลืนกินอิทธิพลของตะวันตก หรือไม่ก็วางตัวเองให้อยู่ในแนวเดียวกับมหาอำนาจเหล่านั้นที่พยายามจะนำดุลยภาพแบบใหม่เข้ามาสู่ภูมิภาคนี้
เวลากำลังจะหมดลงสำหรับวอชิงตัน เมื่อตอนนี้มอสโกได้เข้ามาสู่การต่อสู้นี้
สาระสำคัญปรากฏขึ้นแล้วนะกลุ่มอนุรักษ์นิยมใหม่! อาณาจักรทั้งหลายกำลังเสื่อมถอย และเรื่องเล่าของโลกบทใหม่กำลังจะอารัมภบทขึ้น โดยการอนุเคราะห์ของประธานาธิบดีปูติน ไม่มีแม่แบบตายตัวให้ต้องปฏิบัติตามอีกต่อไป ยินดีต้อนรับเข้าสู่ระบบ “พหุนิยม” (pluralism)
—-
เกี่ยวกับผู้เขียน : แคเทอรีน ชัคดัม เป็นนักวิเคราะห์การเมือง, นักเขียน และนักวิจารณ์เกี่ยวกับตะวันออกกลาง โดยเน้นเป็นพิเศษในเรื่องขบวนการหัวรุนแรงและเยเมน ผลงานของเธอตีพิมพ์เผยแพร่ในสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีชื่อเสียงของโลก เช่น Foreign Policy Journal, Mintpress News, The Guardian, Your Middle East, Middle East Monitor, Middle East Eye, Open Democracy, Eurasia Review และอีกมากมาย เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางสถานี RT ยังเขียนบทวิเคราะห์ให้กับ Etejah TV, สถานีวิทยุ IRIB, Press TV และ NewsMax TV เป็นผู้อำนวยการโครงการต่างๆ ของสถาบัน Shafaqna เพื่อการศึกษาตะวันออกกลาง และเป็นที่ปรึกษาให้กับ Anderson Consulting งานวิจัยและผลงานเกี่ยวกับเยเมนของเธอถูกนำไปใช้โดยคณะมนตรีความมั่นคงสห ประชาชนในเรื่องที่เกี่ยวกับเยเมนถูกปล้นกองทุนในปี 2015