ปรากฏ อย่างเด่นชัด ในล็อบบี้ ณ ศูนย์กิจการของธนาคารแห่งอเมริกา ซึ่งเป็นที่ “น่าขนลุก” เป็นอย่างมาก กับภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ลึกลับ ยิ่งไปกว่านั้น กับ ความจริงที่ว่าภาพเหล่านี้ดูเหมือนจะทำนายทายทักถึงเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลง โลก อย่างยิ่งใหญ่และรุนแรง ในอนาคตที่ไม่ได้ห่างไกลนี้ (หรืออาจกำลังเกิดขึ้นอยู่แล้วก็เป็นได้) เกี่ยวกับการมาของ ‘ระเบียบโลกใหม่’ จริงหรืออย่างไร เราคงต้องมาดูและวิเคราะห์ถึง ความหมายของสัญลักษณ์ลึกลับที่พบบนภาพจิตรกรรมฝาผนังของธนาคารแห่งอเมริกา นี้แล้วล่ะ!
จิตรกรรมฝาผนังอันประกอบด้วยภาพวาด 3 ชิ้นแม้ว่า ตามปกติแล้ว เราจะอ่านจากซ้ายไปขวา แต่อย่างไรก็ตาม มีปมบางอย่างในจิตรกรรมฝาผนังที่ส่งผลให้ผู้ชม อ่านหรือมองดูภาพเขียนจากขวาไปซ้าย จากที่เห็นในภาพด้านขวาของจิตรกรรมฝาผนังข้างต้นคือ ภาพของ “การวางแผน” ซึ่งถือเป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการใด ๆก็ตาม ดังนั้นมันจึงเป็นไปได้มากกว่า ที่จะเริ่มต้นมองภาพจากทางนั้น นอกจากนี้ภาพดังกล่าว ยังมีสัญลักษณ์เกี่ยวกับ ยุคการเล่นแร่แปรธาตุ (Alchemy) ซึ่งบอกใบ้โยงเราถึง การแสดงลำดับเหตุการณ์ ดังนั้น เราจะเริ่มต้นวิเคราะห์กันจากทางขวา
ภาพทางขวา
ภาพด้านขวาถูกขนานนามว่า “การวางแผน” หรือ “ความรู้” จากการพิจารณาความพิศวง ของสัญลักษณ์ในภาพนี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึง สิ่งที่ถูกวางแผนไว้ และ ความรู้ที่มันกล่าวอ้างถึง
เด็กชายเมอะซอนิก บนพื้น เมอะซอนิกสิ่ง ที่เราเห็น ณ จุดนี้ คือ เด็กชายผมบลอนด์ยืนอยู่บนพื้นลาย กระดานหมากรุก เมอะซอนิก ซึ่งกระดานนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่สำคัญของสมาคมลับอีลูมีนาติ โดยที่เท้าของเขาถูกวางอยู่ที่มุม 90 องศา ซึ่งสอดคล้องกับพิธีกรรมเมอะซอนิกเบื้องต้น (ดูจาก– Malcolm C. Duncan, Duncan’s Masonic Ritual and Monitor).
และ ดูเหมือนว่า ข้างใต้เด็กชายนั้น จะเป็นกลุ่มคนในชุดสูทนักธุรกิจ ซึ่งตามที่เห็นในภาพ กำลังหารือวางกลยุทธ์ ขณะเดียวกันเองต่างก็พากันชี้ไปที่เด็กชาย หรือเด็กชายในภาพจะถือเป็นตัวแทนของ “คนรุ่นใหม่”?
พุ่มไม้เพลิง หญิงในลูกบาศก์ และ ปีรามิด
ข้าง หลังเด็กชายคือ ภาพต้นไม้ที่ลุกเป็นไฟ โยงไปถึง ‘พุ่มไม้เพลิง’ ในพระคัมภีร์เก่า อย่างไรก็ดี ‘พุ่มไม้เพลิง’ มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ใน ตำนานเมอะซอนิก ซึ่งสมาชิกของ เมอะซอนิก จะถูกถือเป็นผู้ที่อยู่ ใกล้กับพุ่มไม้เพลิงนี้ โดยพุ่มไม้เพลิงกล่าวถึง สัญลักษณ์ของการเป็นเจ้า ความสัจจริง และแหล่งที่มาของแสงสว่าง (– Albert G. Mackey, Encyclopedia of Freemasonry, Part 1)
ในพื้น หลัง ปรากฏเห็น คือ รูปปีรามิดอียิปต์ สัญลักษณ์ระดับสูงแห่งคำสอนลับนี้ โดยที่ใกล้ๆกับปิรามิดก็มีอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ มีการวาดถึงผู้หญิงที่ติดอยู่ภายในลูกบาศก์โปร่งใส ซึ่งถูกห้อยด้วยเส้นใยลงมาจากฟากฟ้า หรือเธอจะเป็นตัวแทนของคนทั่วไป ที่จะติดอยู่ในขอบเขตของโลกแห่งวัตถุ และถูกควบคุมโดยกำลังที่มองไม่เห็นจากเบื้องบน
บันได และ พระอาทิตย์สีดำ
ทาง ด้านซ้ายของภาพเห็นเป็น บันได สื่อถึงทางไปสู่ชั้นฟ้า/สรวงสวรรค์ สัญลักษณ์คลาสสิกของสมาคมลับอิลูมินาติ ที่กล่าวถึง เส้นทางไปยังความสว่างไสว
เมื่อมอง ไปที่ท้องฟ้า จะเห็นดวงอาทิตย์สีดำ อีกหนึ่งสัญลักษณ์ลับที่สำคัญ ตามเรื่องราวลับที่สืบทอดกันมา พูดถึง การมีอยู่ของพระอาทิตย์ 2 ดวง โดยหนึ่งในสอง คือ อาทิตย์ที่มองไม่เห็น มีความสุนทรีย์ ทำจาก “ทองแห่งปรัชญา” อันบริสุทธิ์ และอีกหนึ่ง คือ อาทิตย์ที่เป็นวัตถุ สิ่งเดียวที่ ผู้กระทำการดูหมิ่น หรือ ไม่ยึดมั่นในศาสนานี้ จะสามารถมองเห็นได้ หรือที่เรียกกันว่า “ดวงอาทิตย์สีดำ”
ณ วันนี้ สัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์สีดำส่วนใหญ่ จะมีความเกี่ยวข้องกับความลับนาซีและลัทธิต่างๆ เช่นพวก Temple of set นอกจากนี้ยังพบในสถานที่แปลก ๆ เช่น:
Bracken House ลอนดอน ที่ซึ่ง ดวงอาทิตย์สีดำ ถูกแกะสลักลงด้วยใบหน้าของ วินสตัน เชอร์ชิล นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรอังกฤษที่มีชื่อเสียงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ดัง นั้นภาพทางขวาจึงน่าจะแสดงให้เห็นถึง ขั้นตอนแรกของ “Great Work” หรือ ผลงานที่ยิ่งใหญ่ ที่จำเป็นจะต้องประสบความสำเร็จ ตามที่นำเสนอในแนวสัญลักษณ์ต่างๆ ตั้งแต่ดวงอาทิตย์สีดำ และชายในชุดสูท ที่ดูเหมือนจะมีหน้าที่ตระเตรียมคนรุ่นใหม่ เหล่ายุวชนเมอะซอนิก ขณะที่ ผู้ไม่ยึดมั่นในศาสนานี้ จะถูกกักขังในลูกบาศก์โปร่งแสง ซึ่งถูกควบคุม ดังหุ่นกระบอก ที่ถูกเชิดด้วยมือที่มิอาจมองเห็น
ภาพกลาง
ความ สร้างสรรค์ที่ถูกบรรเลงออกมาในภาพกลางนี้ แสดงให้เห็นช่วงเวลาที่วุ่นวาย รายละเอียดมากมายในภาพอธิบายถึงความวุ่นวายที่ซับซ้อน ซึ่งดูเหมือนว่า ความวุ่นวายดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อส่วนทั้งหมดของสังคมและอารยะธรรม เราจะเห็นทหารและนักการศาสนา ผู้คนทำการประท้วง และอื่น ๆ อีกมากมาย จากภาพๆนี้
ลวด หนาม ลวดตาข่ายและทหารบนถนนบอกผู้ชมภาพว่า ระยะเวลาของความวุ่นวายนี้ คืออีกหนึ่งของการกดขี่ แม่ชีในภาพเองก็ไม่ได้แลดูมีความยินดีสักเท่าไหร่ เช่นกัน
ที่ด้านซ้ายของภาพวาด เป็นรูปคนที่สวมชุดปลอดเชื้อ บอกเป็นนัยเกี่ยวกับ ชนิดสงครามทางเคมีบางอย่าง
และ หากเราดูที่ด้านบนของภาพเราจะเห็นสิ่งมีชีวิต เปล่าเปลือย และโปร่งแสง กำลังถูกปั่นด้วยไฟ ซึ่งอาจจะหมายความว่า ความวุ่นวายดังกล่าวไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่บนพื้นดิน แต่วุ่นวายไปถึงขั้น ทฤษฎีทางปรัชญา และ ชั้นจักรวาล หรือในระดับอวกาศ
นอก เหนือจากนั้น รูปคนถูกปั่นด้วยไฟดังกล่าว ยังสามารถเห็นได้ว่า มีลักษณะเป็นทรงกลม ซึ่งแลดูคล้ายกับกับดวงอาทิตย์ สีทองอ่อนและความโปร่งใสของมัน สามารถเชื่อมโยงกับ “ขั้นตอนกลาง” ของ ศาสตร์การเล่นแร่แปรธาตุ ที่ยิ่งใหญ่ ชื่อ “ไวท์เทนนิ่ง” โดยมีการเปรียบเทียบขั้นตอนนี้ ถึงช่วงเวลารุ่งสาง หรือ “การเตรียมความพร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไป” ซึ่งก็คือขั้นตอนสุดท้าย หรือหมายถึง ช่วงที่พระอาทิตย์ขึ้น อย่างที่ทราบกันดีว่า เมื่อถึงตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นเต็มที่ พระอาทิตย์จะเปลี่ยนจากสีทอง กลายเป็นสีแดง และเมื่อเราสังเกตดูก็จะพบว่า สีแดง คือสีที่โดดเด่นที่สุดในภาพสุดท้าย(ทางด้านซ้าย) ของจิตรกรรมฝาผนังชิ้นนี้
ภาพทางซ้าย
ภาพ สุดท้ายทางด้านซ้ายของจิตรกรรมฝาผนังชิ้นนี้ มุ่งเน้นไปที่ รูปแบบหรือ ธีม ของ “การทำ หรือ การสร้าง” บุคคลหลักที่โดดเด่นที่สุดในภาพนี้จะเห็นเป็นใครไม่ได้ นอกเสียจาก ชายที่ถือจอบ ซึ่งกำลังตรึกตรองเกี่ยวกับการทำงานให้สำเร็จ กระเป๋าหลังกางเกงของเขาเห็นเป็นชิ้นผ้าสีแดง ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ในบริบทของภาพนี้ และอย่างแน่นอน การเน้นไปที่สีแดงในภาพนี้( นอกจากที่กล่าวไว้ก่อนหน้า)เช่นเดียวกัน คือสีที่มีความเกี่ยวข้องกับ ขั้นตอนสุดท้ายของศาสตร์การเล่นแร่แปรธาตุ มีชื่อว่า Rubedo หรือ “งานสีแดง”
ใน คำสอนลึกลับ การเปลี่ยนแปลงเล่นแร่แปรธาตุสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายระดับ: ระดับวัตถุ ที่โลหะดิบ แปรรูปกลายเป็น ทองบริสุทธิ์ แต่ก็มีอยู่ในระดับ จิตวิญญาณและปรัชญาด้วย เมื่อ “คนที่ดูหมิ่นศาสนา” กลายมาเป็น “ผู้สร้างองค์ใหม่” ตามความเชื่อของสมาคมลับนั้น โลกทั้งโลก ถือ เป็นเงื่อนไข ของการเปลี่ยนแปลง ในการเล่นแร่แปรธาตุนี้ มีการกล่าวกันว่า โลกนี้ คือเครื่องบินที่ไม่สมบูรณ์ลำหนึ่ง ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องทำการ “แปรเปลี่ยนไปเป็นทอง” เพื่อที่จะสามารถสะท้อนภาพสวรรค์ ตามที่สอดคล้องกับ สัจพจน์ หรือ ฐานบทลับ ที่กล่าวถึงหลักการ As Above, So Below “เบื้องบนฉันใดเบื้องล่างก็ฉันนั้น” หรือนี่ จะเป็น ระเบียบโลกใหม่ “Great Work” งานที่ยิ่งใหญ่ ของชนชั้นลึกลับพวกนี้?
ราย ละเอียดของภาพนี้ที่แปลกเป็นอย่างมากคือ ภาพคนตัวใหญ่ที่ถูกผสมกลมกลืนไปกับพื้นดิน และอย่างที่เห็นคือกำลังนอนหลับลึกเลย …หรือจะไม่ใช่การนอน แต่เป็นการถูกฝัง? แล้วว่าแต่ EQ นั่นหล่ะ หมายความว่าอย่างไร?
ความหมายโดยสรุปของภาพจิตรกรรมฝาผนัง
ดั่ง เช่นงานศิลปะของชนชั้นสูงส่วนใหญ่ งานจิตรกรรมฝาผนังที่ติดอยู่ ณ สำนักงานใหญ่ของธนาคารแห่งอเมริกา ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯนี้ บอกเล่าเรื่องราวด้วยความตั้งใจ เพื่อการถอดรหัสโดย ‘ผู้ที่รู้’ เท่านั้น จิตรกรรมฝาผนังที่ดูเหมือนจะแสดงให้เห็นถึงสามขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลงของ โลก – การวางแผน – ความสับสนวุ่นวาย และความสำเร็จ ผ่านการใช้สีรหัส ตามสามขั้นตอนใน การเล่นแร่แปรธาตุลับ (Alchemy) คือ : Nigredo (ความมืดสีดำ), Albedo (ความขาวกระจ่าง) และ Rubedo (ความแดงชาด)
ภาพแรก แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของสัญลักษณ์ลึกลับ ซึ่งบางอันก็สื่ออย่างตรงๆ โดยสามารถโยงไปถึง สมาคมลับฟรีเมสัน หรือ พวกอิลูมินาติ ทว่า เป็นที่น่าประหลาดใจมาก เมื่อภาพวาดนี้ ตั้งอยู่ในล็อบบี้ของสำนักงานใหญ่ของธนาคารที่มีอำนาจมากที่สุดในประเทศ สหรัฐอเมริกา โดยไม่ได้ไปตั้งอยู่ที่ สาขาใดสาขาหนึ่งของพวกสมาคมลับ… อาจเป็นไปได้ว่า จะมีอะไรบางอย่างเลื่อมล้ำกัน.. อย่างไรก็ดี บรรดา ‘ผู้ที่รู้’ และผู้ที่ทราบ ในความลึกลับ ณ ที่นี่ ก็คือ เหล่าผู้ที่ได้รับเลือกว่า มีคุณสมบัติในการประสานงานใน ‘ขั้นตอนการวางแผน’ และตามที่เห็นในภาพวาด ก็ดูเหมือนมันจะหมายถึง กลุ่มคนในชุดสูทนักธุรกิจ ผู้ที่ เน็กไท ของพวกเขา ก็เข้ากันดีกับ พื้นกระดานหมากรุกในภาพ (กล่าวคือ มีความสัมพันธ์กับสมาคมลับ) พวกเขา คือผู้ที่จะทำการตระเตรียมเหล่า ‘คนรุ่นใหม่’ ตามที่ภาพได้นำเสนอผ่าน เด็กชายผมบลอนด์
ส่วนภาพที่สอง ซึ่งสื่อถึง ความไม่สงบของพลเมือง การก่อจลาจล และ การประท้วง โดยตามประวัติศาสตร์แล้ว ฝูงชน มักจะผันตนเป็นกบฏ ก็ต่อเมื่อสภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาเสื่อมลงจนเป็นที่น่าสังเกตได้เท่านั้น หรือ อีกกรณีหนึ่ง คือ เมื่อนโยบายที่ไม่ได้รับความนิยมอย่างมหาศาล ได้รับการอนุมัติ ให้ถูกนำไปใช้ หรือ ตามที่ถูกสื่อในงานชิ้นนี้ ก็คือการสูญเสียเสรีภาพของพลเมือง และการเพิ่มขึ้นของรัฐตำรวจ? นอกจากนี้ยังมีแง่มุมที่เลื่อนลอยเกี่ยวกับภาพนี้อีก คือ ที่ได้นำเสนอผ่านรูปบุคคลเปล่าเปลือย ซึ่งกำลังถูกปั่นด้วยไฟ ดูคล้ายๆกับ ดวงอาทิตย์ โดยมีความหมายว่า ความวุ่นวายในช่วงเวลานี้ จะเกิดขึ้นไปจนถึง ระดับจักรวาล
ภาพสุดท้าย ที่ให้ความรู้สึกถึง “ภารกิจที่ได้รับความสำเร็จ” ด้วยกับ บุคคลที่โดดเด่นที่สุดกำลังประเมินตรวจสอบผลงาน ในขณะเดียวกันก็ที่ยังถ่ายทอดข้อความที่ว่า “งานนี้จะไม่มีวันเสร็จอย่างสิ้นเชิง” เพราะคนงานก็ยังคงทำงานอย่างหนักอยู่ใต้ดิน ชวนให้นึกถึงภาพยนตร์ เมโทรโพลิส (Metropolis) โดยชนชั้นกรรมาชีพจะทำงานเยี่ยงทาสอย่างเงียบๆใต้ดิน เพื่อการเป็นอยู่ที่สมบูรณ์พูนสุขของพวกชนชั้นสูง…
สรุป
จิตรกรรม ฝาผนังของธนาคารแห่งอเมริกานี้ ถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่เกี่ยวกับระเบียบวาระของชนชั้นสูง ที่ถูก “อำพรางอยู่อย่างสามัญ” ภาพวาดใบใหญ่นี้ ถูกนำมาแสดงในที่ที่ทุกคนสามารถมองเห็นได้ แต่กลับออกแบบมาให้สามารถทำความเข้าใจได้โดยคนไม่กี่คน โดย อธิบายถึง ปรัชญาของพวกผู้ปกครองชั้นสูง ความรู้อันลึกลับ และแผนการของพวกเขาในอนาคต อย่างไรก็ดี กรณีของผลงานศิลปะ ย่อมเป็นไปได้ที่เราจะตีความภาพเหล่านี้ตามนัยยะอื่นๆ นอกเหนือไปจากนี้ และจบการวิเคราะห์ด้วยข้อสรุปที่แตกต่างกัน ทว่า มันก็ยากที่จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่ามีภาพในลักษณะเช่นนี้ อย่างมากมาย ซึ่งต่างก็พูดถึงเรื่องที่คล้ายๆกัน คือ “โลกใหม่” การไม่ยอมรับผู้เห็นต่าง สรรเสริญการกดขี่และสงคราม โดยรวมเหล่านี้ ทำให้เชื่อได้ในระดับปัจเจกว่า คือ คนในกลุ่มเดียวกันที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ปฏิกริยาเช่นนี้ทั้งหมดและอื่น ๆ พวกเขาจะเป็นใครก็ตาม อย่างน้อยๆเราก็รู้อย่างแน่นอนว่า พวกเขารวยล้นฟ้า มีอำนาจสุดขั้ว และไม่ชอบเรา เนื่องด้วยว่า เราไม่ได้เป็นหนึ่งจากพวกเขา !!
Source: vigilantcitizen