นิตยสารฉบับหนึ่งของอังกฤษออกมาแฉถึงอาชญากรรมของบรรดาทหารประเทศนี้ที่ก่อไว้ในอัฟกานิสถาน โดยเผยว่า ทหารเหล่านี้ได้บุกรุกบ้านของประชาชนชาวอัฟกันในยามวิกาล และจ่อยิงพวกเขาในระยะกระชั้นชิด หลังจากนั้นก็จะสร้างสถานการณ์ จัดฉากเหมือนกับว่า บรรดาบุคคลเหล่านี้คือแกนนำของกลุ่ม “ตาลีบัน” หรือ “อัลเคด้า”
นิตยสาร “Sunday Times” เขียนว่า : บรรดาทหารที่อยู่ในสังกัดหน่วยรบพิเศษทางอากาศแห่งกองทัพอังกฤษ ( Special Air Service ) ในช่วงเวลาที่อยู่ในอัฟกานิสถาน พวกเขาได้บุกโจมตีบ้านประชาชนในยามวิกาล และจับกุมพวกเขาพร้อมใช้ผ้าคลุมศีรษะ ก่อนจ่อยิงอย่างเลือดเย็น
บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการทหารระดับสูงของอังกฤษเผยว่า หลักฐานและเอกสารที่เชื่อมโยงไปยังกองกำลัง SAS นั้นถูกต้องและเป็นความจริงทุกประการ
Sunday Times รายงานต่อว่า บรรดาผู้เชี่ยวชาญ ขณะที่พิสูจน์หลักฐาน สามารถเข้าใจในทันทีว่า รายงานทั้งหมดเกี่ยวกับปฏิบัติการณ์ของหน่วยรบพิเศษทางอากาศของอังกฤษ (SAS) นั้นถูกจัดทำไว้เพื่อชี้ว่ากองกำลังพิเศษของอัฟกันได้ก่ออาชญากรรมดังกล่าว
มีรายงานว่า มีการบันทึกคลิปวีดิโอจากปฏิบัติการณ์ต่างๆ ของ SAS ซึ่งคลิปเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า ทหารอังกฤษเป็นผู้ยิง ดังนั้นข้อกล่าวอ้างที่ว่า กองกำลังพิเศษของอัฟกันกระทำการดังกล่าวถือเป็นโมฆะ นอกเหนือจากนั้น กระสุนที่นำออกมาจากร่างของผู้ตาย บ่งชี้ว่า กระสุนเหล่านี้ถูกใช้โดยหน่วย SAS ของอังกฤษ เช่นเดียวกัน ในการพิสูจน์จากรูปภาพต่างๆ ที่ได้รับมา บ่งบอกว่ากองกำลังอังกฤษได้นำปืนพกมาคารอฟ (Makarov) ไปใส่ไว้ในมือของผู้ตกเป็นเหยื่อเพื่อสร้างสถานการณ์ว่าบุคคลเหล่านี้เป็นสมาชิกของกลุ่มตาลีบันและไม่ใช่พลเรือน ปืนพกมาคารอฟ (Makarov) ถือเป็นอาวุธที่กลุ่มตาลีบันชอบใช้
ในอาชญากรรมดังกล่าวเหล่าผู้ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมของกองทัพอังกฤษล้วนไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับตาลีบันทั้งสิ้น
ตามการรายงานของสำนักตัวแทนองค์การนานาชาติในอัฟกานิสถาน กองกำลังพิเศษของอังกฤษและสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ได้สังหารพลเรือนอัฟกันกว่า 295 รายในการโจมตียามวิกาลของตน ตั้งแต่ปี 2009 – 2012 ในช่วงเวลานั้นการโจมตีพลเรือนที่ไม่ใช่ทหารก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงขององค์การสิทธิมนุษยชน อาทิเช่น ICRC
ในการรายงานของ ” Sunday Times ” เผยเช่นเดียวกันว่า หนึ่งจากเจ้าหน้าที่กองกำลังพิเศษเผยว่า ในปี 2010 เขาเห็นทหารอังกฤษนำสารยาเสพติดและอาวุธไปยัดใส่ในเสื้อผ้าของผู้ตกเป็นเหยื่อของตน เพื่อทำให้ดูเหมือนกับว่าพวกเขาไม่ได้ฆ่าบุคคลเหล่านี้ในด่านตรวจอย่างไร้เหตุ เจ้าหน้าที่ชาวอังกฤษคนนี้ยังได้เผยเกี่ยวกับปืนพกมาคารอฟด้วยอีกว่า ปืนพกเหล่านี้ได้รับอนุมัติแก่พวกเขา ( ทหารอังกฤษ ) ให้วางใกล้ร่างของผู้ตกเป็นอยู่เพื่อทำให้ดูเหมือน บุคคลเหล่านี้คือสมาชิกระดับสูงของกลุ่มตาลีบันหรืออัลเคด้า เพราะอาวุธนี้ถูกใช้โดยพวกเขา
และอีกด้านหนึ่งก็เท่ากับผู้ที่ถูกสังหารนั้นติดอาวุธ และกองทัพอังกฤษได้สังหารเขาเพื่อปกป้องตัวเอง
ทั้งนี้เหล่าผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า จำเป็นต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะสามารถเปลี่ยนความคิดและทำให้สังคมโลกรับรู้ถึงอาชญากรรมของกองทัพอังกฤษและสหรัฐฯ ที่ก่อในอัฟกานิสถานและอิรักได้
Source: kayhan.ir