เยเมน – ภัยพิบัติด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

364

Jamie McGoldrick ผู้ประสานงาน UN พิเศษในเยเมนสำหรับกิจการด้านมนุษยธรรมกล่าวว่า ซาอุดิอาระเบียและพันธมิตร คือต้นเหตุที่ก่อให้เกิด ภัยพิบัติด้านมนุษยธรรมในเยเมน ซึ่งหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว ถือเป็นภัยพิบัติที่เลวร้ายที่สุดในโลก

หลังจากสองปีและสี่เดือนของการโจมตีอย่างมืดบอดของเครื่องบินรบซาอุดิอาระเบีย ที่ได้ทำลายพื้นที่อยู่อาศัยและโครงสร้างพื้นฐานในเยเมน ซึ่งดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและตามแผนที่ได้กำหนดวางไว้  นอกจากนี้ ซาอุดิอาระเบียยังทำการปิดล้อมเยเมนทั้งทางบก ทางอากาศ และทางทะเล อันเป็นต้นเหตุสำคัญ ที่ทำให้อหิวาตกโรคได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในเยเมน เสมือนว่าโรคร้ายชนิดนี้เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของระบอบการปกครองของซาอุดิอาระเบียและพันธมิตรจากการโจมตีชาติอาหรับที่ยากจนที่สุด และเป็นการยัดเหยียดโรคร้ายนี้ให้กับประชาชนเยเมน

องค์การระหว่างประเทศ และบรรดาองค์กรที่รับผิดชอบต่อสุขภาพได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกันโดยที่ไม่มีความขัดแย้งใดๆ  ว่า สาเหตุหลักของการแพร่ระบาดของอหิวาตกโรคในเยเมน มาจากการที่ซาอุดีอาระเบียได้โจมตีและทำการปิดล้อมเยเมน   เพราะระบอบการปกครองซาอุดิอาระเบียเป็นตัวสกัดกั้นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการแพทย์เข้าถึงประชาชนในเยเมน

กาชาดรายงานว่า เกิดการระบาดอย่างรุนแรงของอหิวาตกโรคในเยเมน มีผู้ติดเชื้อมากกว่า302,488 คน จากประชากร 25 ล้านคน และนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายนจนถึงวันนี้ มีผู้ เสียชีวิตแล้ว  1,713 คน

ในช่วงสิบสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวเยเมนนับหมื่นคนที่รอดชีวิตจากการโจมตีโดยเครื่องบินรบของซาอุดิอาระเบีย ในสภาพที่ร่างกายของพวกเขาขาดแคลนปัจจัยบริโภคที่ง่ายที่สุดของชีวิตเช่นน้ำ อาหารและยารักษาโรค แต่ตอนนี้ร่างกายของพวกเขาต้องสัมผัสกับอหิวาตกโรค

โรเบิร์ต มาร์ดินี่  ผู้อำนวยการกาชาดในภูมิภาคสำหรับตะวันออกกลางกล่าวเมื่อวานนี้ ว่า ในแต่ละวันอย่างน้อยที่สุดประชาชนชาวเยเมน เจ็ดพันกว่าคนที่ติดเชื้ออหิวาตกโรค ซึ่งโรคร้ายเช่นนี้กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักและกว้างขวางในประเทศที่ผู้คน กำลังเผชิญกับความเสี่ยงจากความหิวโหย ความอดอยาก สุขภาพและปัญหาเศรษฐกิจ

เมื่อสองวันที่ผ่านมา เจมี่แมคโกลดริค   เจ้าหน้าที่ประสานงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติในเยเมนกล่าวว่า อหิวาตกโรคได้แพร่กระจายอย่างกว้างขวางในเยเมนและจะมีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก  อย่างไรก็ตามประเทศที่เจริญก้าวหน้าของโลกกลับนิ่งเงียบต่อการก่ออาชญากรรมของพันธมิตรซาอุดิอาระเบีย

เขาย้ำกล่าวว่า โศกนาฏกรรมที่พันธมิตรซาอุดิอาระเบียได้ก่อขึ้นมานั้นทำให้เกิดภัยพิบัติที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง

Marco Baldon  คณะกรรมการศัลยแพทย์กาชาดในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เลบานอน Al-Akhbar กล่าวว่า โรงพยาบาลต่างๆไม่มีความสามารถในการรักษาผู้ป่วยและกำลังขาดแคลนยาและแพทย์อย่างรุนแรง

เขากล่าวเสริมว่า ระบบสุขภาพในเยเมนกำลังสู่การล่มสลาย โดยมีมีเพียงร้อยละสี่สิบห้าของศูนย์ทางการแพทย์ที่เปิดบริการให้กับประชาชนในเยเมน

กาชาดรายงานว่าเกิดการระบาดอย่างรุนแรงของอหิวาตกโรคในเยเมน มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 300,000 คน จากประชาชน 25 ล้านคน

สภากาชาดสากลกล่าวว่ามีการติดเชื้อใหม่วันละ 7,000 คน  และยังควบคุมไม่ได้

องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า นับถึงวันที่ 2 กรกฎาคม มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 262,000 คน และเสียชีวิต 1,587 คน ทั้งนี้เป็นข้อมูลจาก 21 พื้นที่จากทั้งหมด 23 พื้นที่ในเยเมน

อหิวาตกโรคเป็นโรคติดเชื้อรุนแรง จากของเสียในน้ำและอาหาร ประชาชน 14 ล้านคนในเยเมน ไม่สามารถเข้าถึงน้ำสะอาด และสงครามเป็นอุปสรรคต่อการรักษาผู้ป่วย

การระบาดเกิดขึ้นกลางเมืองหลวงของ Sana’a ซึ่งควบคุมโดย กลุ่ม Houthi ภายใต้การสนับสนุนโดยอิหร่าน มีสภาพเลวร้าย การกีดกันของซาอุฯ ได้ทำให้มันกลายเป็น “พายุอหิวาตกโรค” ตามรายงานของ WHO

อีก 3 เมือง ที่มีเหตุระบาดรุนแรงคือ Amran, Hajjah, และ Al Hudaydah ซึ่งล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมโดย Houthi อย่างไรก็ตาม มีรายงานการแพร่ระบาดในเขตที่ซาอุฯหนุนหลัง เขตที่รัฐบาล Hadi ควบคุม และบริเวณที่ควบคุมโดย al-Qaeda

UNICEF กล่าวว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยเป็นเด็ก ทุกๆนาที มีเด็กติดเชื้อ 1 คน

“เราพยายามอย่างดีที่สุด แต่มันเกินกว่าความสามารถของเรามาก” ผู้ประสานงาน UN ในเยเมน Jamie McGoldrick กล่าว

Source: fa.alalam.ir