Sputnik อ้างจาก The Washington Post -สื่อสหรัฐฯ ซึ่งได้รายงานว่า มิคาอิล กอร์บาเชฟ ประธานาธิบดีคนแรก และคนสุดท้ายของสหภาพโซเวียต ได้เขียนจดหมายชี้แนะประธานาธิบดีของรัสเซียและสหรัฐอเมริกา “ควรให้ความสำคัญในประเด็นการลดอาวุธนิวเคลียร์ และการสร้างความมั่นคงทางยุทธศาสตร์โลก”
กอร์บาชอฟ เขียนว่า:
สัญญาฉบับนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ด้วยการสรุปข้อตกลงในการจำกัดยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของการใช้อาวุธนิวเคลียร์ที่ไม่เหมาะสม กระบวนการทำลายล้างขีปนาวุธเริ่มขึ้นในปี 1987 จนถึงปี 2015 ประมาณ 80% ของอาวุธนิวเคลียร์ที่ทั้งสองประเทศได้สะสมนั้นถูกทำลายไป แต่ตอนนี้ข้อตกลงในการลดขีปนาวุธระยะกลางและระยะสั้นกำลังตกอยู่ในอันตราย ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหาอีกฝ่ายหนึ่งว่า ไม่ปฏิบัติตามสัญญา แม้จะมีข้อกล่าวหาและความตึงเครียดด้านความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐอเมริกา แต่พวกเขาก็ยังคงเคารพปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว
กอร์บาชอฟยอมรับว่า ปัญหานี้มีประเด็นทางด้านการเมืองและด้านเทคนิค และเน้นย้ำว่า เฉพาะประธานาธิบดีของรัสเซียและสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ได้ ในข้อความของเขาที่ส่งไปนั้น ยังได้เรียกร้องให้ผู้นำรัสเซีย และอเมริกาเข้าสู่โต๊ะเจรจา และแสดงเจตจำนงทางการเมืองของพวกเขา
กอร์บาชอฟ ได้ย้ำถึงการเชิญหน้ากันระหว่างผู้นำของสองประเทศ โดยแนะให้มีการเข้าร่วมการประชุมอย่างเป็นทางการ โดยเขาเขียนว่า:
พลเมืองของทั้งสองประเทศและโลก กำลังรอคอยการเคลื่อนไหวนี้อยู่ ในศูนย์กลางแห่งการพบปะนั้น ควรให้ความสำคัญในประเด็นการลดอาวุธนิวเคลียร์ และการสร้างความมั่นคงทางยุทธศาสตร์โลก เพราะถ้าระบบการกำจัดอาวุธนิวเคลียร์ถูกทำลายลง หรือไม่ถูกปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ก็จะก่อให้เกิดวิกฤติ และผลกระทบทางตรงและทางอ้อม เมื่อมีการใช้อาวุธนิวเคลียร์ใกล้กับพรมแดนมากขึ้น สถานการณ์เช่นนี้ก็จะเป็นอันตรายมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อ เวลาในการตัดสินใจมีน้อยมาก ขณะที่มันมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดข้อผิดพลาดครั้งร้ายแรงขึ้น หากการแข่งขันอาวุธนิวเคลียร์เกิดขึ้นอีกครั้ง ข้อบังคับในการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ก็จะถูกทำลาย
แต่ถ้าข้อตกลงของสหภาพโซเวียตและอเมริกาได้รับการช่วยเหลือ เพื่อลดขีปนาวุธระยะสั้นและระยะกลาง ก็จะเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนต่อโลกว่า พลังนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ได้หยุดชะงักลง ด้วยการตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อความสงบสุขของโลก ประชาชาติทั้งหลายก็หายใจได้ง่ายขึ้น และความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐอเมริกาจะออกมาจากสภาพที่หยุดนิ่ง การเตรียมเนื้อหาข้อตกลงของการประกาศร่วมกันของทั้งสองประธานาธิบดี เกี่ยวกับความพร้อมที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ถือเป็นเป้าหมายที่สมจริง
แต่เรากำลังใช้ชีวิตอยู่ในโลกของความไม่สงบ และความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่สำคัญ เป็นแหล่งที่มาของความตึงเครียดที่รุนแรง และการผูกมัดเชิงการเมืองในประเทศของตนยังเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงยิ่ง ได้เวลาที่จะกลับไปสู่สามัญสำนึกแล้ว หากความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯกลับคืนสู่สภาวะปกติ แม้แต่บรรดาผู้คัดค้านและฝ่ายค้านก็ไม่กล้าที่จะค้านกับประธานาธิบดีทั้งสอง บรรดานักวิจารณ์เหล่านี้ จะไม่มีข้ออ้างใดๆในเรื่องนี้ เพราะสัญญาการลดลงของขีปนาวุธมีผลใช้งานได้ 30 ปี และพิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพและแสดงให้เห็นว่าได้ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของทั้งสองประเทศและทั่วโลก
กอร์บาชอฟ เขียนในตอนท้ายว่า :
จะอย่างไรก็ตาม ถือเป็นเรื่องยากที่จะทำตามขั้นตอนแรก ในปี 1987 มันงานที่ยากลำบากในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ออกจากโลก อันเป็นบรรลุข้อตกลงของโซเวียตและอเมริกา เพื่อลดขีปนาวุธระยะสั้นและระยะปานกลาง ในขณะนี้ เรากำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายที่สอง – ความจำเป็นในการป้องกันการล่มสลายของข้อตกลงนิวเคลียร์ และกำจัดแนวโน้มเชิงลบในความสัมพันธ์รัสเซีย-อเมริกา และตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องทำขั้นตอนแรกแล้ว
อนึ่ง มิคาอิล กอร์บาเชฟ เกิดในปี 1931 และเป็นผู้นำของสหภาพโซเวียต ในระหว่าง 1985-1991
Source: ir.sputniknews
