“อิหร่าน” วงแหวนเชื่อมทางสายไหม ในการค้ากับจีนสู่ตะวันออกกลาง  

791

โครงการขนส่งทางรถไฟของขบวนรถไฟ เส้นทางจีน – คาซัคสถาน – เติร์กเมนิสถาน – อิหร่าน เป็นทางเดินขนส่งเชิงพาณิชย์ในประวัติศาสตร์ของเส้นทางสายไหม

สำนักงานของกระทรวงการต่างประเทศเติร์กเมนิสถานออกแถลงข่าว เมื่อวันอังคารกรณีเริ่มเปิดเส้นทางขบวนรถไฟคอนเทนเนอร์จากจีนไปยังอิหร่าน ผ่านคาซัคสถานและเติร์กเมนิสถาน

อิหร่าน คาซัคสถาน จีน และเติร์กเมนิสถานได้บรรลุข้อตกลงเมื่อปลายปีที่แล้ว (2017)  เพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งทางรถไฟระหว่างสี่ประเทศ

ในภูมิศาสตร์ของภูมิภาค การขนส่งและการเข้าถึงเชิงพาณิชย์ของประเทศในเอเชียกลางและคอเคซัสที่ไปสู่น่านน้ำที่เป็นอิสระมีความสำคัญมาก ซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยผ่านเส้นทางของอิหร่าน

ความร่วมมือของจีน อิหร่าน คาซัคสถาน และเติร์กเมนิสถานในกรอบของโครงการร่วม สำหรับการก่อสร้างทางรถไฟดังกล่าวได้สร้างโอกาสพิเศษขึ้น โดยจากมุมมองของธุรกิจ  ขบวนรถไฟจากจีน-คาซัคสถาน-เติร์กเมนิสถาน-และอิหร่านเป็นโครงการที่ทำกำไรได้ ซึ่งอาจส่งผลดีต่อการพัฒนาความร่วมมือทางธุรกิจทั่วภูมิภาค

รถไฟบรรทุกสินค้าแห่งแรกจากจีน-คาซัคสถาน-เติร์กเมนิสถาน-และอิหร่านที่เรียกว่า “รถไฟทางสายไหม” เริ่มขึ้นเมื่อสองปีก่อน (ต้นปี2016 ) มีต้นทางจากสถานีรถไฟเมือง Yiwu ในจังหวัด Hu Jiang ทางตะวันออกของประเทศจีน โดยจะผ่านระยะทางราว 10, 339 กิโลเมตร นาน12 วัน จึงจะถึงปลายทางกรุงเตหะราน

เมื่อต้นปีใหม่ที่ผ่านมา รถไฟจากฉางชาเมืองหูหนานประเทศจีนเริ่มการเดินทางเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2017 และผ่านทางรถไฟ Altıncoy – “Bolshach” ของคาซัคสถาน และ Turkmen กำลังแล่นมุ่งหน้าสู่เตหะราน   โดยเส้นทางจาก Chansha-Tehran ผ่านคาซัคสถานและเติร์กเมนิสถาน มีความยาวมากกว่า 10, 297 กิโลเมตร

รถไฟทดสอบนี้มีกำหนดจะมาถึงปลายทางภายใน 14 วัน ซึ่งเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดเมื่อเทียบกับการขนส่งทางทะเล

ด้วยการดำเนินการโครงการร่วมระหว่างอิหร่าน-เติร์กเมนิสถาน-และคาซัคสถานในเดือนธันวาคมปี 2014 ทำให้ลดเส้นทางการขนสนระหว่างตะวันออก (จากจีนไปยังเอเชียกลาง) และตะวันตกของโลก (โดยเฉพาะในยุโรปตะวันตก) ประมาณ 10,000 กม.

ตลาดทางเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ของอิหร่านและการเข้าถึงแหล่งน้ำอิสระระหว่างประเทศในทะเลโอมานและอ่าวเปอร์เซียจะเป็นข้อได้เปรียบในการจัดหาแพลตฟอร์มที่เหมาะสมสำหรับประเทศอิหร่าน เพื่อเป็นจุดหลักและเส้นทางการขนส่งสาธารณะในภูมิภาคนี้

Theodore Tskairis  นักเศรษฐศาสตร์จากศูนย์ศึกษาเศรษฐกิจและการศึกษากรีก (KEPE) กล่าวถึงความสำคัญของโครงการนี้ว่า :

“… การขนส่งของเส้นทางนี้ถือเป็นสิ่งที่ปลอดภัยและเป็นการอนุรักษ์ต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เนื่องจากใช้ทางรถไฟและเส้นทางนอกชายฝั่ง”

เมื่อพิจารณาถึงตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ของอิหร่านในภูมิภาคและการเปิดเส้นทางรถไฟ Sarakhs, Razi และ Ince Bouron ถือเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าและการขนส่งทางรถไฟกับประเทศในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้นและจัดอยู่ในลำดับความสำคัญของความร่วมมือของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน

ในเส้นทางการค้านี้อิหร่านจะเป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญที่สุดระหว่างทางบกและทางทะเลกับเส้นทางสายไหมแห่งประวัติศาสตร์ และมีบทบาทสำคัญในการขยายความร่วมมือ

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุการณ์ประท้วงในอิหร่านที่ผ่านมามีความเกี่ยวข้องกับเส้นทางรถไฟดังกล่าว ทั้งนี้ จากการเผยแพร่ของรัสเซีย ทำให้ทราบว่า สถานที่ซึ่งเกิดความวุ่นวาย หรือ จุดประท้วงในอิหร่าน ณ วันนี้ ล้วนแต่เป็นสถานีสำคัญของเส้นทางสายไหมของจีนที่กำลังดำเนินการขยายอยู่ และนอกจากนี้ยังเป็น เส้นทางขนส่งระหว่างประเทศจากเหนือจรดใต้ (the International North South Transport Corridor=INSTC) ภายในประเทศอิหร่านด้วย จึงมีความเป็นไปได้ที่เบื้องหลังการประท้วงในอิหร่านจะมีสาเหตุมาจากการแทรกแซงทางการเมือง โดยประเทศมหาอำนาจที่มิเห็นชอบด้วยกับโครงการร่วมนี้

*โลเกชั่นที่เกิดความวุ่นวาย* ในอิหร่าน แผนที่ซึ่งได้รับการเผยแพร่โดยรัสเซีย

Source: parstoday