16 มีนาคม เป็นวันครบรอบการโจมตีทางทหารของ Saddam Hussein ณ เมืองที่เป็นที่อยู่อาศัยของชาวเคิร์ดใน Halabja ในดินแดนอิรัก
ในโอกาสครบรอบ 30 ปี หลังจากการทิ้งระเบิดเคมีนี้ บรรดาผู้รอดชีวิตและพลเมืองของ Halabja พร้อมกับเจ้าหน้าที่ของเมืองนี้ ต่างเดินทางไปยังสุสานขนาดใหญ่ของเมืองและทำการระลึกถึงการเสียชีวิตของผู้เคราะห์ร้ายจากพวกเขาในอดีต
ไม่กี่เดือนหลังจากที่อิหร่านยอมรับมติ598 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และสิ้นสุดสงคราม 8 ปีระหว่างอิหร่านและอิรัก เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 1988 กองทัพอิรักก็ได้โจมตีเมือง Halabja โดยการใช้ระเบิดเคมี
แม้จะมีข้อเท็จจริงที่ว่า ทีมพิเศษของแพทย์ไร้พรมแดนได้ประเมินจำนวนผู้เสียชีวิตในเมืองนี้ ที่มีประชากรมากกว่า 40,000 คน โดยคาดว่าพลเรือนราว 3,000 คนเสียชีวิต แต่ทว่าทางด้านรัฐบาลอิหร่านกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตประมาน 5,000 คน
ในวันก่อนที่จะมีการทิ้งระเบิดเคมี ทางกองทัพอิรักภายใต้ข้ออ้างว่า พรรคชาวเคริด์และกลุ่มต่างๆในภูมิภาคนี้ได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังอิหร่าน ภายหลังจากกองกำลังปฏิวัติอิหร่านได้ยึดพื้นที่ในเคอร์ดิสถาน ในรูปแบบของปฏิบัติการ วัลฟัจญ์ 10 ( Valfajr) กองทัพอิรักจึงได้ทำการโจมตีระเบิดเคมีเมือง Halabja หลังจากการโจมตีเหล่านี้ กองกำลังชาวเคิร์ดจำนวนมากได้หลบภัยในที่ราบสูงและเนินเขา และในระหว่างการโจมตีทางเคมี สตรี เด็กและผู้สูงอายุจำนวนมากยังคงอาศัยอยู่ในเมือง
การทิ้งระเบิดเคมีของเครื่องบินรบอิรักใน Halabja กินเวลานานห้าชั่วโมง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปฏิบัติการดาวกระจายโดยซัดดัมฮุเซ็น (Saddam Hussein) ซึ่งเป็นปฏิบัติการที่เกิดขึ้นในเมืองเคิร์ด Kirkuk, Diyala, Ninawa และ Salah al-Din ในอิรัก ภายใต้การบังคับบัญชาของ Ali Hassan Majid หรือเป็นที่รูจักในนาม Ali Chemical (ลูกพี่ลูกน้องของ Saddam Hussein)
หลังจากนั้นบรรดานักรบชาวเคิร์ดได้กลับเข้าเมืองทันที ผู้สื่อข่าวต่างประเทศและกองกำลังอิหร่านก็ได้เดินทางมาถึงสถานที่เกิดเหตุอย่ารวดเร็ว หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ภาพอันน่าสะพรึงกลัวของเมืองนี้ หลังจากการโจมตีด้วยอาวุธเคมี และภาพศพผู้เสียชีวิต ทั้งเด็ก สตรี และผู้สูงอายุซึ่งนอนเกลื่อนบนถนน Halabja ก็ได้แพร่กระจายจากโทรทัศน์ของอิหร่าน และทำให้ชาวโลกถึงกับช็อคและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่ามาก
หลังจากนั้นทางคณะทูตพิเศษขององค์การแพทย์ไร้พรมแดนได้ออกมายืนยันว่า มีการใช้ก๊าซมัสตาร์ดและระเบิดชนิดที่ทำลายส่วนประสาทและสมองจริง โดยผู้คนมากกว่า 7,000 ถึง 10,000 คน ได้รับพิษและได้รับบาดเจ็บ อันเป็นผลมาจากการทิ้งระเบิดเคมีครั้งนี้ และการโจมตีครั้งนี้ยังส่งผลที่ตามมาเป็นเวลาหลายปี ซึ่งทำให้ทารกแรกเกิดมีความผิดปกติทางร่างกาย พิการและเป็นโรคอื่น ๆ
Ali Hassan Majid หรือที่เรียกว่า Ali Chemical ผู้บัญชาการและตัวการในการทิ้งระเบิดเคมีกล่าวในการป้องกันตัวเองในชั้นศาลหลังจาก 20 ปีของการโจมตีว่า เขาได้ดำเนินการเพื่อปกป้องความมั่นคงของประเทศอิรัก และสุดท้ายศาลได้ตัดสินประหารชีวิตเขา ในปี 2010
Source: fa.euronews
