ฮามาสกร้าว เราจะยืนหยัดต่อสู้กับอิสราเอลต่อไป

344

เลขาธิการ กลุ่มเคลื่อนไหวต่อสู้ตามแนวทางอิสลาม (ฮามาส) ได้กล่าวปราศัย ว่า “ตราบใด แผ่นดินปาเลสไตน์ ทุกๆที่ยังไม่ได้รับการปลดแอก ฮามาสจะไม่มีวันวางอาวุธอย่างเด็ดขาด
เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ ๑๓ มีนาคม  รอมฎอน อับดุลลอฮ ชัลฮ พรรคฮามาส ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว อัลมะยาดีน เลบานอน ว่า “อาวธทุกอย่างที่เรามี ไม่ได้มีไว้เพื่อเช่าซื้อ เรามีอาวุธก็เพื่อปาเลสไตน์ และตราบใดที่ ปาเลสไตน์ยังไม่ได้รับการปลดปล่อย เราจะไม่มีวันทิ้งอาวุธอย่างเด็ดขาด

เขายังชี้ว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างปาเลสไตน์ และอิสราเอล นั้น เป็นการสูญเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ และยังทำให้ชาวปาเลสไตน์ ต้องแบกรับ ความเจ็บปวด และความโศรกเศร้าเพิ่มขึ้นไปด้วย
ผู้อาวุโสฮามาสท่านนี้ยัง ได้ชี้อีกว่า ประชาชนชาวปาเลสไตน์ ไม่อาจอาศัยอยู่ ท่ามกลางการรุกรานที่ไร้ความอธรรมอันนี้ได้ คือการขยายอาณาเขตของอิสราเอล ในเขตเวสแบงค์ และขยายเมืองชาวยิวในบัยตุลมุกอดดิซ การปะทะกันที่เกิด นับตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา สืบเนื่องมาจาก การโจมตีทางอากาศของกองทัพอิสราเอล ในเมืองคานยูนุส ทางตอนใต้ของฉนวนกาซ่า ซึ่งทำให้ชาวปาเลสไตน์ ต้องเสียชีวิตถึงสามคน และเหตุการณ์ นองเลือดในครั้งนี้ ยังเป็นเหตุให้เกิดการตอบโต้ของทั้งสองฝ่ายอีกด้วย

พรรคเคลื่อนไหวต่อสู้ปาเลสไตน์ หรือฮามาส ได้ถือว่า อิสราเอล ได้พรากชีวิตผู้คนมากมายในแผ่นดินแห่งนี้ และจากความรุนแรงที่เป็นมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด นาย  Avigdor Lieberman รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอิสราเอล ยังได้แสดงเจตจำนงค์ในการยึดครองแผ่นดินกาซ่าในครั้งใหม่นี้อย่างเปิดเผยอีก ด้วย
กาซ่า ถูกปิดล้อมอย่างสมบูรณ์แบบนับตั้งแต่ปี ๒๐๐๗ ซึ่งการปิดล้อมของอิสราเอลนั้นทำให้จำนวนประชากรประสบปัญหา การดำรงชีพพื้นฐาน ความยากจน  และจำนวนคนตกงานเพิ่มมากขึ้น   รัฐเถื่อนอิสราเอล ได้สั่งห้าม ไม่ให้ชาวปาเลสไตน์  ที่อาศัยอยู่ในกาซ่า ประมาน ๑ ล้าน ๘ แสนคน ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน ทั้งการประกอบอาชีพ สุขอนามัย และการศึกษา