Farsnews – ผู้ก่อตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัย “แบล็กวอเตอร์” ได้ยืนยันว่า ในปี 2016 เขาได้ร่วมประชุมกับลูกชายคนโตของโดนัลด์ ทรัมป์ประธานสหรัฐอเมริกาและผู้แทนสองคนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดิอาระเบีย โดยมีเป้าหมายเพื่อวางแผนสมคบคิดต่อต้านอิหร่าน
เอริค พรินซ์ (Erik Prince) ผู้ก่อตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัย “แบล็กวอเตอร์” (Blackwater) ได้ยืนยันเป็นครั้งแรกว่า การประชุมนี้จัดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2016 ในอาคารทรัมป์ทาวเวอร์ (Tramp Tower) ในเวลาเดียวกับการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา และในการประชุมนี้ได้มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับ “นโยบายต่างๆ ที่มีต่ออิหร่าน” ผู้ก่อตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัย “แบล็กวอเตอร์” กล่าวในการสัมภาษณ์กับโทรทัศน์อัลจาซีรา
ในขณะที่ก่อนหน้านี้ ในการเป็นพยานของตนในสภาครองเกสของสหรัฐอเมริกานั้น เอริค พรินซ์ ได้ปฏิเสธการแทรกแซงทุกรูปแบบในการรณรงค์หาเสียงของทรัมป์
แต่ในช่วงเวลาที่ “มะฮ์ดี ฮะซัน” ผู้ดำเนินรายการของอัลจาซีร่า ได้ถามเขาถึงสาเหตุที่เขาไม่เปิดเผยการพบปะกันครั้งนี้ในที่ประชุมของสภาครองเกส เอริค พรินซ์ ได้ปฏิเสธประเด็นนี้และบอกว่าข้อความที่ถูกอ่านในรายการเกี่ยวกับคำพูดของเขาในที่ประชุมดังกล่าวนั้นไม่ถูกต้อง
ข่าวการพบปะกันของ “โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์” (ลูกชายของทรัมป์) กับเอริค พรินซ์ และ “จอร์จ เนเดอร์” (George Nader) ได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งแรกโดยนิวยอร์กไทมส์ เมื่อปีที่แล้ว
ตามข้อเขียนของสื่อนี้ “จอร์จ เนเดอร์” ซึ่งเป็นบุคคลลึกลับและมีอิทธิพลในคณะปกครองของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดิอาระเบียได้เป็นสื่อกลางในการติดต่อระหว่างมกุฎราชกุมารของทั้งสองประเทศกับทรัมป์ ในช่วงระยะเวลาเพียงสามเดือนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี
นิวยอร์กไทมส์ได้เขียนว่า จอร์จ เนเดอร์ ในการพบปะกับทรัมป์จูเนียร์ ได้เผยถึงความกระตือรือร้นของเจ้าชายซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่จะช่วยให้พ่อของเขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี และกล่าวว่า ตามความเชื่อของพวกเขา ทรัมป์สามารถที่จะเติมเต็ม “สุญญากาศทางอำนาจที่ถูกสร้างขึ้นในตะวันออกกลางด้วยผลของนโยบายต่างๆ ของบารัก โอบาม”
ในเนื้อหาอีกส่วนหนึ่งของรายงานของนิวยอร์กไทม์สซึ่งเป็นที่สนใจของสื่อทั้งหลายคือแผนซึ่งในเวลานั้น จอร์จ เนเดอร์ ได้จัดเตรียมเพื่อที่จะทำลายเศรษฐกิจของอิหร่านด้วยเป้าหมายที่จะกดดันให้กรุงเตหะรานยุติจากโครงการนิวเคลียร์
นิวยอร์กไทมส์ไม่ได้พูดถึงว่า อาบูดาบีสนับสนุนแผนนี้มากน้อยเพียงใดและในที่สุดก็มีการนำไปปฏิบัติหรือหยุดแค่เพียงการพิจารณาตรวจสอบ
รายงานดังกล่าวนี้ในช่วงเวลานั้นได้ถูกพิจารณาว่า เป็นเบาะแสหนึ่งที่เผยถึงความสัมพันธ์ลับของเจ้าหน้าที่รัฐบาลปัจจุบันของสหรัฐฯ กับซาอุดิอาระเบียที่อาจเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทำเนียบขาวจึงเพิกเฉยต่อการอาชญากรรมจำนวนมากของบรรดาผู้ปกครองของซาอุดิอาระเบีย
ตามรายงานของ IRNA ล่าสุดเว็บไซต์ “The Daily Beast” รายงานว่า ในการเดินทางเยือนซาอุดิอาระเบียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาของ “จาเร็ด คุชเนอร์” ลูกเขยของทรัมป์ ขัดกับพิธีทางการทูตที่บรรดาเจ้าหน้าที่ของสถานทูตสหรัฐอเมริกาได้ถูกห้าม จากการเข้าร่วมในการพบปะส่วนตัวของเขากับ “มุฮัมมัด บินซัลมาน” มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบียและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ของประเทศนี้
ในขณะที่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกาพยายามปกป้องมุฮัมมัด บินซัลมาน หลังจากการเปิดโปงบทบาทของเขาในการสังหาร “ญะมาล คาช็อกกีนักข่าวชาวซาอุดิอาระเบีย