เพรสทีวี – ดร.มหาเดร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวว่า การยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ในความพยายามจัดตั้งรัฐเถื่อนที่เรียกว่าอิสราเอลเป็นสาเหตุหลักของการก่อการร้ายในโลกนี้
ในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวอะนาโดลูของตุรกี มหาเดร์ย้ำว่า หากต้นเหตุของการก่อการร้ายไม่ได้ถูกจัดการ ก็จะเป็นการยากที่จะหยุดยั้งมัน
“ สิ่งสำคัญที่เราคิด เราควรเน้นย้ำอยู่เสมอถึงสาเหตุของการก่อการร้าย วันนี้ เป็นมติเกือบเอกฉันท์ที่จะกล่าวโทษการก่อการร้ายว่าเกี่ยวข้องกับชาวมุสลิม” นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวในการให้สัมภาษณ์สื่อตุรกี เขาอยู่ในห้วงการเดินทางเยือนตุรกีตามคำเชิญของแอร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี
“ แต่ความจริง ที่คุณพูด นั่นหลังจากการยึดปาเลสไตน์และไม่สนใจกฎหมายระหว่างประเทศของอิสราเอล สิ่งนี้นำไปสู่การกระทำที่เรียกว่าการก่อการร้าย แต่เพื่อจะกำจัดการก่อการร้าย เราจำเป็นต้องทราบเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงต้องก่อการร้าย หากคุณไม่ขจัดสาเหตุของการก่อการร้าย คุณจะไม่สามารถหยุดการก่อการร้ายได้” เขากล่าว
มหาธีร์เรียกร้องให้ระบอบการปกครองของเทลอาวีฟอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์กลับคืนสู่บ้านเกิดและคืนทรัพย์สินของพวกเขา หรืออย่างน้อยก็ให้หยุดการขยายนิคมตั้งถิ่นฐานของชาวอิสราเอลที่ผิดกฎหมาย
“นอกจากนี้ ถ้าเรารู้ถึงต้นเหตุของการก่อการร้าย และเราขจัดมัน เราดำเนินการเพื่อหยุดความอยุติธรรมนี้ที่กระทำต่อชาวปาเลสไตน์ ผมคิดว่าทั่วโลกจะมีการก่อการร้ายน้อยลงหรือไม่มีการก่อการร้ายเลย” เขากล่าว
ก่อนหน้านี้มหาเดร์ได้ขนานนามอิสราเอลว่าเป็น “รัฐโจร” และกล่าวว่า ประเทศของเขามีความสัมพันธ์ฉันมิตรกับทุกประเทศในโลกยกเว้นอิสราเอล
ชาวอิสราเอลประมาณ 600,000 คนอาศัยอยู่ในนิคมการตั้งถิ่นฐานอย่างผิดกฎหมายกว่า 230 แห่งที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1967 หลังการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ในฝั่งเวสต์แบงก์และกรุงเยรูซาเล็มตะวันออก
รายงานระบุว่า ขณะนี้มีชาวปาเลสไตน์ 7,000 คนถูกกักขังอยู่ใน 17 เรือนจำและศูนย์กักกันอิสราเอล
กรุงเยรูซาเล็มยังคงเป็นแกนกลางของความขัดแย้งอิสราเอล – ปาเลสไตน์ โดยที่ชาวปาเลสไตน์หวังว่าในที่สุดทางฝั่งตะวันออกของเมืองนี้จะเป็นเมืองหลวงของรัฐปาเลสไตน์อิสระในอนาคต