ชวนคิด ทำไมสหรัฐอเมริกา “ครองอันดับ 1  ของโลก”  ติดเชื้อโควิด-19 ?

873

จากการสังเกตครั้งแรกที่มีการระบุผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในดินแดนของสหรัฐอเมริกาเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม จนถึงวันนี้  ( 28 มีนาคม )  สถิติอย่างเป็นทางการเปิดเผยว่า ชาวอเมริกันกว่าหนึ่งแสนคน ติดเชื้อไวรัสโคโรนา  ส่งผลให้อเมริกามีผู้ติดเชื้อสูงเป็นอันดับหนึ่งของโลก

ทำไมอเมริกาถึงตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ?  อะไรคือสิ่งที่ไม่คาดคิดเกี่ยวกับการแพร่กระจายของโคโรนาในประเทศนี้ ?

แพทย์ให้การรักษาล่าช้า

AFP รายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาในสหรัฐยังไม่ถึงจุดสูงสุด ( จุดพีค)  และยังมีอีกหลายปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังการติดเชื้อจำนวนสูงเป็นประวัติการณ์ในประเทศนี้

ในช่วงเริ่มแรก วิกฤตการระบาดของไวรัสโคโรนา ประธานาธิบดีสหรัฐฯโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่เห็นถึงภัยอันตรายของไวรัสนี้ ซึ่งตรงกันข้ามกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข    ซึ่งเชื่อว่าการระบาดของโรคนี้ในท้องถิ่นเป็นสิ่งที่ “หลีกเลี่ยงไม่ได้”

เมื่อไวรัสโคโรนาเริ่มระบาด ในขั้นต้นที่เริ่มระบาดในวอชิงตันและแคลิฟอร์เนีย (อเมริกาตะวันตก) ก็ไม่สามารถทำการตรวจร่างกายประชากรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อระบุผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสได้

รัฐบาลของทรัมป์เริ่มกำหนดข้อจำกัดบางประการ ที่อนุญาตให้สหรัฐฯขยายการตรวจสอบทางการแพทย์ของพวกเขา ซึ่งสิ่งนี้ทำให้มีความล่าช้าในกระบวนการต่อสู้และรับมือกับการแพร่ระบาดในประเทศ

การตรวจและการทดสอบทางการแพทย์ครั้งแรกถูกส่งไปยังสำนักงานใหญ่ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคในแอตแลนต้า

ในทางกลับกันศูนย์เหล่านี้ส่งผลการตรวจและการทดสอบที่ไม่ได้มาตรฐานกลับไปยังวอชิงตัน ซึ่งนำไปสู่ความล่าช้าที่เพิ่มขึ้นในการจัดการต่อสู้กับไวรัสโคโรนาในสหรัฐอเมริกา

ในที่สุดรัฐบาลทรัมป์ก็ยกเลิกข้อจำกัดของรัฐในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ หลังจากที่ผู้ป่วยรายแรกในสหรัฐอเมริกาเสียชีวิตด้วยการติดเชื้อไวรัสโคโรนาหลังจากที่เฝ้าติดตามผู้ติดเชื้อมาเกือบหนึ่งเดือน  และหลังจากนั้น ภาคเอกชนเริ่มมีความพยายามที่จะสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในประเทศ

Gabor Klein ผู้อำนวยการแผนกฉุกเฉินของมหาวิทยาลัย จอห์น ฮอปกิ้นส์ กล่าวว่า “เราน่าจะสามารถระบุผู้คนที่สัมผัสกับโคโรนาได้ทันเวลา เราเห็นจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและเราก็พยายามกักกันพื้นที่

เจ้าหน้าที่สหรัฐกำลังพยายามปกป้องตัวเอง ณ จุดนี้ และตอบโต้ต่อการท้วงติงว่า : ผลการทดสอบและการตรวจสอบเป็นผลบวกในเกาหลีใต้ แต่แม้ในฐานะประเทศต้นแบบที่มีระดับยุทธศาสตร์การเฝ้าระวังโดยรวมของผู้ติดเชื้อ  ในบางครั้งยังมีความผิดพลาดเกิดขึ้น

แต่สิ่งนี้สำหรับ Gabor Klein ถือว่าไม่สำคัญ  เพราะเขากล่าวย้ำว่า “สิ่งที่ฉันสอนนักเรียนของฉันในชั้นเรียนทางการแพทย์คือ ไม่มีอะไรดีกว่าการไม่มีอะไรเลย  และยิ่งวันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผลของมันจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและในที่สุดศัตรูที่ดีก็ย่อมจะดีกว่า

ไร้การเคลื่อนไหวระดับชาติ

รัฐนิวยอร์กได้กลายเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในสหรัฐอเมริกา  ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  ตามด้วย รัฐนิวเจอร์ซีย์ แคลิฟอร์เนีย วอชิงตัน  มิชิแกนและอิลลินอยส์

โทมัสไท ศาสตราจารย์ด้านสาธารณสุขแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เตือนว่า  แม้ว่าในรัฐที่ยังไม่ได้มีการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนา  พวกเขาก็ไม่ควรที่จะบอกว่าไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ถึงบทเรียน

โทมัสไท ยังได้กล่าวอีกว่า สหรัฐฯไม่ได้เป็นหน่วยงานเดียวกัน  ในอเมริกามีห้าสิบรัฐ  โดยการดำเนินการต่าง ๆ ตัดสินใจโดยผู้ปกครองและหน่วยงานด้านสาธารณสุขในรัฐนั้นๆ

โทมัสไท ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า  :“ ฉันคิดว่าสิ่งที่เราต้องการในอเมริกา คือความพยายามและการประสานงานระดับชาติที่แท้จริง”

ในช่วงเย็นวันศุกร์ (27 มีนาคม) ชาวอเมริกันมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ถูกกักตัว  นั่นหมายความว่าประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ของประชากรชาวอเมริกัน 320 ล้านคนไม่ปฏิบัติตามและไม่กักตัวเอง

ต้องทำอะไรในวันนี้ ?

จนถึงตอนนี้คาดหวังว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาในสหรัฐอเมริกาค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับสเปนและอิตาลี  แต่สิ่งนี้จะดำเนินต่อไปหรือไม่ ?   นี่เป็นคำถามที่ผู้เชี่ยวชาญมีทัศนะออกเป็นสองกลุ่ม

David Fisman ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสจากมหาวิทยาลัยโตรอนโตกล่าวว่า  “ ยอดจำนวนผู้เสียชีวิตในสหรัฐอเมริกาไม่แน่นอน”

เขากล่าวเสริมว่า “ จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นและถึงเวลาที่จะได้รับสถิติที่แท้จริง”

เขากล่าวอีกว่า : ฉันคาดหวังว่าสหรัฐอเมริกาจะใกล้ถึงความหายนะแล้ว

ทุกคนเห็นพ้องกับวิธีการหนึ่ง  นั่นคือ การเว้นห่าง “ระยะทางสังคม” ที่มีความสำคัญต่อการ “ลดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา” ในความหมายที่ว่าจำนวนผู้ป่วยรายใหม่จะมีจำนวนน้อยลง  และเป็นการป้องกันความเหนื่อยหน่ายของบุคลากรโรงพยาบาลในนิวยอร์กในระดับหนึ่ง

สรุปก็คือเพื่อเป็นการหยุดเชื้อไม่ให้แพร่ระบาดต่อเนื่อง และ “ลดจำนวน” ของการแพร่ระบาด  จำเป็นต้องมีมาตรการกีดกันทางสังคม  หยุดการระบาดของเชื้อให้ช้าลงและลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพื่อป้องกันความเหนื่อยหน่ายของของบุคลากรในโรงพยาบาล เช่นนิวยอร์ก  ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

จากมุมมองทางวิทยาศาสตร์ ตามทัศนะของ  Gabor Klein กล่าวว่า อันตรายของไวรัสน่าจะน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไปและความร้อนอาจทำให้การแพร่กระจายช้าลง

คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยวอชิงตัน คาดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในสหรัฐอเมริกาจะสูงถึง 80,000 คน หากแนวโน้มการระบาดของไวรัสโคโรนายังคงดำเนินต่อไปจนถึงกลางเดือนเมษายน

การคาดการณ์ดังกล่าวโดยคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยนี้ แสดงให้เห็นว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่ต่ำที่สุดในสหรัฐอเมริกาจะอยู่ที่  38,000  ราย และสูงที่สุดประมาณ  126,000 ราย

source: https://www.irna.ir