โรคหวาดกลัวอิหร่าน (Iranophobia): อุบายของสหรัฐฯ ในการขายอาวุธให้แก่โลกอาหรับ

208

           ทุกวันนี้ คลื่นแห่งการบิดเบือนต่อต้านอิหร่านสามารถพบได้จากการนำเสนอของสื่อตะวันตก เป้าหมายอย่างหนึ่งของพวกเขา ในการสร้างภาพพจน์ที่เป็นเท็จดังกล่าว คือการทำให้ “โรคหวาดกลัวอิหร่าน” (Iranophobia) ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วทั้งภูมิภาค “เอเชียตะวันตก” (ตะวันออกกลาง) และทั่วโลก  อิมามคาเมเนอี ผู้นำสูงสุดรัฐปฏิวัติอิสลามอิหร่าน ในหลายวาระโอกาส ได้อภิปรายและเน้นย้ำถึงความจริงที่ว่า วอชิงตันได้ใช้โรคหวาดกลัวอิหร่าน เป็นกลอุบาย เพื่อโฆษณาชวนเชื่อการขายอาวุธให้กับประเทศอาหรับ และทำให้ประชาชาติมุสลิมเพิกเฉยต่อระบอบไซออนิสต์

ประเทศต่างๆ แม้แต่ชาติตะวันตกที่ถือเป็นศัตรูกับอิหร่าน อันที่จริงแล้ว มิได้จงเกลียดจงชังต่ออิหร่าน พวกเขาอาจเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อ เพื่อยุยงปลุกปั่นโรคหวาดกลัวอิหร่าน (Iranophobia)  และโรคหวาดกลัวอิสลาม (Islamophobia)  พวกเขาอาจเผยแพร่โรคหวาดกลัวอิสลามในบางพื้นที่ ขณะเดียวกันก็เผยแพร่โรคหวาดกลัวอิหร่าน และหวาดกลัวชีอะฮ์ (Shia-phobia) ในอีกบางพื้นที่อื่นๆ พวกเขาอาจใช้ความพยายามเช่นนั้น ทว่า เมื่อใดก็ตามที่ความจริงเป็นที่ปรากฏชัดเจนต่อผู้คน ไม่เพียงแต่ผู้คนเหล่านั้นจะไม่แสดงความเป็นศัตรูต่อสาธารณรัฐอิสลามเท่านั้น  ทว่า พวกเขาจะยอมรับและสนับสนุนการเคลื่อนไหวดังกล่าวให้แก่ชาติต่างๆ [อีกด้วย] มันคือ มหาอำนาจที่กดขี่ และฟาโรห์ของโลก[ต่างหาก] ที่แสดงความเป็นศัตรู  ความเป็นปฏิปักษ์นี้ เสมือนกับสิ่งที่ฟาโรห์แสดงต่อศาสดามูซา [โมเสส]  เขารู้ว่าศาสดามูซา (อ.) พูดถูก เขารู้เรื่องนั้นดี  [9 ม.ค. 2562]

สหรัฐฯแพร่กระจายความหวาดกลัวอิหร่าน เพื่อกีดกันประเทศอิสลามจากความเป็นปึกแผ่น

โดยพื้นฐานแล้ว เราชาวมุสลิมควรเข้าใจว่า เรามีหน้าที่รับผิดชอบอย่างหนึ่งต่อผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม นั่นคือหน้าที่รับผิดชอบในการแนะนำศาสนาอิสลามให้แก่พวกเขา – ส่วนหน้าที่รับผิดชอบต่อตัวเราเองนั้น เราควรทำความเข้าใจว่า เหตุใด มหาอำนาจ ที่จองหอง และระรานข่มเหงของโลก จึงแสดงความเป็นศัตรูต่ออิสลาม เราควรทำความเข้าใจสิ่งนี้  ทุกวันนี้ รัฐบาลอิสลาม ควรให้ความสนใจไปยังสาเหตุที่ทำไม สหรัฐฯ จึงร่วมมือกับรัฐบาลอิสลามแห่งหนึ่ง [อาทิ รัฐบาลของบางประเทศอาหรับ] แต่กลับแสดงความเป็นปรปักษ์ต่อรัฐบาลอิสลามอีกแห่งหนึ่ง [คือ อิหร่าน] นั่นก็เพราะ พวกเขา ต้องการให้ชาวมุสลิมหลีกเลี่ยงความร่วมมือ และการเป็นหนึ่งเดียวกัน พวกเขาต้องการให้ประชาชาติมุสลิม ล้มเหลวในการแยกแยะผลประโยชน์ ที่พวกเขามีร่วมกัน  นี่คือสาเหตุที่ศัตรูกระทำเช่นนั้น

น่าเสียดายที่สหรัฐฯประสบความสำเร็จในนโยบายสร้างความร้าวฉานภายในภูมิภาคของเรา  นี่เป็นบ่อเกิดอันจะนำไปสู่ความเสียใจในภายหลัง มือของพวกเขาอยู่ในกระเป๋าของรัฐบาลบางประเทศ เพื่อที่จะปล้นสะดมภ์ทรัพยากรของพวกเขา [และ] ในการทำให้การปลันสะดมภ์ง่ายดายขึ้น พวกเขาได้สร้างความไม่ลงรอยให้เกิดขึ้นระหว่างกัน

พวกเขา [มหาอำนาจ] นำเสนอสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน หรือชีอะฮ์ในฐานะ “ศัตรู” เพื่อที่จะสามารถปล้นสะดมภ์ได้  นี่คือนโยบายโดยทั่วไปของมหาอำนาจเหล่านั้น นำโดยสหรัฐฯ  พวกเราทุกคนควรเข้าใจ และรู้สึกถึงสิ่งนี้ และเราควรยืนหยัดต่อสู้กับมัน การยืนหยัดต่อสู้กับสิ่งนี้ คือ การสร้างเอกภาพ และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในหมู่ประเทศอิสลาม  [25 เม.ย. 2560]

มหาอำนาจอหังการสร้างความร้าวฉานในหมู่มุสลิม เพื่อคุ้มกันระบอบไซออนิสต์

ทุกวันนี้ มหาอำนาจอหังการ สร้างความไม่ลงรอยกันในหมู่ชาวมุสลิม ในวาทะกรรมอิสลาม เพื่อบรรลุเป้าหมายที่หยิ่งผยอง และเพื่อปกปิดปัญหาของพวกเขาเอง พวกเขายุยงส่งเสริมโรคหวาดกลัวชีอะฮ์  (Shiaphobia) และโรคความหวาดกลัวอิหร่าน (Iranophobia) เพื่อรักษาระบอบการปกครองของไซออนิสต์ผู้ช่วงชิง และ ในทางใดทางหนึ่ง เพื่อแก้ปัญญา การโต้แย้ง ที่จะนำไปสู่ความพ่ายแพ้ของนโยบายที่หยิ่งผยองในภูมิภาค

พวกเขาพบทางออก[สำหรับปัญหาของพวกเขา] ในการสร้างความร้าวฉานภายในหมู่มุสลิม แน่นอนว่า สิ่งนี้ควรเป็นที่สังเกตุเห็น และควรถูกทำความเข้าใจ นี่คือสิ่งที่บุคคลที่เก่งกล้าสามารถ และยอดเยี่ยมคาดหวังจะกระทำมัน

นานาชาติหวาดกลัวสหรัฐฯ มิใช่อิหร่าน

ชาติทั้งหมดทั่วโลก ล้วนประจักษ์ว่าชาวอิหร่านเป็นผู้กล้าหาญ สัจจริง ปราดเปรื่อง  และเป็นประชาชนผู้ยืนหยัดต่อสู้ ท่ามกลางข้อเท็จจริงที่ว่า มีความพยายามอย่างมากมายได้ถูกสร้างขึ้น รวมถึงเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่ออีกมากมายก็ได้ถูกนำมาใช้ เพื่อต่อต้านสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน  ในช่วงขณะหนึ่ง เครือข่ายการโฆษณาชวนเชื่อ และทางการเมือง ของบรรดาศัตรูแห่งประชาชาติหร่าน ได้มุ่งเน้นความพยายามของพวกเขาทั้งหมดเพื่อสร้างโรคหวาดกลัวอิหร่าน

บางส่วนจากพวกเขามุ่งเน้นความพยายามไปยังการสร้างโรคหวาดกลัวอิสลาม และอีกบางส่วนก็สร้างโรคหวาดกลัวอิหร่าน อย่างไรก็ดี ความนิยมที่มีต่อประชาชนชาวอิหร่านกลับเพิ่มขึ้นในหมู่ประชาชาติทั้งหลายในโลกนี้ ทุกวันนี้ ไม่เพียงแต่กลุ่มคนจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบุคคลสำคัญที่ไม่ได้เป็นผู้มีแรงจูงใจที่มุ่งร้าย ต่างก็มีมุมมองเช่นนี้ต่อประชาชนชาวอิหร่าน  หากคุณพิจารณาถ้อยแถลงของพวกเขา คุณจะเห็นว่า นี่คือความคิดเห็นของพวกเขาที่มีเกี่ยวกับชาวอิหร่าน: [กล่าวคือ พวกเขาคิดว่า ชาวอิหร่าน] เป็นผู้ที่ยืนหยัดต่อสู้ มีความปราดเปรื่อง และอดทน  นี่คือมุมมองที่พวกเขามีต่ออิหร่าน นี่เป็นผลมาจากนโยบายสร้างความหวาดกลัวอิหร่านของศัตรู

นานาประเทศไม่ได้เป็นกังวลเกี่ยวกับสาธารณรัฐอิสลามและประชาชนอิหร่าน  ทว่าพวกเขาเป็นกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลครอบงำของอเมริกาต่างหาก  มัน คืออเมริกาที่ขึ้นชื่อเรื่องการกลั่นแกล้ง,แทรกแซงกิจการของประเทศอื่น และแสวงหาสงคราม  ผู้คนทั่วโลกต่างรู้ดีว่าอเมริกาเป็นรัฐบาลที่กระหายสงคราม และก้าวร้าว ซึ่งแทรกแซงกิจการของประเทศอื่น ๆ มันคืออเมริกา[ต่างหาก] ที่ประเทศทั้งหลายต่างถูกคุกคาม และที่พวกเขาเกลียดชัง

  ด้วยความโปรดปรานของอัลลอฮ์ (ซ.บ) สาธารณรัฐอิสลามฯ มีความรุ่งโรจน์ [ในความรู้] มากขึ้น และประชาชนชาวอิหร่านก็มีเกียรติมากขึ้นทุกวัน  และสิ่งนี้จะดำเนินต่อไปในอนาคต  [8 ก.พ. 2014]

ระบอบปกครองสหรัฐฯ ได้ใช้อุบาย โรคหวาดกลัวอิหร่าน ในการขายอาวุธให้กับประเทศอาหรับ

นับตั้งแต่วันแรกของการปฏิวัติ ความพยายามของเหล่าผู้โฆษณาชวนเชื่อ และนักการเมืองของมหาอำนาจอหังการ ได้มุ่งเป้าไปที่การสร้างความหวาดกลัวให้กับประเทศต่างๆ ที่มีพรมแดนติดกับอ่าวเปอร์เซียของสาธารณรัฐอิสลามฯ เพื่อขายอาวุธให้แก่พวกเขา และเพื่อที่จะสามารถจัดตั้งฐานทัพที่นั่นได้

ข้าพเจ้าสงสัยว่า มันยังไม่ถึงเวลาอีกหรือ ที่หัวใจและสำนึกคิดของประเทศเหล่านี้ จะสัมผัส และตระหนักได้เสียทีว่า [แท้จริงแล้ว] อเมริกา ไม่ต้องการรับใช้ผลประโยชน์ของพวกเขา  พวกเขา[ประเทศต่างๆในภูมิภาค]ไม่ควรเข้าใจอีกหรือว่า เจตนารมณ์ของเหล่าผู้โฆษณาชวนเชื่อของสหรัฐฯ และไซออนิสต์ ที่มีทั่วโลก ซึ่งกำลังจัดการปัญหาแก่พวกเขา คือ การเข้ามายังอ่าวเปอร์เซีย, การสร้างกองทัพ และแสวงหาผลกำไรทางเศรษฐกิจที่ผิดกฎหมายให้แก่ตนเอง และหากทำได้ พวกเขา [ต้องการ] กดดันสาธารณรัฐอิสลามฯ และประชาชาติอิหร่าน

รัฐบาล ประเทศ และเจ้าหน้าที่ทุกคนได้ระบุโดยเน้นย้ำว่า สาธารณรัฐอิสลาม ไม่มีเจตนาที่จะรุกรานประเทศเพื่อนบ้าน  สิ่งนี้ได้ถูกพิสูจน์แล้ว ตั้งแต่เริ่มต้นการปฏิวัติ

สิบแปดปีผ่านไป [41 ปีในปัจจุบัน] นับตั้งแต่การสถาปนาการปฏิวัติ  เราเคยโจมตีผู้ใดบ้าง?  เมื่อใดกัน ที่อาวุธของเราถูกยิงออกไปยังชายแดนเพื่อนบ้าน? เรา [ต่างหาก] ที่ถูกโจมตี แต่ทว่าในช่วงเวลานี้ เราไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากป้องกันตัวเอง  [9 ก.พ. 2540]

 

Source: english.khamenei.ir