ในหลายวาระ อิมามคาเมเนอี ได้แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอ และความตกต่ำของอำนาจสหรัฐฯ ในด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การทหาร ความมั่นคง และด้านจริยธรรม ทั้งในระดับชาติ ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ สิ่งนี้มีที่มาจากเหตุการณ์ในอดีต สัญญาณต่างๆ สถิติอย่างเป็นทางการทั้งหลาย ความคิดเห็นของนักสังคมศาสตร์ และการยอมรับของอดีตนักการเมืองอเมริกันเอง ในสุนทรพจน์ของอิมามคาเมเนอี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2019 ท่านผู้นำสูงสุด ได้ใช้สำนวนว่า “การล่มสลายของ [อาณาจักร] ปลวก” (หมายถึง ความตกต่ำอย่างค่อยเป็นค่อยไป) ในการกล่าวถึงสถานการณ์ดังกล่าว
ตามที่ผู้นำการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านกล่าว อเมริกันแสร้งว่าตนอยู่ในสถานะแห่งอำนาจ โดยการใช้นโยบายเชิงบังคับขู่เข็ญ การคุกคามด้วยสงคราม มาตราคว่ำบาตร และการโฆษณาชวนเชื่อที่บิดเบือนความจริงผ่านทางสื่อ และ[ภาพยนตร์]ฮอลลีสูด อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติ พวกเขากลับประสบความพ่ายแพ้อย่างเห็นได้ชัด จากการใช้ทั้ง “อำนาจแข็ง (hard power)” และ “อำนาจอ่อน (soft power)” โดยที่ความอ่อนแอ และความตกต่ำของพวกเขาในส่วนของ “อำนาจอ่อน” ทวีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา
การสูญเสียความน่าเชื่อถือ ภาพลักษณ์ของอเมริกาที่อ่อนแอลง ความรู้สึกเกลียดชังในความคิดเห็นของสาธารณชนที่มีต่อสหรัฐฯ (แม้กระทั่งในหมู่ชาวยุโรป) ความตกต่ำของค่านิยมแบบอเมริกัน การโดดเดี่ยวระหว่างประเทศ และการเสื่อมถอยของระบอบประชาธิปไตยแบบเสรีนิยม เป็นบางประเด็น ที่ผู้นำสูงสุดรัฐปฏิวัติอิสลามได้อ้างถึง ผู้นำการปฏิวัติอิสลามยังระบุด้วยว่า แม้ว่าความอ่อนแอนี้จะปรากฏชัดเจนมากขึ้นในการบริหารของรัฐบาลสหรัฐฯ ในปัจจุบัน แต่สาเหตุของปัญหานั้น มีพื้นฐานมาจากประวัติศาสตร์ และ[เป็นปัญหา]ระยะยาว ทั้งยังไม่สามารถแก้ไขได้โดยง่าย ด้วยประการฉะนี้ ผลที่ตามมา ก็คือ การล่มสลายของสหรัฐอเมริกา – นี่คือการล่มสลาย ซึ่งเป็นไปตามวิถีทางของพระผู้เป็นเจ้า สหรัฐฯไม่สามารถเป็นที่พึ่งพาแก่ใครได้อีกต่อไป แม้แต่กับประชาชนของตนเอง ความยิ่งใหญ่ของสหรัฐฯ [ในปัจจุบัน] ไม่อาจเทียบได้กับความยิ่งใหญ่ของมันในอดีต โดยเฉพาะเมื่อสี่สิบปีก่อน เว็ปไซต์ Khamenei.ir ได้รวบรวมถ้อยแถลงบางส่วน ของอิมามคาเมเนอี ที่เกี่ยวข้องกับความตกต่ำของสหรัฐฯ ดังต่อไปนี้:
- ความตกต่ำของสหรัฐฯ อย่างค่อยเป็นค่อยไป
อำนาจจองหองของสหรัฐฯ และอิทธิพลในการยุยงปลุกปั่นความเท็จ และมุ่งร้ายของระบอบไซออนิสต์ ตั้งแต่ 40 ปีก่อนหน้านี้ เป็นต้นมากำลังเสื่อมถอยลง เราควรพิจารณาสิ่งนี้ในการคำนวณของเรา สภาพทางการเมือง สังคม และเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในอดีต และในปัจจุบันควรถูกนำมาพิจารณาในการคำนวณของเรา
เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่สิ่งนี้ได้รับการยอมรับจากชาวอเมริกันบางส่วน บางคนเรียกมันว่า “การล่มสลายของ[รัง]ปลวก” คำนี้ถูกสร้างขึ้นโดยนักเขียนชาวอเมริกัน เขาเปรียบเทียบความตกต่ำของอเมริกากับสิ่งที่เกิดขึ้นกับปลวก กล่าวคือมันกลายเป็นโพรงจากภายใน เหมือนกับสิ่งที่ปลวกสร้าง ชาวอเมริกันเองเป็นคนพูดเช่นนี้ กรณีนี้เกิดขึ้นในขอบเขตด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง มีสถิติที่ชัดเจนเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และผลกระทบของมันที่มีต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา มีสถิติมากมายเกี่ยวกับประเด็นนี้ ข้าพเจ้าได้เขียนมันไว้แล้ว แต่ไม่จำเป็นต้องลงรายละเอียด อำนาจของอเมริกาได้เสื่อมถอยลงในขอบเขตด้านการเมืองเช่นเดียวกัน
ข้าพเจ้าจะบอกให้คุณทราบว่า หากมีเพียงเหตุผลเดียวที่จะแสดงให้เห็นถึงความตกต่ำทางการเมืองของสหรัฐฯ ที่ข้าพเจ้าจะพูดถึงนั้น – ดังต่อไปนี้ก็เพียงพอแล้ว: [กล่าวคือ] การเลือกตั้งของบุคคลที่มีความสามารถ อย่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์! การเลือกตั้งในครั้งนี้ เป็นสัญญาณของความตกต่ำทางการเมืองของสหรัฐฯ ชะตากรรมของผู้คนกว่าสามร้อยล้านคน ตกอยู่ในเงื้อมมือของคนที่มีคุณสมบัติเหล่านี้: นี่คือสัญญาณของความตกต่ำทางการเมืองของสหรัฐฯ! เมื่อมีบุคคลขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีของประเทศ แต่ทว่า ความมั่นคงทางด้านสภาพจิตใจ ความคิด และศีลธรรมของเขาถูกตั้งข้อกังขา สิ่งนี้ คือสัญญาณบ่งบอกของความเสื่อมถอยของประเทศนั้น – เป็นความเสื่อมโทรมทางการเมืองและศีลธรรม พวกเขาแก้ต่าง และปกป้องอาชญากรรม และการเข่นฆ่า ที่กระทำโดยระบอบไซออนิสต์อย่างต่อเนื่อง พวกเขาสนับสนุนการก่ออาชญากรรมของรัฐบาลหลายประเทศในเยเมน และการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ในเยเมน พวกเขาสนับสนุนการก่ออาชญากรรม มันเคยมีความเสื่อมโทรมทางศีลธรรมที่เลวร้ายกว่านี้อีกหรือ?
มีปัญหามากมายในสหรัฐอเมริกาเอง [… ] กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ประชาชน 41 ล้านคนในสหรัฐฯ ต่อสู้กับความหิวโหย! นี่คือสภาพของสหรัฐฯ! นี่คือสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ การขาดดุลของรัฐบาลสหรัฐฯมีมูลค่า 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ นี่คือผลรวมที่เป็นปรากฏการณ์ จำนวนเงินรวมเหล่านี้เป็นที่น่าเหลือเชื่อ นี่คือปัญญาที่ร้ายแรงของพวกเขา
กล่าวคือ ในขณะที่บุคคลนั้น [ผู้นำสหรัฐฯ]แสดงความเห็นอกเห็นใจต่อประชาชาติอิหร่าน โดยบอกว่าพวกเขาต้องการให้ประเทศอิหร่านมีความสุข และมีโอกาสในการทำงาน ทว่า มันคือพวกคุณต่างหาก ที่ควรแก้ไขปัญหาของตนเอง! หากทำได้ คุณควรปรับปรุงสภาพของตัวเอง สหรัฐฯเป็นประเทศอันดันหนึ่งของโลก เมื่อคำนึงถึงปัญหาอาชญากรรมที่มีความรุนแรง, เป็นอันดับหนึ่งของโลก ในแง่ของการบริโภคยาเสพติด มันเป็นอันดับหนึ่งของโลก เมื่อคำนึงถึงการสังหารประชาชน สหรัฐฯ เป็นประเทศอันดับหนึ่งของโลกในแง่ของการสังหารประชาชนโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถิติที่พวกเขาเปิดเผยออกมาเอง แสดงให้เห็นว่า ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา มีชาวอเมริกัน 830 คน ถูกตำรวจฆ่าตายบนท้องถนน นี่คือสภาพสังคมของรัฐบาลที่ท้าทายชาติอิหร่าน – [ 4 มิ.ย. 2019]
- สหรัฐฯในปัจจุบันอ่อนแอกว่าเมื่อ 40 ปีก่อนมาก
เมื่อเราดูสภาพของสหรัฐฯ เราจะเห็นว่า อำนาจ อิทธิพล ความสามารถ และความน่าเกรงขามของอเมริกากำลังเสื่อมถอยลงในโลก มันลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อเมริกาในปัจจุบัน อ่อนแอกว่าครั้งก่อน เมื่อคราวที่การปฏิวัติอิสลามบรรลุชัยชนะ เป็นอย่างมาก อำนาจของอเมริกากำลังเสื่อมถอย นี่คือประเด็นสำคัญ
นักการเมือง และนักสังคมศาสตร์ที่น่าเชื่อถือหลายคนของโลก เชื่อว่าอำนาจอ่อน (soft-power)ของอเมริกากำลังลดลงและกำลังสลายไป อำนาจอ่อน (soft-power) คืออะไร? อำนาจอ่อน หมายถึง ขีดความสามารถของรัฐบาลหนึ่ง ในการทำให้ผู้อื่นยอมรับ และเชื่อตามข้อเรียกร้อง ความคิดเห็น และความเชื่อของตน – อำนาจอ่อนของสหรัฐฯ กำลังเสื่อมถอย และลดลงอย่างสิ้นเชิง และสิ่งนี้เกิดขึ้นในขอบเขตพื้นที่ต่างๆ นี่เป็นกรณีในช่วงเวลาของรัฐบาลโอบามาเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจาก มีสุภาพบุรุษอีกคน [โดนัลล์ ทรัมป์]เข้ามาแทนที่ พวกเขาจึงต่อต้านเขาอย่างไม่น่าสงสัย โลกกำลังต่อต้านเขาในพื้นที่ส่วนใหญ่ของการตัดสินใจของเขา – นี่ไม่ใช่แค่การต่อต้านบางส่วนของประชาชน – หากพวกเขาทำแบบสำรวจในระดับโลก พวกเขาจะพบกับความคิดเห็นเชิงลบ – [เพราะ]แม้แต่รัฐบาลที่มีข้อพิจารณาบางประการยกเว้นไว้สำหรับสหรัฐฯ ก็ยังต่อต้านเขา
จีน ยุโรป รัสเซีย อินเดีย แอฟริกา และละตินอเมริกา ต่างคัดค้านการตัดสินใจของเขา อำนาจอ่อนของอเมริกากำลังลดลงและหายไป – นี่ไม่ใช่คำกล่าวอ้างของข้าพเจ้า ทว่านี่คือคำกล่าวอ้าง ที่ถูกบอกกล่าว โดยนักสังคมศาสตร์ที่มีชื่อเสียง อำนาจอ่อน และศีลธรรมของอเมริกากำลังเสื่อมถอย พวกเขายังทำให้เสียชื่อเสียงซึ่งระบอบประชาธิปไตย เสรีนิยม ซึ่งเป็นเสาหลักของอารยธรรมตะวันตก พวกเขากำลังทำให้มันเสื่อมเสียศักดิ์ศรี
เมื่อหลายปีก่อน นักสังคมวิทยาที่มีชื่อเสียงกล่าวว่า สภาพปัจจุบันของสหรัฐฯเป็นตัวอย่างที่ดีของความสมบูรณ์แบบในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ที่ซึ่งมนุษยชาติจะไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ไกลกว่านี้ [อย่างไรก็ตาม] นักสังคมวิทยาคนเดียวกันนั้น ได้ถอนคืนมัน [ทัศนะดังกล่าว] และวันนี้เขากล่าวว่า มันไม่ใช่อย่างนั้น และเขาก็ฝันถึงสิ่งอื่น เขาอาจไม่ได้พูดอย่างชัดเจนว่า เขาคิดผิด แต่เขากำลังขัดแย้งกับความเชื่อเดิม ๆ ของเขา ซึ่งตรงข้ามกับสิ่งที่เขาเคยพูดไว้ในสมัยนั้น – และนี่ก็คือสภาพของสหรัฐฯ!
แน่นอน ดังที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไปแล้ว บ่อยครั้ง ประชาธิปไตยเสรีนิยม ได้ถูกพิสูจน์แล้วว่า มันคือความพินาศของชาติตะวันตก ที่ซึ่งยึดเอาระบบการปกครอง และระบบสังคมของตนบนระบอบประชาธิปไตยเสรีนิยม – ประชาธิปไตยเสรีนิยม ซึ่งปรากฎอยู่ทั่วไปในตะวันตก ปัจจุบันได้ทำลายล้างพวกเขา – มันนำไปสู่ความแตกแยกทางสังคม การขาดความยุติธรรมทางสังคม การทำลายสถาบันครอบครัว การทุจริตที่ครอบคลุม และแพร่ระบาด และความเป็นปัจเจกบุคคล ที่สุดโต่งและมากเกินไป – พวกเขาทั้งหมดถูกทำลาย
บัดนี้ ด้วยการปรากฏตัวของชายคนนั้น – ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่น่าขนลุก และแปลกประหลาดคนปัจจุบัน – เขากำลังขายค่านิยมทั้งหมดของอเมริกันในราคาถูก: ในความเป็นจริง เขาได้ทำลายชื่อเสียงที่เหลืออยู่ของอเมริกา และประชาธิปไตยเสรีนิยม – [ส่วนหนึ่งของสุนทรพจน์] นี้เกี่ยวกับอำนาจอ่อนของสหรัฐฯ
ข้าพเจ้าขอบอกว่า อำนาจแข็ง (hard power) ของอเมริกาก็ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงเช่นกัน อำนาจแข็ง (hard power) หมายถึง อำนาจทางทหารและเศรษฐกิจ: สิ่งเหล่านี้คือองค์ประกอบของอำนาจแข็ง แน่นอนว่า พวกเขามีอาวุธทางทหาร แต่ทรัพยากรด้านมนุษย์และการทหารของสหรัฐฯนั้นสิ้นหวัง สับสน วุ่นวาย และกระอักกระอวนเป็นอย่างมาก นั่นคือเหตุผลที่ทำไม พวกเขาจึงใช้องค์กรอาชญากรรม – เช่น Blackwater (รู้จักกันในชื่อ Academi ในปัจจุบัน) และองค์กรอื่น ๆ ในลักษณะดังกล่าว – เพื่อการบรรลุเป้าหมาย ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ทหารอเมริกันไม่สามารถดำเนินการตามแผนของอเมริกาได้ นั่นคือสภาพปัจจุบันของทรัพยากรมนุษย์ของพวกเขา
เช่นเดียวกับเศรษฐกิจของพวกเขา ทุกวันนี้ หนี้สาธารณะของอเมริกามีมูลค่ามากกว่า 15 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ มากยิ่งกว่านี้ [โดยมีหนี้สาธารณะทั้งหมดที่ค้างอยู่กว่า 21 ล้านล้าน!] – นี่คือตัวเลขที่ผิดปกติเป็นอย่างมาก! หนี้ของพวกเขามีมูลค่าถึง 15 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ! และการขาดดุลงบประมาณของพวกเขาอยู่ที่ประมาณ 800 พันล้านดอลลาร์ในปีปัจจุบัน ในความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้คือความบกพร่องทางเศรษฐกิจ – ตามปกติพวกเขามักพยายามปกปิด [ข้อเท็จจริงนี้]ด้วยท่าที สโลแกน และถ้อยแถลงต่างๆ ที่โอ้อวด จองหอง เพื่อคงรักษาภาพลักษณ์เอาไว้ แต่สิ่งเหล่านี้เป็นความเป็นจริงของสหรัฐฯ – นี่คือ [สภาพ]อำนาจแข็งของสหรัฐฯ !
ด้วยประการฉะนี้ สหรัฐอเมริกาจึงกำลังเสื่อมถอย ทุกคนต้องตระหนักถึงมัน บรรดาผู้ที่ตั้งใจจะลืมเลือนปัญหาปาเลสไตน์อย่างสิ้นเชิง ด้วยการสนับสนุนของพวกเขาที่มีไปยังสหรัฐฯในภูมิภาคนี้ จำเป็นต้องตระหนักว่า สหรัฐฯกำลังตกต่ำ! มันคือประเทศในภูมิภาคที่กำลังเจริญรุ่งเรือง มัน คือ ความจริงในภูมิภาค [ต่างหาก]ที่เฟื่องฟู สหรัฐฯกำลังตกต่ำแม้แต่ในภูมิภาคของตน นับประสาอะไรกับในภูมิภาคนี้ ! [3 พฤศจิกายน 2018]
- ปัจจัยที่นำไปสู่ความตกต่ำของสหรัฐฯ ก่อตัวขึ้นตามกาลเวลา และไม่สามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดาย
สหรัฐฯกำลังตกต่ำ ทุกคนต้องรู้สิ่งนี้ [กล่าวคือ] บุคคลเหล่านั้นที่มีแนวโน้มจะประนีประนอมกับอเมริกา กำลังวางแผนที่ไร้ตรรก และปราศจากเหตุผล [เพราะ]สหรัฐฯ กำลังตกต่ำ และปัจจัยในความเสื่อมถอยของสหรัฐฯ ก็ไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาปัจจุบั น หรือในอดีตที่ผ่านมาไม่นาน กระทั่งที่ว่าอาจมีคนพยายามเยียวยารักษามัน ทว่าความเสื่อมถอยของอเมริกา มีมาตลอดระยะเวลาในประวัติศาสตร์ ปัจจัยและองค์ประกอบที่ทำให้เกิดเงื่อนไขดังกล่าวสำหรับชาวอเมริกัน เป็นปัจจัยระยะยาว พวกเขาได้สร้างเงื่อนไขในประวัติศาสตร์ ซึ่งนำไปสู่สถานการณ์ปัจจุบัน และไม่สามารถรักษาให้หายได้อย่างง่ายดาย – นี่เป็นแบบแผนของพระผู้เจ้า สหรัฐฯ ถูกสาปแช่งไปสู่ความตกต่ำ การล่มสลาย และการมลายหายไปจากบทบาทของมหาอำนาจโลก [3 พฤศจิกายน 2018]
- เหตุใดสหรัฐฯ จึงล้มเหลวในการตกลงระหว่างประเทศ ทั้งๆที่มีเงินและสิ่งอำนวยความสะดวก
พวกเขาพยายามเบี่ยงเบนความคิดของประชาชาติอิหร่าน ด้วยการสร้างภาพพจน์ที่เป็นเท็จ พวกเขาวาดภาพที่เป็นเท็จทั้งเกี่ยวกับอิหร่าน และเกี่ยวกับตัวของพวกเขาเอง พวกเขายังสร้างภาพที่เป็นเท็จเกี่ยวกับสภาพเงื่อนไขของภูมิภาค หนึ่งในภาพลวงหลอก ที่พวกเขาสร้างขึ้น คือ ภาพที่พวกเขากำลังอยู่ในสถานะแห่งอำนาจ – ในขณะที่ [ในความจริง]พวกเขาไม่ได้อยู่ในสถานะแห่งอำนาจนั้น
ขณะนี้ อำนาจแข็งของพวกเขา คืออำนาจที่มองเห็นได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ พวกเขามีเงิน อาวุธทางทหาร และทรัพยากรแหล่งสื่อ: สิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธหนัก (hard power) ของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ในด้านการเผชิญหน้าระหว่างประเทศ มันเป็นอำนาจอ่อน ที่(ถูกใช้) เป็นเกณฑ์หลัก อำนาจอ่อนในสงคราม เท่ากับตรรกะ การให้เหตุผล ข้อโต้แย้งที่สมเหตุสมผล และวาทกรรมใหม่ ซึ่งเป็นวาทกรรมใหม่ที่มีบทบาทกำหนดชีวิต – หมายถึงการนำเสนอแนวคิดใหม่ ๆ ซึ่งพวกเขาไม่มีแนวคิดใหม่ ๆ ที่จะแสดง พวกเขาไม่มีตรรกะ สหรัฐฯแย่มากในเรื่องอำนาจอ่อนในสงครามที่ไม่รุนแรง พวกเขารู้แต่วิธีรังแกข่มเหงผู้อื่นเท่านั้น ขณะที่การให้เหตุผลแก่มัน [การรังแกข่มเหง] เป็นเรื่องที่ย่ำแย่
ทุกวันนี้ ประชาธิปไตยเสรีนิยมกำลังถูกเยาะเย้ยไปทั่วโลก วิธีการนำประชาธิปไตยเสรีนิยมมาใช้ – ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ภาคภูมิใจสำหรับพวกเขา – กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากปัญญาชนจากทั่วโลก นั่นคือสาเหตุ ที่ทำไมคุณจึงประจักษ์ว่า สหรัฐฯ – ซึ่งมีความสุขอยู่กับพลังงานปรมาณู เทคโนโลยีขั้นสูง และแหล่งเงินจำนวนมาก – ได้ถูกทำให้พ่ายแพ้ในหลายภาคส่วนของโลก มันพ่ายแพ้ในอิรัก ในซีเรีย ในเลบานอน ในปากีสถาน และในอัฟกานิสถาน มันพ่ายแพ้ในการเผชิญหน้ากับมหาอำนาจระดับโลกอื่นๆ และวันนี้ เราสามารถมองเห็นความพ่ายแพ้อื่น ๆ ของสหรัฐฯ ได้- นี่คือภาพที่พวกเขาสร้างขึ้นเกี่ยวกับตัวเอง ซึ่งเป็นเท็จ และถูกประดิษฐ์ขึ้น – [4 ต.ค. 2018]
- ความปรารถนาของสหรัฐฯ ไม่บรรลุผล ความปรารถนาของอิหร่านบรรลุผลสำเร็จ
นโยบายของมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ติดหล่มอยู่ในเอเชียตะวันตก (ตะวันออกกลาง) นโยบายเหล่านี้ล้มเหลว พวกเขาเองกล่าวว่า ความล้มเหลวนี้ เป็นเพราะอิทธิพลและอำนาจของสาธารณรัฐอิสลามฯ สิ่งนี้สำคัญมาก พวกเขาต้องการยัดเยียดหายนะทุกอย่างที่พวกเขาพึงพอใจ ในอิรักและซีเรีย แต่มันล้มเหลว สิ่งนี้สำคัญมาก นี่คือสิ่งเดียวกันกับที่พวกคุณต้องการ นี่คือสิ่งเดียวกันกับที่การปฏิวัติต้องการ!
เป้าหมายของการปฏิวัติได้ประสบผลสำเร็จแล้ว แต่เป้าหมายของสหรัฐฯ และพันธมิตร – ไม่ใช่แค่สหรัฐฯเท่านั้น – ยังมิบรรลุผลสำเร็จ นี่เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น และชัยชนะ ความสามารถ และความสำเร็จดังกล่าวก็มีมากมายหลายแง่ [7 มิ.ย. 2017]
- สถานการณ์ของสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับห้าสิบปีที่แล้ว
ศัตรูเริ่มอ่อนแอ ศัตรูของอิสลาม – ซึ่งเย่อหยิ่งจองหอง – บัดนี้อ่อนแอกว่าเดิม เมื่อเทียบกับยุคอื่น ๆ ในช่วง 100 และ 150 ปีที่ผ่านมา ลองพิจารณาดูรัฐบาลอาณานิคมในยุโรป พวกเขาต้องเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจ การเมือง และความมั่นคง วันนี้รัฐบาลเหล่านี้ มีปัญหาทุกประเภท [ขณะที่]อเมริกาย่ำแย่กว่าพวกเขา อเมริกาต้องเผชิญกับปัญหาทางศีลธรรม การเมือง และปัญหาทางเศรษฐกิจ และการเงินที่ร้ายแรง มันต้องเผชิญกับความอัปยศ ความขายหน้า และความเสียหายต่อสถานะแห่งความเป็นมหาอำนาจทุกแห่งหนในโลก ไม่เพียงแต่ในโลกอิสลามเท่านั้น
นอกจากนี้ ระบอบไซออนิสต์ยังอ่อนแอลง เมื่อเทียบกับในอดีต นี่คือระบอบการปกครองเดียวกัน ที่เคยขับขานสโลแกน “จากไนล์ถึงยูเฟรติส” พวกเขาเคยป่าวประกาศ และพูดอย่างเปิดเผยว่า ภูมิภาคนับจากแม่น้ำไนล์ถึงยูเฟรติสเป็นของพวกเขา อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่สามารถพิชิตอุโมงค์ปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาได้สำหรับระยะเวลา 50 วัน พวกเขาใช้อำนาจทั้งหมดของพวกเขาเป็นเวลา 50 วันเพื่อให้สามารถก่อวินาศกรรม ทำลาย และยึดครองอุโมงค์ใต้ดินของกลุ่มฮามาส อิสลามิกญิฮาด และชาวปาเลสไตน์ได้ แต่ก็ต้องล้มเหลว – นี่คือระบอบการปกครองเดียวกันกับที่เคยพูดว่า “ภูมิภาคจากแม่น้ำไนล์ถึงยูเฟรติสเป็นของเรา” สังเกตดูว่า มันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร สังเกตดูว่ามันอ่อนแอแค่ไหน
ปัญหาของศัตรูของอิสลามมีมากมาย ศัตรูของศาสนาอิสลามถูกทำให้ขุ่นเคืองในอิรัก ซีเรีย และเลบานอน พวกเขาผิดหวังในพื้นที่ต่างๆ และไม่บรรลุเป้าหมาย – อย่างที่คุณเห็น เพื่อเผชิญหน้ากับสาธารณรัฐอิสลามฯ ในประเด็นนิวเคลียร์ อเมริกาและประเทศนักล่าอาณานิคมยุโรปได้รวมตัวกัน และใช้อำนาจทั้งหมดของพวกเขา เพื่อที่พวกเขาจะสามารถทำให้สาธารณรัฐอิสลามฯ ยอมคุกเข่าลงในเรื่องนี้ แต่พวกเขาล้มเหลว และพวกเขาก็จะดำเนินความล้มเหลวต่อไป [ผู้ชมกล่าวตะโกน “Allahu Akbar” (พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่)
นี่คือความอ่อนแอของอีกฝ่าย ทว่าโดยความโปรดปรานของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) พวกคุณ [ประชาชาติอิหร่าน]จะแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน อนาคตเป็นของพวกคุณ – [25 พ.ย. 2014]
- สัญญาณระหว่างประเทศ และภายในประเทศ ว่าด้วยความเสื่อมถอยของสหรัฐฯ
ไม่มีใครในโลกที่สงสัยในความจริงที่ว่า ในช่วงสามสิบปีที่ผ่านมา อเมริกาได้ลดระดับลง ในแง่ของอำนาจ และความน่าเชื่อถือไปมากกว่าสามสิบระดับ ทุกคนรู้เรื่องนี้ แม้แต่คนอเมริกันเองก็ยอมรับเรื่องนี้ ตัวอย่างเช่น นักการเมืองอเมริกันผู้ทรงคุณวุฒิหลายราย ได้เย้ยหยันรัฐบาล และนักการเมืองอเมริกาเมื่อไม่นานมานี้ และบอกพวกเขาว่า “พวกคุณลากอเมริกาลงจากสถานะ [แห่งอำนาจ]นั้น และลงมาสู่สภาพ [ที่ตกต่ำ]เหล่านี้” และพวกเขาพูดถูก: อเมริกาตกต่ำลง วันนี้ ไม่มีรัฐบาลใดในโลก ที่เป็นที่ถูกเกลียดชังเท่ากับรัฐบาลอเมริกา หากรัฐบาลในภูมิภาค ตลอดจนรัฐบาลอื่น ๆ นอกภูมิภาค พบความกล้าหาญ ที่จะระบุวันที่ สำหรับการแสดงความเกลียดชังไปยังรัฐบาลอเมริกา และประกาศให้ประชาชนของพวกเขาออกไปตามท้องถนน [เพื่อแสดงออกเช่นนั้น] ในวันนั้น การเดินขบวน ที่จะถูกจัดขึ้น จะเป็นการเดินขบวนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์. นี่คือสถานะของอเมริกาในโลก
สำหรับสภาวะทางปัญญา และเหตุผลของอเมริกา – ท้ายที่สุดแล้ว รัฐบาลหรือประเทศต่างๆต้องอาศัยหลักการทางปัญญาที่ประเทศนั้นๆ นำเสนอ เงินเพียงอย่างเดียวไม่ได้นำมาซึ่งความน่าเชื่อถือสำหรับประเทศต่าง ๆ: รัฐมีความจำเป็นต่อแนวความคิด (ไอเดีย) ชาวอเมริกันเคยกล่าวว่า พวกเขามี “หลักการ” ชุดหนึ่ง พวกเขามี “ค่านิยม” ชุดหนึ่ง คือ “ค่านิยมแบบอเมริกัน” พวกเขาเคยสร้างความโกลาหลขึ้นในโลก เพื่อประโยชน์ของหลักการ และค่านิยมเหล่านี้ [ทว่า]ลองสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นกับค่านิยมของชาวอเมริกันในปัจจุบัน
พวกเขาอ้างว่า พวกเขาต่อต้านการก่อการร้าย ทว่าปัจจุบัน ในภูมิภาคของเราและในส่วนอื่น ๆ ของโลก พวกเขากลับเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้ก่อการร้าย พวกเขาจัดการประชุมกับผู้ก่อการร้าย และเจรจากับผู้ก่อการร้ายเหล่านั้น พวกเขาจัดหาเงิน และติดอาวุธให้กับผู้ก่อการร้าย เพื่อให้พวกผู้ก่อการร้ายสามารถดำเนินกิจกรรมการก่อการร้ายได้ พวกเขาสนับสนุนกลุ่มผู้ทรยศกลับกลอก (Munafeqeen) ที่ยอมรับว่า ได้ลอบสังหารผู้คนหลายพันคนในประเทศ แต่พวกเขากลับถอดถอนกลุ่มเหล่านี้ออกจาก “รายชื่อองค์กรก่อการร้าย”
พวกเขาอ้างว่า สนับสนุนประชาธิปไตย พวกเขากล่าวว่าพวกเขายึดตามระบอบประชาธิปไตย และสิทธิในการลงคะแนนเสียง แต่พวกเขาก็สนับสนุนผู้ปกครองที่เป็นเผด็จการที่สุดในภูมิภาคของเรา และในส่วนอื่น ๆ ของโลก ทุกคนสามารถเห็นสิ่งนี้ได้อย่างชัดเจน นี่คือตัวอย่างของความเสื่อมถอยของค่านิยมทั้งหลาย มีรัฐบาลที่อ้างว่าสนับสนุนสิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตย แต่ [ขณะเดียวกัน] ก็สนับสนุนและช่วยเหลือรัฐบาล ที่ไม่รู้ว่าประชาธิปไตยคืออะไร อย่างแข็งขัน
พวกเขาอ้างว่าสนับสนุนสิทธิมนุษยชน ไม่ว่าอย่างไร สิทธิมนุษยชนได้ถูกส่งเสริมให้เป็นค่านิยมของอเมริกา พวกเขาถือธงแห่งสิทธิมนุษยชน แต่ทว่า การกระทำที่เลวร้ายที่สุดต่อสิทธิมนุษยชนกลับดำเนินการอยู่ภายใต้การคุ้มครองของอเมริกา อเมริกาไม่เพียง แต่ล้มเหลวในการเผชิญหน้ากับการกระทำดังกล่าว แต่พวกเขายังสนับสนุนการกระทำเหล่านั้นด้วย [อาทิ] ในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง พวกอันธพาลไซออนิสต์ที่ไร้ยางอายได้เหยียบย่ำสิทธิของชาติปาเลสไตน์อย่างเปิดเผยเป็นเวลา 65 ปี แต่อเมริกา ไม่ แม้แต่จะโกรธเคืองพวกเขา พวกเขายังช่วยเหลือ และสนับสนุนไซออนิสต์อีกด้วยซ้ำ
พวกเขาอ้างว่าพวกเขาสนับสนุนประชาชน แต่พวกเขากลับเผชิญหน้ากับประชาชน ในทุกที่ที่มีการเคลื่อนไหวที่ได้รับความนิยมเพื่อเสรีภาพและการปฏิรูป ไม่ว่าที่ใดก็ตาม ที่มีการเคลื่อนไหวปฏิวัติเพื่อต่อต้านความชั่วร้าย
พวกเขาอ้างว่า พวกเขาเป็นประเทศและรัฐบาลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แน่นอนว่าอเมริกา เป็นประเทศที่ร่ำรวย มีทรัพยากรธรรมชาติที่จำเป็นทั้งหมด ทั้งเหนือและใต้พื้นผิวโลก แต่ผลการดำเนินงานของนักการเมืองของพวกเขาย่ำแย่มาก จนทุกวันนี้อเมริกาเป็นรัฐบาลที่เป็นหนี้มากที่สุดในโลก หนี้ของอเมริกานั้นมากพอ ๆ กับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ สำหรับประเทศหนึ่งแล้ว ไม่มีอะไรน่าอัปยศไปมากกว่านี้
พวกเขาอ้างว่าสนับสนุนเสรีภาพ แต่ไม่มีประเทศใดในโลกที่มีอัตราการจำคุกสูงเท่าอเมริกา อเมริกามีประชากรราวสามร้อยล้านคน โดยมีสัดส่วนประชากรที่ถูกจำคุกมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยังมีศาลเตี้ยในอเมริกา แน่นอนว่า พวกเขาได้แสดงภาพลักษณ์ของศาลที่แตกต่างออกไปในภาพยนตร์และละครทีวีของพวกเขา นั่นคือศาลที่มีขั้นตอนอย่างเฉพาะเจาะจง แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องจริง เพียงแค่ในผลผลิตจากฮอลลีวูด และในชีวิตของตัวละครในภาพยนตร์เท่านั้น ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น พวกเขาอ้างว่า พวกเขามีผู้คนที่น่าภาคภูมิใจ รัฐบาลอเมริกันได้ทำให้ประชาชนของตนต้องอัปยศ และหลงผิด ดั่งที่อัลกุรอานตรัสเกี่ยวกับฟาโรห์: “ฟาโรห์ทำให้กลุ่มชนของเขาหลงผิด และมิได้ชี้แนะทางที่ถูกต้องให้” – [อัลกุรอาน 20: 79] – พวกเขาได้ทำให้ประชาชนของตนเองหลงผิด พวกเขาซ่อนงำข้อเท็จจริงจากคนของพวกเขาเอง – [31 ต.ค. 2012]
- ความเสื่อมเสียชื่อเสียงของสหรัฐฯ ในฐานะชาติมหาอำนาจด้านความมั่งคั่ง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และกำลังทหารในโลก
สัญญาณอีกประการหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานในแผนที่โลกนี้ คือ ความน่าเชื่อถือของอเมริกานั้น กำลังตกต่ำลง ในฐานะประเทศอันดับต้น ๆ ของโลกในด้านความมั่งคั่ง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และอำนาจทางทหารบ [ที่ผ่านมา] อเมริกาเสวยสุขกับความน่าเชื่อถือมาหลายทศวรรษ และความน่าเชื่อถือนี้ ก็ได้เพิ่มอิทธิพลของอเมริกา ในช่วงต้นทศวรรษของครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 ความน่าเชื่อถือของอเมริกาไปถึงจุดสูงสุด นี่เป็นกรณีที่มีอยู่ในประเทศของเราเช่นกัน
รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เช่นรัฐบาลของ Dr. Mosaddeq อาจหนีออกจากอังกฤษ และขอความคุ้มครองจากอเมริกา สถานการณ์ดังกล่าวอาจจะเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับอเมริกา นี่เป็นกรณีที่เป็นอยู่ทั่วโลก วันนี้ความน่าเชื่อถือนี้ได้หายไปอย่างสมบูรณ์ กล่าวคือ อเมริกาถูกประณามในโลก รัฐบาลอเมริกาไม่ได้รับความน่าเชื่อถืออย่างกว้างขวางในหมู่ประชาชนของประเทศใด ๆ “ความพินาศสู่อเมริกา” ไม่ได้เป็นเพียงสโลแกนเฉพาะของประชาชาติอิหร่านเท่านั้น คำขวัญนี้ได้ถูกขับขานในหลายประเทศเช่นกัน รัฐบาลที่สนับสนุนการกดขี่ สงคราม การสะสมอาวุธ การครอบงำนานาประเทศ การกลั่นแกล้งและการแทรกแซงกิจการของทุกประเทศ ได้รับชื่อเสียงที่ไม่ดีเช่นนี้ และนี่เป็นอีกสัญญาณหนึ่ง – [12 ส.ค. 2012]
- หนี้ $ 15,000 พันล้านดอลลาร์
วันนี้ อเมริกามีหนี้มาก 15 ล้านล้านดอลลาร์ หนี้นี้เท่ากับ หรือมากกว่า – ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ นี่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ และสำหรับสถานการณ์ทางการเมืองของพวกเขา พวกเขาถูกบังคับให้ออกจากอิรักโดยปราศจากความสำเร็จใด ๆ และในอัฟกานิสถาน [… ] สถานการณ์ของพวกเขาเลวร้ายลงทุกวัน ในประเทศมุสลิม ในอียิปต์ ในแอฟริกาเหนือ ในตูนิเซีย อเมริกาได้สูญเสียความน่าเกรงขามที่เคยมีอยู่เดิมไปอย่างสิ้นเชิง นี่คือคณิตศาสตร์ง่ายๆ มันไม่ซับซ้อน – [20 มี.ค. 2012]
- เนื่องจากสหรัฐฯไร้ความสามารถในการหารือกับอิหร่าน สหรัฐฯจึงบังคับใช้มาตรการต่อต้านอิหร่าน
พวกเขา [รัฐบาลสหรัฐฯ] ข่มขู่เราตลอดเวลา โดยบอกว่า ทางเลือกทั้งหมดวางอยู่บนโต๊ะ แม้กระทั่งการโจมตีทางทหาร – อันที่จริง นี่คือภัยคุกคามทางทหารที่ถูกแสดงออกในลักษณะนี้ ภัยคุกคามทางทหารนี้เป็นอันตรายต่ออเมริกาและสงครามที่เกิดขึ้นจริง ก็จะเป็นอันตรายต่ออเมริกามากกว่าสิบเท่า เหตุใดภัยคุกคามเหล่านี้จึงเป็นอันตรายต่ออเมริกา [?] เป็นเพราะพวกเขาแสดงให้เห็นว่า อเมริกาไม่สามารถเผชิญหน้ากับอิหร่านได้อย่างมีเหตุผล พวกเขาไม่มีวาทกรรมต่อต้านวาทกรรมของสาธารณรัฐอิสลามฯ
พวกเขาไม่อาจมีความได้เปรียบในขอบเขตของการเผชิญหน้าทางปัญญา และทางตรรกะ ดังนั้นพวกเขาจึงถูกบีบให้หันไปใช้การขู่เข็ญ ซึ่งหมายความว่า การขู่เข็ญเป็นตรรกะเหตุผลเดียวของอเมริกา อเมริกาไม่มีหนทางที่จะก้าวไปสู่สถานะของตนได้ยกเว้นแต่ด้วยกับการนองเลือดเท่านั้น สิ่งนี้จะทำลายความน่าเชื่อถือของอเมริกาต่อไปในมุมมองของคนทั้งโลก เช่นเดียวกับคนอเมริกาเอง นี่คือสิ่งที่กำหนดชะตากรรมของรัฐบาลต่างๆ เป็นที่ชัดเจนว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับรัฐบาลที่ความน่าเชื่อถือของมัน ถูกทำลายลงในสายตาของประชาชนของมันเอง ดั่งเช่น [ที่เคยเกิดขึ้นกับ] สหภาพโซเวียต
ในขณะที่มันเกิดขึ้น ปัญญาชนชาวตะวันตกบางคนกล่าวเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า สถานการณ์ของอเมริกาและตะวันตกในวันนี้เหมือนกับสถานการณ์ของสหภาพโซเวียต ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 ซึ่งส่งผลให้เกิดการล่มสลาย กล่าวคือ เมื่อรัฐบาลล้มเหลวจากการเป็นที่โปรดปรานในหมู่ประชาชนของตน ในแง่ของตรรกะและวาทกรรม มันก็จะไม่มีโอกาสดำรงอยู่รอดต่อไป ดังนั้น ยิ่งพวกเขาคุกคามมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะได้รับอันตรายมากเท่านั้น แน่นอนว่า ชาวอเมริกันและคนอื่น ๆ ควรและรู้ว่า เรามีภัยคุกคามของเราเอง ในการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามทางทหาร และการคว่ำบาตรน้ำมัน และเมื่อจำเป็น เราจะใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ในเวลาที่เหมาะสม – [3 ก.พ. 2012]
- ความเกลียดชังของชาติต่างๆ ในภูมิภาค และประชาชนอเมริกันที่มีต่อระบอบการปกครองของสหรัฐฯ
พวกเขาบอกว่าต้องการโดดเดี่ยวอิหร่าน แต่พวกเขาเองต่างหากที่ถูกโดดเดี่ยว วันนี้ในหมู่ประเทศต่างๆทั่วโลก ไม่มีรัฐบาลใด ที่ถูกเกลียดชังมากไปกว่าอเมริกา วันนี้อเมริกาเป็นรัฐบาลที่ถูกเกลียดชังที่สุดในสายตาของคนในประเทศในภูมิภาค พวกคุณ [อเมริกา]ไม่เพียงแค่ถูกโดดเดี่ยว แต่พวกคุณยังถูกเกลียดชังอีกด้วย
เมื่อสองปีก่อนประธานาธิบดีสหรัฐฯเดินทางไปอียิปต์เพื่อยกย่องอิสลาม และประจบสอพลอมุสลิม ด้วยความหวังว่า เขาจะสามารถดึงดูดความสนใจของโลกแห่งอิสลามได้ ผลเป็นอย่างไร? ชนกลุ่มน้อย – คือกลุ่มปกครองซึ่งนำโดย Hosni Mubarak ซึ่งถูกถอดออกจากอำนาจในเวลาต่อมา – สนับสนุนเขา แต่คนส่วนใหญ่ในอียิปต์และคนส่วนใหญ่ของประเทศในภูมิภาคไม่หลงกลท่าทีหน้าไหว้หลังหลอกของเขา วันนี้คุณจะเห็นว่าประเทศเดียวกัน กำลังตะโกนคำขวัญต่อต้านอเมริกา
ประธานาธิบดีสหรัฐฯเดินทางไปอัฟกานิสถาน ซึ่งถูกยึดครองโดยกองกำลังทหารอเมริกันและนาโต้กว่าหลายหมื่นนาย แต่เขาไม่กล้าก้าวออกจากสนามบิน Bagram ซึ่งเป็นฐานทัพของอเมริกา เขาไม่ได้จัดการประชุมใด ๆ ร่วมกับรัฐบุรุษของอัฟกานิสถานในกรุงคาบูล หรือที่อื่น ๆ เขาอยู่ในฐานทัพ และไม่ได้ก้าวออกจากฐานทัพจนกว่าจะถึงเวลากลับ [ประเทศ] คุณกลัวคนส่วนใหญ่ คุณกลัวคนส่วนใหญ่ของประเทศต่างๆ ทุกวันนี้ คุณกลัวแม้กระทั่งคนส่วนใหญ่ในประเทศอเมริกาของคุณเองด้วยซ้ำไป
ในการโดดเดี่ยวสาธารณรัฐอิสลามฯ พวกเขายุยงปลุกปั่นโรคหวาดกลัวอิหร่าน (Iranophobia) และพวกเขาก็หนุนเสริมถ้อยแถลงต่างๆของพวกเขา ด้วยถ้อยแถลงอื่นๆ – หามิได้ อิหร่านคือ ผู้สนับสนุนประชาชน! อิหร่าน คือ ผู้สนับสนุน ผู้ที่ถูกกดขี่! สาธารณรัฐอิสลามอยู่ตรงข้ามกับการกดขี่! สาธารณรัฐอิสลามจะดำเนินการต่อสู้กับผู้กดขี่ !
มันจะยืนหยัดต่อสู้กับการกลั่นแกล้ง และความละโมบของผู้มีอำนาจ และผู้กดขี่ที่หยิ่งผยอง ด้วยพลังทั้งหมดของมัน และมันจะไม่ยอมแพ้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมทุก ๆ ชาติที่คุ้นเคยกับสาธารณรัฐอิสลาม พวกเขาจึงหลงรักอิหร่าน พวกเขาสนับสนุนสาธารณรัฐอิสลามฯ พวกเขารักสโลแกนของสาธารณรัฐอิสลาม ในทางตรงกันข้าม พวกคุณ ผู้นำของสหรัฐอเมริกา[ต่างหาก]เป็นที่ถูกเกลียดชังในอิรัก คุณถูกเกลียดชังในอัฟกานิสถาน คุณถูกเกลียดชังในอียิปต์ คุณถูกเกลียดชังในตูนิเซียหลังการปฏิวัติ คุณเป็นที่เกลียดชังในลิเบีย ที่ซึ่งกองกำลังของคุณกำลังปฏิบัติการทางทหาร คุณถูกเกลียดชังแม้กระทั่งในยุโรป
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีคนจำนวนไม่น้อยนั่งรวมกันในประเทศในยุโรป และตัดสินใจมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพให้กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน พวกเขาเป็นเพียงคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่การตัดสินใจของพวกเขา ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากแรงจูงใจทางการเมือง และความสัมพันธ์ ต่อมา เมื่อประธานาธิบดีอเมริกัน เดินทางไปยุโรปเพื่อรับรางวัล ผู้คนในประเทศนั้นก็ประท้วงต่อต้านเขา คุณได้รับการสนับสนุนจากผู้มีสิทธิพิเศษเพียงไม่กี่คน พวกคุณเป็นเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ ผู้คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับคุณ และในทางกลับกันก็เป็นเรื่องจริงของแนวปฏิบัติและการเคลื่อนไหวของสาธารณรัฐอิสลามฯ ดังนั้นในการต่อสู้กับชาติอิหร่าน ศัตรูจะไม่บรรลุผลใด ๆ ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามแค่ไหนก็ตาม และการต่อต้านของเยาวชน คนหนุ่มสาว ในการรักษาอัตลักษณ์ประจำชาติ และอิสลามของพวกเขาจะเอาชนะความพยายามทั้งหมดของศัตรู ขอให้เยาวชนที่รักทราบซึ้งถึงคุณค่าของสถานการณ์นี้ และเตรียมตัวเองในทุกวันเพื่ออนาคตที่รุ่งโรจน์ – [15 ต.ค. 2011]
- ผลกระทบจากการพิชิตสถานทูตอเมริกาในอิหร่าน ที่มีต่อการทำลายความยิ่งใหญ่ของสหรัฐฯ ในโลก
เนื่องในโอกาสครบรอบการถูกเนรเทศของอิหม่ามโคไมนี (ร.ฎ. ) และการสังหารหมู่นักศึกษา เยาวชนของเราได้เข้าสู่สมรภูมิอีกครั้งหนึ่งในปี 1358 (ปิอิหร่าน) และกระทำในสิ่งที่ทำให้โลกต้องประหลาดใจ และทำให้อเมริกาต้องคุกเข่าลง นี่คือความจริง มันไม่ได้เป็นเพียงสโลแกน – พวกคุณควรรู้ ในวันนั้น พวกสอดแนมถูกจับได้ รัฐบาลอเมริกานั้นเคยน่าเกรงขามและมีศักดิ์ศรีมากกว่าปัจจุบันหลายเท่า
อเมริกาได้สูญเสียศักดิ์ศรีในโลก ในปัจจุบันนี้ และชนชาติทั้งหลาย ต่างก็ดูถูกและสาปแช่งอเมริกา ตอนนั้นไม่ได้เป็นแบบนี้ อเมริกาเคยได้รับการยกย่องให้เป็นมหาอำนาจอันดับต้น ๆ ของโลกในเวลานั้น นักศึกษาวัยหนุ่มสาวของเรา ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวป้องกันด่านแรกในค่ายแห่งการป้องกันอิหร่าน – ได้ปิดล้อมสถานทูตอเมริกาอย่างกล้าหาญ และคนที่อยู่ในสถานทูตถูกจับเป็นตัวประกัน แน่นอน อิมามโคไมนี (ร.ฎ. ) มีเมตตาพอที่จะปล่อยให้พวกเขาบางคน – เช่น ผู้หญิงกลับไปยังอเมริกา หลังจากผ่านไปไม่นาน อย่างไรก็ตามองค์ประกอบหลักของสถานทูตยังคงอยู่ที่นี่อีกเป็นเวลานาน
นี่เป็นการเคลื่อนไหวอันยิ่งใหญ่ ที่บ่อนทำลายอำนาจของอเมริกาในโลก แม้จะมีอำนาจทั้งหมดนั้น แต่จู่ๆอเมริกาก็สูญเสียความเคารพในสายตาของผู้คนทั่วโลก สถานการณ์เลวร้ายมาก จนกระทั่งประธานาธิบดีอเมริกัน [ประธานาธิบดี จิมมี คาร์เตอร์] ต้องใช้การโจมตีทางทหารแอบแฝง เพื่อช่วยเหลือตัวประกัน พวกเขาส่งสายลับเข้าไปในประเทศ พวกเขาเตรียมพื้นดิน พวกเขาพูดคุยกับทหารรับจ้างที่แตกต่างหลากหลาย พวกเขาพิจารณาสถานที่ ที่แตกต่างกันสำหรับการดำเนินการของพวกเขา พวกเขาโจมตีประเทศของเราด้วยเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบิน แผน คือการจัดกลุ่มใหม่ในทาบาส, ไปยังเตหะราน, ช่วยเหลือตัวประกัน และพาพวกเขากลับไปยังอเมริกา แต่เหตุการณ์ที่โด่งดังได้เกิดขึ้นที่เมืองทาบาส และอัลลอฮ์ (ซ.บ.)ผู้ทรงสูงส่ง ได้ทำลายศักดิ์ศรีของพวกเขา เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาเกิดไฟไหม้ และพวกเขาถูกบังคับให้กลับอเมริกาจากทาบาส – [3 พ.ย. 2553]
Source: english.khamenei