สรุปประเด็นสำคัญ: ซัยยิดอิบรอฮิม ระอีซี แถลงข่าวครั้งแรก หลังชนะเลือกตั้ง ปธน. อิหร่าน

218
อยาตุลลอฮ์ ดร.ซัยยิด อิบรอฮิม ระอีซี กล่าวตอบคำถาม ในระหว่างการแถลงข่าวครั้งแรก โดยมีตัวแทนของสื่อ ทั้งในและต่างประเทศเข้าร่วมอย่างคับคั่ง ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ภายหลังชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ 13 ของอิหร่าน ด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย 17.9 ล้านโหวต
เมื่อถูกถามถึง ข้อความที่เขามีถึงสหรัฐอเมริกา และยุโรป ประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งของอิหร่าน กล่าวว่า “ผมขอกำชับอย่างหนักแน่นให้สหรัฐฯ กลับไปยังข้อตกลง JCPOA และปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา ชาวอิหร่านคาดหวังให้คุณปฏิบัติตามพันธกรณีของคุณ”
“ประเทศในยุโรป และสหรัฐอเมริกา ต้องดูว่าพวกเขาทำอะไรไว้กับ JCPOA บ้าง สหรัฐอเมริกาละเมิดข้อตกลง JCPOA ในขณะที่ประเทศในยุโรป [ซึ่งเป็นภาคีของ JCPOA] ล้มเหลวในการปฏิบัติตาม พันธกรณีของพวกเขา” ซัยยิดอิบรอฮิม ระอีซี กล่าว
“เรากล่าวกับสหรัฐฯว่า ต้องยกเลิกการคว่ำบาตรทั้งหมด [ที่กำหนดต่ออิหร่าน] และต้องกลับ [สู่ข้อตกลงนิวเคลียร์] และปฏิบัติตามพันธกรณี ชาวยุโรปต้องไม่ได้รับอิทธิพลจากแรงกดดันของสหรัฐฯ และต้องปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของตน นี่คือสิ่งที่ประเทศอิหร่านต้องการจากคุณ” ประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งของอิหร่านกล่าว
‘การถอนมาตรการคว่ำบาตร ตามด้วยการตรวจสอบ คือ สาระสำคัญในนโยบายต่างประเทศของเรา’
ในการสัมภาษณ์ของเขา ซัยยิดอิบรอฮิม ระอีซี ยังระบุว่า จุดสำคัญหลักของนโยบายต่างประเทศของคณะบริหารของเขา คือ การทำให้แน่ใจว่าจะมีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียว ที่กำหนดโดยสหรัฐอเมริกาอย่างสมบูรณ์ หลังจากการถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์กับเตหะรานอย่างผิดกฎหมายของวอชิงตัน ตามด้วยการตรวจสอบการยกเลิกการคว่ำบาตร
“สหรัฐอเมริกาต้องให้คำตอบกับโลก มีการเน้นย้ำบ่อยครั้ง [โดยอิหร่าน] ว่าสหรัฐฯ ต้องปฏิบัติตามพันธกรณี และถอดถอนการคว่ำบาตรที่โหดร้ายทั้งหมด [ที่กำหนดไปยังอิหร่าน]” เขาเน้นย้ำ
“ประเทศอิหร่านไม่พอใจ JCPOA เพราะมันล้มเหลวในการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา และเหตุผลก็คือ ชาวอเมริกันละเมิดพันธกรณีของพวกเขา ในขณะที่ชาวยุโรปไม่ปฏิบัติตามคำสัญญาของพวกเขาเช่นกัน”
ซัยยิดอิบรอฮิม ระอีซี กล่าวว่า การรณรงค์เพื่อการ “กดดันสูงสุด” (maximum pressure) ของสหรัฐฯ ต่ออิหร่านนั้น ล้มเหลวในการทำให้ชาติอิหร่านต้องยอมจำนน
สหรัฐฯ ภายใต้อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนตัวออกจากข้อตกลง JCPOA ในปี พ.ศ. 2561 และริเริ่มนโยบาย “กดดันสูงสุด” ต่ออิหร่าน กระตุ้นให้เตหะรานดำเนินมาตรการแก้ไข โดยค่อยๆ ลดภาระผูกพันด้านนิวเคลียร์ภายใต้ข้อตกลงนี้
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐฯ กล่าวว่า วอชิงตันยินดีจะกลับเข้าสู่สนธิสัญญา หากเตหะรานระงับมาตรการตอบโต้ของตน เพื่อตอบสนองต่อการละเมิด และคว่ำบาตรอีกครั้งของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม อิหร่านกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของสหรัฐฯ ที่จะรื้อฟื้นข้อตกลงดังกล่าว เช่นเดียวกับวอชิงตัน ไม่ใช่เตหะราน ที่เป็นฝ่ายละทิ้งข้อตกลงที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยท้าทายการวิพากษ์วิจารณ์จากทั่วโลก
‘อิหร่านจะไม่ดำเนินการเจรจา เพื่อนำสหรัฐกลับสู่ JCPOA’
ในการสัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ ซัยยิดอิบรอฮิม ระอีซียังกล่าวว่า คณะบริหารของเขาจะไม่ดำเนินการเจรจากับมหาอำนาจโลก ที่มีเป้าหมายเพื่อนำสหรัฐฯ กลับเข้าสู่การปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015
ประธานาธิบดีระอีซี เน้นย้ำว่า สหรัฐฯ ต้องยกเลิกการคว่ำบาตรในลักษณะที่ตรวจสอบได้ เพื่อให้เตหะรานย้อนกลับสู่ขั้นตอนด้านนิวเคลียร์ที่ใช้เพื่อตอบสนองต่อการถอนตัวของสหรัฐฯ จากข้อตกลงนิวเคลียร์
ในการตอบสนองต่อการถอนตัวจากข้อตกลง JCPOA ฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ เตหะรานได้ย้อนกลับไปยังข้อผูกพันด้านนิวเคลียร์ของตนถึงห้าครั้ง เพื่อให้ความร่วมมือกับ ข้อ 26 และ 36 ของข้อตกลง โดยเน้นว่า มาตรการตอบโต้จะสามารถย้อนกลับได้ในทันทีที่ยุโรปพบแนวทางปฏิบัติ เพื่อปกป้องการค้าร่วมกันจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีระอีซี กล่าวว่า ทีมเจรจาปัจจุบัน ที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาอย่างต่อเนื่องในกรุงเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรีย จะยังคงดำเนินการเจรจาต่อไป ขณะที่มีการเปลี่ยนไปสู่การบริหารใหม่
เขาตั้งข้อสังเกตว่า ชาวอิหร่านได้แสดงการต่อต้าน และความอุตสาหะ ในการเผชิญกับการรณรงค์ “การกดดันสูงสุด” ซึ่งรวมถึงการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่รุนแรง ซึ่งกำหนดการโจมตีไปยังการดำรงชีวิตของประชาชน
“นโยบายต่างประเทศของฝ่ายบริหารของเรา จะไม่เริ่มต้นจากประเด็นข้อตกลง JCPOA และจะไม่ถูกจำกัดอยู่ที่ประเด็นข้อตกลง JCPOA” เขากล่าว พร้อมย้ำว่า เขาตั้งใจที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์และสมดุลกับทุกประเทศ
ประธานาธิบดีระอีซีกล่าวว่า การเจรจาใด ๆ ที่รักษาผลประโยชน์แห่งชาติของอิหร่านจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลของเขา แต่ “เราจะไม่ผูกมัดสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และ [การดำรงชีวิต] ของประชาชนกับการเจรจาเหล่านี้ และเราจะไม่อนุญาตให้มีการเจรจาเพียงเพื่อประโยชน์ของการเจรจาเท่านั้น” เราจะไม่อนุญาต ให้มีการเจรจาที่กัดเซาะ แต่การเจรจาทุกครั้งจะต้องส่ง “ผลลัพธ์”
‘โครงการขีปนาวุธของอิหร่านจะไม่เปิดให้เจรจา’
เมื่อถามถึงข้อเสนอของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ในการลงนามในข้อตกลงใหม่กับอิหร่าน เพื่อจัดการกับโครงการขีปนาวุธของประเทศ และจำกัดอิทธิพลของอิหร่านต่อภูมิภาค ซัยยิดอิบรอฮิม ระอีซี กล่าวว่า “ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ [อิทธิพล] ระดับภูมิภาคของ [อิหร่าน] และโครงการขีปนาวุธจะไม่เปิดให้เจรจา ”
“มันมีปัญหา (หมายถึง โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน) ซึ่งมีการเจรจา และบรรลุข้อตกลง และมีการสรุปข้อตกลง และพวกเขาสัญญาว่าจะคงมุ่งมั่นต่อมัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้ปฏิบัติตามนี้ แล้วตอนนี้ ด้วยเหตุผลอะไร ที่พวกเขาต้องการหยิบยกประเด็นอื่นขึ้นมา?”
ประธานาธิบดีอิหร่าน กล่าวเสริมว่า “ผมขอเสนอให้รัฐบาลสหรัฐฯ กลับมาปฏิบัติตามพันธกรณีของมันอย่างรวดเร็ว ยกเลิกการคว่ำบาตรทั้งหมด [ที่บังคับใช้กับอิหร่าน] และพิสูจน์ผ่านการยกเลิกการคว่ำบาตรทั้งหมดว่าเป็นการกระทำที่ตรงไปตรงมา”
เมื่อสื่อต่างประเทศถามว่า เขาพร้อมที่จะพบปะหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น หรือไม่ ประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งของอิหร่านกล่าวตอบสั้นๆว่า “ไม่”
‘ความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านมีความสำคัญสำหรับเรา’
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคต สำหรับความสัมพันธ์ของอิหร่านกับซาอุดีอาระเบีย ประธานาธิบดีอิหร่านกล่าวว่า “เราได้ประกาศ [การตัดสินใจของเราในการสร้าง] ความสัมพันธ์กับทุกประเทศในโลก และเพื่อปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาทั้งหมด”
“ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเรา ลำดับความสำคัญของเรา คือการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน”
ประธานาธิบดีผู้มาจากการเลือกของอิหร่านกล่าวจากมุมมองของสาธารณรัฐอิสลามว่า ไม่มีอุปสรรคในการเปิดสถานทูตของอิหร่านและซาอุดีอาระเบียอีกครั้ง โดยเสริมว่า “นโยบายนี้เคยประกาศมาก่อนแล้ว และผมขอย้ำว่าไม่มีอุปสรรคในการ [สร้าง] สัมพันธ์กับ ซาอุดีอาระเบียและทุกประเทศในภูมิภาค” แต่ในการนี้ เขาได้กล่าวถึงเงื่อนไขของซาอุดีอาระเบียอย่างเน้นย้ำว่า “การโจมตีชาวเยเมนของซาอุดีอาระเบียจะต้องหยุดลงทันที”
ประธานาธิบดีระอีซี กล่าวถึงประเด็นการทำสงครามกับเยเมนที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย โดยกล่าวว่า “สาธารณรัฐอิสลามเน้นว่า สงครามกับเยเมนจะต้องยุติลงอย่างรวดเร็ว และประเทศเยเมน จะต้องดำเนินการบริหารโดยประชาชนเยเมน”
“เฉพาะชาวเยเมนเท่านั้นที่จะตัดสินใจว่าควรจัดการประเทศของพวกเขาอย่างไร” เขากล่าว โดยเน้นว่า ไม่ควรมีการแทรกแซงกิจการของเยเมน โดยซาอุดิอาระเบีย หรือประเทศที่สนับสนุนซาอุดีอาระเบียในกรณีเยเมน
“เราเน้นย้ำว่าสงครามรุกรานเยเมน และการโจมตีของซาอุดีอาระเบียต่อผู้ถูกกดขี่ในเยเมนจะต้องยุติลง โดยเร็วที่สุด” ประธานาธิบดีของอิหร่านกล่าว
‘ชาวอิหร่าน เน้นย้ำถึงการต่อสู้กับการทุจริต ความยากจน การเลือกปฏิบัติ’
ในการกล่าวเปิดการแถลงข่าวของเขา ประธานาธิบดีอิหร่านกล่าวว่า ประเทศอิหร่านได้ส่งข้อความของพวกเขาไปทั่วโลก ผ่านการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับประธานาธิบดี โดยระบุว่า “ข้อความหนึ่ง คือความสามัคคี และความเป็นหนึ่งเดียวของชาติ”
“ข้อความของประเทศอิหร่านคือ ความจำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ” เขากล่าว
เขากล่าวต่อว่า สาส์นของประเทศอิหร่าน คือความจำเป็นในการต่อสู้กับการทุจริต ความยากจน และการเลือกปฏิบัติ และกล่าวได้ในคำเดียวว่า คือ การตระหนักถึงความยุติธรรมในทุกด้านของชีวิตผู้คน
“การปรากฏของผู้คนมากมาย อย่างมีนัยยะความหมาย[ในวันเลือกตั้ง]นี้ เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์โคโรนาไวรัส รวมถึง[ท่ามกลาง] การโจมตี และการทำสงครามจิตวิทยาโดยศัตรูของอิหร่าน” เขากล่าว
ประธานาธิบดีระอีซี กล่าวว่า สาส์นของประเทศอิหร่านนั้น คือการยืนหยัดในคุณค่าของการปฏิวัติอิสลามอันรุ่งโรจน์ และความแน่วแน่บนเส้นทางของอิหม่ามโคไมนี ผู้สถาปนาการปฏิวัติอิสลาม ผู้ล่วงลับและบรรดาวีรชนผู้สละชีพ (ชะฮีด) โดยเฉพาะนายพลกอเซ็ม สุไลมานี ที่ถูกลอบสังหารในเดือนมกราคม ปี 2020 โดยสหรัฐฯ
ซัยยิดอิบรอฮม ระอีซี ปฏิญานว่าจะฟื้นฟูความไว้วางใจของประชาชนในการบริหารชาติอิหร่าน
ในการแถลงข่าวของเขา ซัยยิดอิบรอฮิม ระอีซี ในฐานะประธานาธิบดี ได้ให้คำมั่นที่จะนำความไว้วางใจของสาธารณชน ซึ่งได้สูญเสียไปในการบริหารอิหร่านกลับคืนมา โดยกล่าวว่า เขาหวังว่าผู้คนจะรู้สึกว่า การบริหารของเขา คือการบริหารที่มุ่งมั่นนำพาความหวัง และสร้างความไว้วางใจ
ประธานาธิบดีผู้ที่มาจากการเลือกตั้งให้สัญญาว่า การบริหารงานของเขาจะไม่จำกัดเฉพาะพรรคการเมือง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง โดยให้คำมั่นว่าเขาจะเปิดรับ ผู้จัดการของรัฐ ที่เป็นผู้รักชาติและต้องการรับใช้ประชาชน และการปฏิวัติอิสลาม
“ใครก็ตามที่หัวใจของเขา มีอยู่เพื่อประชาชน และการปฏิวัติ จะเป็นหุ้นส่วนของเรา ทุกที่ในประเทศ” เขากล่าวเสริม
_____
เรียบเรียงจาก: PressTV