นิวยอร์กไทมส์ เผย ปฏิบัติการโจมตีของสหรัฐในซีเรีย ปลิดชีพผู้หญิงและเด็ก 64 ราย

77

รายงานเปิดเผยว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่องสองครั้ง ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าเป็นกลุ่มไอเอสโดยสหรัฐ ได้สังหารชีวิตผู้หญิง และเด็กไปทั้งสิน 64 คนในซีเรีย เมื่อปี 2019

การทิ้งระเบิดโจมตีดังกล่าว เกิดขึ้นใกล้กับเมือง Baghouz ในจังหวัด Dayr al-Zawr ทางตะวันออกของซีเรีย เมื่อวันที่18 มีนาคมของปีนั้น The New York Times รายงานเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

The Times ระบุว่า ทนายความของกองทัพอากาศ ซึ่งประจำอยู่ในศูนย์ปฏิบัติการในขณะนั้น เชื่อว่า การโจมตีอาจเป็น”อาชญากรรมสงคราม” และต่อมาได้แจ้งเตือนไปยังผู้ตรวจการของกระทรวงกลาโหมสหรัฐและคณะกรรมการบริการด้านอาวุธของวุฒิสภา

อย่างไรก็ตาม ไม่มีการสอบสวนอย่างละเอียด และไม่มีการดำเนินการที่จริงจังใดถูกนำมาปฏิบัติ

เอกสารเขียนว่า ทางกระทรวงมีความเพียงพอที่จะเปิด “การสอบสวน” ในเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งนำไปสู่รายงาน ที่ซึ่งการกล่าวถึงเหตุระเบิดดังกล่าว “ถูกถอดออก” ในท้ายที่สุด

กองบัญชาการกลางของสหรัฐฯ ที่ดูแลกองกำลังอเมริกันในภูมิภาคเอเชียตะวันตก ได้พยายามหาเหตุให้เกิดการนองเลือด โดยเรียกมันว่า “การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย” โดยอ้างว่าได้สั่งการโจมตีเพื่อสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดที่ได้รับการสนับสนุนจากวอชิงตัน

นอกจากนี้ยังอ้างว่า “มีการดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อสกัดกั้นการมีอยู่ของพลเรือน”

อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกัน กองบัญชาการกลางยังกล่าวอ้างอีกด้วยว่า จำนวนพลเรือนในผู้เสียชีวิต 60 คนไม่สามารถจำแนกได้ เนื่องจาก มี “ผู้หญิงติดอาวุธหลายคน และเด็กติดอาวุธอย่างน้อยหนึ่งคน” ถูกสังเกตเห็น ในคลิปวิดีโอของเหตุการณ์

สหรัฐฯ และพันธมิตร รุกรานซีเรียในปี 2014 ภายใต้ช้ออ้าง ในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายดาอิช ตักฟีรี (ไอเอส) เครื่องมือดังกล่าวโผล่ขึ้นมา เมื่อวอชิงตันไม่มีข้ออ้างอื่นใด เพื่อใช้ขยายการแทรกแซงในระดับภูมิภาค หรือขยายขนาดการแทรกแซงที่กระทำอยู่

การแทรกแซงทางทหารของสหรัฐ มีความล่าช้าในการเผชิญหน้ากับผู้ก่อการร้าย อย่างน่าประหลาดใจ แม้ว่ากลุ่มพันธมิตร ซึ่งเกณฑ์คะแนนจากประเทศพันธมิตรของวอชิงตัน จะมีขนาดใหญ่ก็ตาม

รายงานจำนวนมากและเจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาค มักชี้ให้เห็นถึงบทบาทของสหรัฐฯ ในการถ่ายโอนองค์ประกอบของกลุ่มก่อการร้ายดาอิช  ไปทั่วทั้งภูมิภาค และแม้แต่การขนส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศไปยังกลุ่มก่อการร้าย

ในปี 2017 และในช่วงเวลาสูงสุดของการรณรงค์ทางทหารของกลุ่มพันธมิตรในซีเรีย รัสเซียได้เผยให้เห็นถึงความคล้ายคลึงกันระหว่างการทำลายล้างที่เกิดจากกองกำลังที่นำโดยสหรัฐฯ และการรณรงค์ทิ้งระเบิดอย่างไม่เลือกที่ ในเมืองเดรสเดนของเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

Source: https://www.presstv.ir