รัฐบาลซาอุดิอาระเบียเพิ่งประกาศว่าได้สังหารพลเรือน 81 คน โดยการประหารชีวิตซึ่งเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา
ตามรายงานของ New York Times กระทรวงมหาดไทยของซาอุดิอาระเบียอ้างว่าผู้ชายเหล่านี้ถูกประหารชีวิตในการก่ออาชญากรรมร้ายแรงจำนวนหนึ่งซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปเป็นจำนวนมากในรอบหลายทศวรรษ
ในจำนวนนี้ 81 คนเป็นชาวเยเมน 7 คน คนหนึ่งเป็นชาวซีเรีย ที่เหลือเป็นชาวซาอุดิอาระเบีย นอกจากนี้ คนเหล่านี้ 41 คนมาจากชาวเมือง อัลกะฏียฟ ซึ่งเป็นพื้นที่อาศัยของชาวอิสลามนิกายชีอะห์ในอิห์ซาอ์
กลุ่มสิทธิมนุษยชนประณามการประหารชีวิต โดยกล่าวว่ามันไม่สอดคล้องกับคำกล่าวอ้างของมกุฎราชกุมาร โมฮัมมัด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดิอาระเบียเกี่ยวกับสถานการณ์ในซาอุดิอาระเบีย
“การประหารชีวิตเหล่านี้ขัดต่อความยุติธรรม” ผู้อำนวยการองค์การเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปในซาอุดิอาระเบีย ผู้เฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชนกล่าว
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบียได้พยายามทำให้ภาพลักษณ์ภายนอกดูสวยงาม เนื่องจากพยายามดึงดูดการท่องเที่ยวและการค้าให้มากขึ้น แต่สงครามในเยเมน การลอบสังหารญะมาล ชาคัชกี้ ซึ่งเป็นคอลัมนิสต์ของวอชิงตันโพสต์ ในปี 2018 ที่สถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในตุรกี และการปราบปรามผู้เห็นต่าง ได้ทิ้งรอยด่างพร้อยในชื่อเสียงของประเทศให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาประชมคมโลก
กลุ่มกฎหมายเสริมว่า ไม่พบข้อกล่าวหาใดๆ เกี่ยวกับโทษประหารชีวิตที่สามารถติดตามและจัดทำเป็นเอกสารในบรรดาผู้ถูกประหารชีวิต 81 ราย
เจ้าหน้าที่ของกลุ่มกฎหมายกล่าวว่า ข้อกล่าวหาบางส่วนเกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมในการชุมนุมประท้วงสิทธิมนุษยชน
กลุ่มกฎหมายกล่าวว่า ไม่สามารถบันทึกหลายกรณี เนื่องจากขาดความโปร่งใสในระบบตุลาการของซาอุดีอาระเบีย เช่นเดียวกับภัยคุกคามจากริยาด
“โลกควรรู้ว่าเมื่อโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน สัญญาว่าจะปฏิรูป ก็จะเกิดการนองเลือดทันที” รองผู้อำนวยการกลุ่มสิทธิมนุษยชนที่ติดตามการประหารชีวิตในซาอุดีอาระเบีย กล่าว
ก่อนหน้านั้นในปี 1980 มีรายงานว่าซาอุดีอาระเบียได้ประหารชีวิตผู้คนไป 63 คนในวันเดียว
รัฐบาลซาอุฯยังได้ประหารชีวิตผู้คน 47 คนในวันเดียวในปี 2016 รวมถึงชีค นิมร์ อัล-นิมร์ นักการศาสนานิกายชีอะห์ที่มีชื่อเสียง
ในปี 2021 มีผู้ถูกประหารชีวิต 67 คน และในปี 2020 รัฐบาลซาอุดิอาระเบียได้ประหารชีวิตผู้คน 27 คน
source: