โพลใหม่ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าครัวเรือนในอเมริกาบางส่วนกำลังประสบปัญหาการดำรงชีวิตเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย
นักวิเคราะห์ของ Deutsche Bank คาดการณ์ในรายงานฉบับหนึ่งว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจซบเซาภายในสิ้นปีหน้าเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
จากผลสำรวจใหม่ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ชาวอเมริกันเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในประเทศ และสองในสามของผู้บริโภคคาดการณ์ถึงสถานการณ์ทางการเงินที่เลวร้ายในอีกห้าปีข้างหน้า
ธนาคารกลางสหรัฐคาดการณ์ว่าแนวโน้มเงินเฟ้อจะลดลงอย่างมากและไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว
โรเบิร์ต พอลีน ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์กล่าวว่า “ปัญหาคือค่าแรงที่สูงขึ้นทำให้ราคาสูงขึ้น”ซึ่งนอกเหนือจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่เกิดจากโรคโควิด-19 ตลอดจนปัญหาน้ำมัน นอกจากนั้นธนาคารกลางสหรัฐกล่าวว่า “เราไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ทั้งหมด”
ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 40 ปี รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมราคาที่สูงขึ้นและป้องกันไม่ให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2018 เมื่อวันที่ 16 มีนาคม โดยพยายามลดอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบสี่ทศวรรษ
โพลล่าสุดชี้ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน ที่ได้รับความนิยมต่ำส่วนหนึ่งส่วนหนึ่งมาจากความล้มเหลวของเขาในการจัดการกับภาวะเงินเฟ้อ
source:
https://farsi.iranpress.com/america-i212280