สื่อแอฟริกาใต้: ภัยพิบัติในซีเรียเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของสหรัฐฯ ภัยคุกคามที่สำคัญต่อสันติภาพโลก

238

การประท้วงระดับนานาชาติ นำโดยจีน เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวต่อซีเรีย ท่ามกลางความพยายามอย่างต่อเนื่องในการค้นหาผู้รอดชีวิตหลังเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

จากการรายงานของ Abbey Makoe ในหนังสือพิมพ์ IOL ของแอฟริกาใต้ ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน [ปัจจุบันพุ่งเป็นหลายหมื่นคน] จากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ที่ส่งผลกระทบทั้งในซีเรียและตุรกี โดยขณะที่การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ถูกส่งไปยังตุรกีนั้น “ค่อนข้างราบรื่น” ในทางกลับกัน Makoe รายงานว่า การคว่ำบาตรฝ่ายเดียว ที่มีต่อซีเรีย “กำลังทำลายความพยายามในการส่งความช่วยเหลือไปยังซีเรีย”

เป็นที่น่าสังเกตว่าตุรกีไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของพันธมิตรนาโต้ (NATO) เท่านั้น แต่ยังถือเป็นกองทัพที่ใหญ่เป็นอันดับสองในองค์กรด้วย

📍ซีเรียที่บอบช้ำจากสงคราม กำลังถูกบีบรัด โดยมาตราการคว่ำบาตรเพียงฝ่ายเดียว

นักเขียนชาวแอฟริกาใต้อธิบายว่า ซีเรียต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส ภายใต้สงครามที่กินระยะเวลา 12 ปี ก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงนี้ โดยในช่วงสงครามนั้น สหรัฐฯ ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวต่อซีเรีย ตามที่มันได้ให้การสนับสนุน “กลุ่มกบฏอาหรับหลายกลุ่มที่ต่อสู้เพื่อโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด” จากคำกล่าวอ้างของสหรัฐฯ

ข้อจำกัดเหล่านี้ได้ขัดขวางความช่วยเหลือแก่ชาวซีเรียและประเทศชาติ และทอดทิ้งให้ใครก็ตามที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ต้องเผชิญกับชะตากรรมของตนเอง ในขณะที่ทีมค้นหาและกู้ภัยของซีเรียก็กำลังประสบกับการทรุดถอยครั้งใหญ่ ในทุกระดับ

สื่อแอฟริกาใต้ยังเน้นย้ำอีกว่า White Helmets (กลุ่มหมวกกันน็อกขาว) ซึ่งเป็น “นักต่อสู้ ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากตะวันตกเพื่อโค่นล้มรัฐบาลซีเรีย” ก็ได้รับ “การสนับสนุนโดยตรงจากกองทัพสหรัฐ ทางภาคพื้นดิน” เช่นเดียวกัน

กลุ่มนี้ได้กลายเป็น “ผู้รับผิดชอบอย่างเต็มรูปแบบ” สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคที่พวกเขาปฏิบัติการอยู่ เนื่องจากภูมิภาคดังกล่าวเป็น “ส่วนหนึ่งของซีเรีย ที่รัฐบาลสูญเสียการควบคุมไปนานแล้ว”

ในประเด็นนี้ มีสิ่งที่ควรค่าแก่การย้ำเตือน เช่นเดียวกับที่สื่อแอฟริกาใต้ได้ระบุไว้ – “ทหารสหรัฐประมาณ 1,000 นาย ยังคงปฏิบัติการในพื้นที่ควบคุมของชาวเคิร์ดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่อุดมไปด้วยน้ำมันของประเทศ”  ทหารสหรัฐฯ ปฏิบัติการใน “พื้นที่ชายแดนใต้ของซีเรีย” ขณะที่พวกเขาร่วมมือกับ “กลุ่มกบฏอาหรับที่พวกเขาให้การสนับสนุน”

📍ความกังวลของ

เหมา หนิง (Mao Ning) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกการคว่ำบาตรซีเรีย และ “ปลดล็อกประตูรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม” – IOL รายงาน

เหมาตั้งข้อสังเกตว่า “แผ่นดินไหวอย่างรุนแรง – ที่ทับถมมายังซีเรีย ซึ่งต้องเผชิญกับช่วงเวลาหลายปีของสงครามและความวุ่นวายอยู่เป็นทุนเดิมนั้น – ได้ทิ้งซีเรียไว้กับวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายอย่างยิ่ง” และย้ำว่า “การโจมตีทางทหารที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง (โดยสหรัฐ) ทำให้พลเรือนซีเรียบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก และเป็นการกีดกันหนทางสู่การมีชีวิตรอดของชาวซีเรีย”

นอกจากนี้ เหมายังโจมตีวอชิงตันสำหรับการขโมยน้ำมันของซีเรีย ในอัตราที่สูงเป็นอย่างมาก โฆษกกล่าวว่า “ขณะที่เรากำลังพูด กองทัพสหรัฐฯ ก็ยังคงยึดครองพื้นที่ผลิตน้ำมันหลักของซีเรีย พวกเขาปล้นมากกว่า 80% ของการผลิตน้ำมันของซีเรีย และ  ลักลอบนำเข้า และเผาธัญพืชของซีเรีย” เขากล่าวเสริม ซึ่ง “ทั้งหมดนี้ทำให้วิกฤตด้านมนุษยธรรมของซีเรียเลวร้ายยิ่งขึ้น”

📍ความกังวลทั่วโลก

El-Mostafa Benlamlih ผู้ประจำการสหประชาชาติและผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมประจำซีเรีย กล่าวถึงสถานการณ์ปัจจุบันในซีเรียว่า เป็น “วิกฤตที่อยู่เหนือวิกฤต”

อ้างอิงจากบทความคำกล่าวของ Benlamlih ในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันพุธ เขากล่าวว่า “เราแค่หวังว่า ข้อพิจารณาทางการเมืองจะหลีกทาง และปล่อยให้เราได้ทำงานของเรา” ซึ่งเป็นการเรียกร้องโดยอ้อมไปยังสหรัฐฯ

นอกเหนือจาก Benlamlih แล้ว Khaled Hboubati ประธานสภาองค์กรจันทร์เสี้ยวแดงแห่งซีเรีย (SARC) กล่าวว่า “กระบวนการอพยพและปฏิบัติการกู้ภัยถูกจำกัด เนื่องจากอุปสรรค ที่เป็นผลพวงมาจากการคว่ำบาตรที่รุนแรง  เราขาดแคลนเครื่องจักรหนัก และอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการยกเศษหิน”

📍โฉมหน้าที่แท้จริงของอเมริกาถูกเปิดเผย

จากรายงานของ IOL โศกนาฏกรรมในซีเรียได้เปิดเผย “นโยบายต่างประเทศที่น่ารังเกียจ” ของสหรัฐฯ และเปิดโปง “มนุษยธรรม” ที่สหรัฐฯพยายามอวดอ้างอย่างมากมายมาโดยตลอดนั้น ว่าเป็นเพียงเรื่องหลอกลวง

นักเขียนชาวแอฟริกาใต้ตั้งคำถามสองสามข้อในการสืบเสาะเพื่อพิสูจน์คำกล่าวอ้างข้างต้น: “จริงหรือที่วอชิงตันเพิกเฉยต่อโศกนาฏกรรมของมนุษย์ ที่กำลังเกิดขึ้นในซีเรีย ซึ่งชาย หญิง และเด็กผู้บริสุทธิ์จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือภายใต้ซากปรักหักพังของอาคารต่างๆ นับพัน? หัวใจของวอชิงตันอยู่ที่ไหน หากมันพอจะมี?”

Makoe ยังเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ “ฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวของอเมริกาที่มีต่อซีเรียอย่างโจ่งแจ้ง และรีบเร่งช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์” และเสริมว่า ” ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ก็ไม่ใช่แม้แต่จะเป็นการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ ที่มีต่อซีเรีย”

ผู้เขียนแย้งว่า “สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อสันติภาพของโลก” และอธิบายว่า “ระเบียบโลกที่มีกฎเกณฑ์เป็นพื้นฐาน” เป็นอุบายที่คอยกัดกร่อนสหประชาชาติ และบ่อนทำลายประเทศสมาชิกส่วนใหญ่”  ในประเด็นนี้ Makoe เตือนว่า “หากไม่ระวัง UN จะร่อแร่ปางตาย”

เกี่ยวกับวิกฤตซีเรีย และการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ ต่อประเทศนี้ ผู้เขียน IOL กล่าวว่า “ความล้มเหลวในการอนุญาตให้องค์กรช่วยเหลือระหว่างประเทศเดินทางผ่านอย่างเสรีและปลอดภัย เพื่อทำงานช่วยชีวิตในซีเรีย จะเป็นการฟ้องร้องต่อทุกประเทศในเครือสหประชาชาติ ที่มองไปทางอื่น ในขณะที่สหรัฐฯ ใช้อำนาจในทางที่ผิดอย่างโจ่งแจ้ง”

📍ซีเรียอ้างถึงการละเว้นมาตรการคว่ำบาตรชั่วคราวของสหรัฐฯ ว่าเป็น “การหลอกลวง”

เนื่องจากภาวะความยากลำบากด้านลอจิสติกส์ในปัจจุบัน หลังจากเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่ตุรกีและซีเรีย และภายหลังจากที่มีเสียงประท้วงโดยนานาชาติ สหรัฐฯ ได้ตัดสินใจที่จะออกมาตรการยกเว้นการคว่ำบาตรซีเรียเป็นเวลา 6 เดือน สำหรับธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบรรเทาภัยพิบัติทั้งหมด แต่ซีเรียกลับไม่พิจารณาการละทิ้งมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ  โดยถือว่ามัน คือ “การหลอกลวง”

“การตัดสินใจ ซึ่งเป็นการหลอกลวง โดยฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ เพื่อผ่อนปรนการคว่ำบาตรเพียงฝ่ายเดียวอย่างโหดร้ายต่อประเทศซีเรียเป็นการชั่วคราวนั้น เกินกว่าเรื่องกำมะลอและเสแสร้ง และไม่แตกต่างจากท่าทีก่อนหน้านี้ ที่สื่อถึงความรู้สึกผิดด้านมนุษยธรรม ในขณะที่มีการประกาศละทิ้งการคว่ำบาตรเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไหลเวียนได้ แต่ความเป็นจริง ในพื้นที่ กลับพิสูจน์ให้เห็นในทางตรงกันข้าม” กระทรวงการต่างประเทศของซีเรียกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์

“มาตรการ และนโยบายบีบบังคับของสหรัฐฯ ได้ลิดรอนความมั่งคั่งในธรรมชาติไปจากชาวซีเรีย ซึ่ง [ทรัพยากรเหล่านี้] กำลังถูกปล้น และมาตรการนี้ก็ได้สร้างอุปสรรคให้กับสถาบันของรัฐ ในการปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพ ดำเนินโครงการพัฒนาและบรรลุเป้าหมายที่กำหนด และให้บริการขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน”

📍ความช่วยเหลือจากชาติตะวันตกมีเพียงเล็กน้อยแม้ว่าจะมีการยกเลิกการคว่ำบาตรชั่วคราวก็ตาม

แม้กระทรวงการคลังสหรัฐจะประกาศยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องกับซีเรียเป็นการชั่วคราว แต่ก็ยังไม่มีประเทศตะวันตกอื่นใด นอกจากอิตาลี ที่ให้ความช่วยเหลือแก่ดามัสกัส หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 7.8 แมกนิจูด

แม้ว่าประเทศตะวันตกบางประเทศ ได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนซีเรีย แต่ความเป็นจริงในพื้นที่กลับพิสูจน์ให้เห็นในทางตรงกันข้าม เนื่องจาก จนถึงขณะนี้ มีเพียงพื้นที่ควบคุมของกลุ่มติดอาวุธเท่านั้นที่ได้รับความช่วยเหลือจากตะวันตก

ผู้สื่อข่าวของ Al Mayadeen รายงานว่า เครื่องบินลำแรกมาจากอิตาลี ซึ่งบรรทุกความช่วยเหลือไปยังซีเรียจากนักธุรกิจชาวตูนิเซียคนหนึ่ง มาถึงสนามบินเบรุตในเมืองหลวงของเลบานอน โดยคาดว่าอีกลำจะลงจอดในภายหลัง ตามคำกล่าวของ อาลี ฮามีห์ (Ali Hamieh) รัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการและการขนส่งของรัฐบาลรักษาการเลบานอน  ซึ่งกล่าวก่อนหน้านี้ในถ้อยแถลงต่อ Al Mayadeen ว่า เครื่องบินช่วยเหลือของอิตาลี 2 ลำจะลงจอดที่สนามบินเบรุตในวันอาทิตย์ จากนั้นจะมุ่งหน้าไปยังซีเรีย

ทัมมาม ยูเซฟ (Tammam Youdef) หัวหน้าคณะผู้แทนทางการแพทย์ที่มาจากอิตาลี กล่าวว่า “เครื่องบินเหล่านี้คือสารแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จากชาวอิตาลีถึงชาวซีเรีย” ตามรายงานของยูเซฟ ระบุว่า เครื่องบินดังกล่าวบรรทุกรถพยาบาล 4 คัน รวมทั้งเสื้อผ้าและวัสดุทางการแพทย์ พร้อมเสริมว่ามีเครื่องบินลำที่ 3 ที่จะออกเดินทางจากอิตาลีในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อบรรทุกความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ชาวซีเรีย

ความเงียบของชาติตะวันตกเกิดขึ้น แม้ Geir Pedersen ทูตพิเศษของสหประชาชาติประจำซีเรีย จะย้ำถึงความจำเป็นในการหลีกเลี่ยงการ “ทำให้เป็นเรื่องการเมือง” ในการช่วยเหลือเหยื่อผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในซีเรีย และเรียกร้องให้วอชิงตันและบรัสเซลส์ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มี “อุปสรรคใดๆ”

Pedersen กล่าวกับผู้สื่อข่าวในเจนีวาว่า ความช่วยเหลือ จำเป็นต้องไปถึงยังพื้นที่ควบคุมของรัฐในซีเรีย เช่นเดียวกันกับพื้นที่ที่ถูกควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธ

 Corinne Fleischer ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติ (WFP) ประจำภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ เน้นถึงความสำคัญ โดยระบุว่า การคว่ำบาตรซีเรีย “บางประการ” จำเป็นต้องถูกยกเลิก เพื่อให้ประชาคมระหว่างประเทศ สามารถส่งมอบสิ่งของที่จำเป็น เพื่อตอบสนองความต้องการอย่างเร่งด่วนของพลเรือน หลังจากเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวสัปดาห์ที่ผ่านมา

________

Source: เรียบเรียงจาก IOL + Al Mayadeen English