สื่อเยอรมัน ชนะคดี MKO: กรณีเปิดโปง กลุ่มก่อการร้าย ปลูกฝังผู้ลี้ภัยเป็น ‘ทหารเด็ก’ ต่อต้านอิหร่าน

65
สมาชิก MKO ประมาณ 3,500 คน ส่วนใหญ่เป็นทหารเด็ก อาศัยอยู่ที่ค่าย Ashraf ที่มีชื่อเสียง — ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางเหนือ 40 ไมล์ — ครั้งเมื่อสงครามอิหร่าน-อิรัก สิ้นสุดลงในปี 1988

Luisa Hommerich ผู้สื่อข่าวเชิงสืบสวนในกรุงเบอร์ลินของ Die Zeit หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ในเยอรมัน ไม่สามารถซ่อนความสุข และความตื่นเต้นของเธอได้ ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ขณะป่าวประกาศชัยชนะ สำหรับบทสรุปของการต่อสู้ทางกฎหมายที่ยืดเยื้อกับลัทธิก่อกลุ่ม MKO องค์กรลัทธิก่อการร้ายต่อต้านระบอบสาธารรัฐอิสลาม

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ศาลแขวงฮัมบูร์กได้ยกฟ้องคดีที่ยื่นฟ้อง โดยสาขาย่อยในเยอรมนีของกลุ่มมูจาฮีดีน-อี-คาลก์(MKO) กลุ่มก่อการร้ายที่มีตะวันตกหนุนหลัง หลังจากการต่อสู้ทางกฎหมายที่กินเวลานานกว่า 10 เดือน

การฟ้องร้องคดีดังกล่าว แสดงถึงความไม่พอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อรายงานการสอบสวนที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Zeit เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2021 ซึ่งเปิดโปง วิธีที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายต่อต้านอิหร่าน — ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทางการเยอรมัน ทั้งโดยเปิดเผย และโดยลับ — ใช้ฝึกฝนเด็กผู้ลี้ภัยจากเมืองโคโลญจน์ ในฐานะ “พลทหาร” ภายในค่ายทหารในเขตปกครองดิยาลาของอิรัก ในทศวรรษที่ 1990

Hommerich ผู้สื่อข่าว ซึ่งทำงานอย่างอุตสาหะเป็นเวลาหลายเดือน เพื่อเปิดโปงเรื่องราวอื้อฉาว โพสต์ข้อความในTwitter เพื่อประกาศว่า MKO ​​”ไม่ประสบความสำเร็จ” ในการต่อสู้ทางกฎหมาย และรีบเสริมว่า บทความต้นฉบับถูกนำออกจากเพย์วอลล์ “เพื่อการเฉลิมฉลอง” (กล่าวคือ ผู้อ่านทั่วไปที่ไม่ใช่สมาชิก สามารถเข้าถึงบทความได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย)

สำหรับกลุ่ม MKO นั้น เธออธิบายในทวีตของเธอว่า “เคยอยู่ในรายชื่อผู้ก่อการร้าย (ของรัฐบาลตะวันตก)” แต่ “ทุกวันนี้ มีส่วนร่วมในกิจกรรมล็อบบี้ และรักษาการติดต่อกับนักการเมือง (ตะวันตก)” โดยชี้ไปที่การสมรู้ร่วมคิดระหว่างลัทธิก่อการร้าย และ รัฐบาลตะวันตก

การฟ้องร้องคดี ‘ถูกปฏิเสธ’

ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา กลุ่มสำนักพิมพ์ Zeit กล่าวว่า คดีที่กลุ่มผู้ก่อการร้าย MKO ยื่นฟ้องนั้น ถูก “ปฏิเสธ” โดยศาลฮัมบูร์ก อันเป็นการปูทางไปสู่การเผยแพร่รายงาน ที่เคยถูกเผยแพร่ไปแล้วก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2021 อีกครั้ง และเป็นการเผยแพร่ “ในรูปแบบฉบับเดิม”ของมัน

การตัดสินในคดีนี้ มีคำสั่งออกมา เมื่อวันที่ 28 มกราคม และถูกส่งไปยังกลุ่มสำนักพิมพ์ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ซึ่งได้ประกาศมันผ่านแถลงการณ์สื่อ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ทั้งนี้ บรรณาธิการของกลุ่มสำนักพิมพ์ดังกล่าวได้แชร์ข้อมูลนี้กับเว็บไซต์ Press TV สื่อของอิหร่าน

แถลงการณ์ระบุว่า ลัทธิก่อการร้ายที่มีฐานอยู่ในแอลเบเนีย และมีสาขาท้องถิ่นของมันอยู่ในเยอรมนี” นั้น ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิก Bundestag” — ซึ่งหมายถึงรัฐสภากลางของเยอรมนี

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คดีที่ยื่นฟ้องโดย MKO ได้คัดค้าน ไปยัง “ข้อความแปดตอน” ในบทความที่เผยแพร่โดยนิตยสารZeit Magazin และรบเร้าให้พวกเขานำข้อความดังกล่าวออก นิตยสารยืนหยัดที่จะไม่ดำเนินการเช่นนั้น อันเป็นการจุดชนวนให้เกิดการต่อสู้ทางกฎหมายที่ยืดเยื้อยาวนาน กระทั้งสิ้นสุดลงเมื่อต้นเดือนนี้

ในคำตัดสินเบื้องต้น เมื่อวันที่ 19 มกราคม ศาลฮัมบูร์กเห็นว่าข้อความส่วนใหญ่ “ชอบด้วยกฎหมาย” และ “ปฏิเสธคำร้องขอคำสั่งห้ามของศาล” ถ้อยแถลงของ Zeit ระบุ โดยเสริมว่า ตัวเอกของเรื่องคือ Amin Golmaryami ชายสัญชาติอิหร่าน-เยอรมัน ที่เคยได้รับการคัดเลือกให้เป็น “ทหารเด็ก” โดยลัทธิก่อการร้าย

การต่อสู้ในชั้นศาลเริ่มขึ้นในเดือนเมษายน 2022 เกือบหกเดือน หลังจากเผยแพร่บทความครั้งแรก ในโพสต์บนทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 22 เมษายน

Hommerich ผู้สื่อข่าว กล่าวว่า เธอได้รายงานเกี่ยวกับ Golmaryami ว่าเขาถูก “ลักลอบนำตัวเข้าไปในอิรัก” โดยสายลับ MKO และพร้อมที่จะ “ตั้งรับการสืบสวน” เพื่อสู้คดีต่อหน้าศาลแขวงฮัมบูร์ก

ต่อมาในวันนั้น หลังจากปรากฏตัวในศาล ผู้สื่อข่าวของ Die Zeit กล่าวว่า Golmaryami และเหยื่ออีก 5 คนของลัทธิก่อการร้ายได้หันมา “ให้การเป็นพยาน” แต่ “ไม่ได้รับการรับฟัง”

“หนึ่งในนั้นแสดงต่อหน้าศาล และต่อหน้าผู้สนับสนุน MKO ประมาณ 30 คน ที่อีกฝ่ายนำมา” — เธอเขียนข้อความนี้พร้อมกับแชร์รูปภาพของบุคคลที่ถือป้าย ที่มีข้อความว่า “ฉันเป็นทหารเด็ก ฉันต้องการความยุติธรรม”

ผู้ประท้วงต่อต้าน MKO ณ ศาล ในฮัมบูร์ก ในเดือนเมษายน 2021 (Twitter)

ตัวเอก ที่เป็นกุญแจสำคัญ

รายงานดังกล่าวตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Zeit Magazin เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ Golmaryami ซึ่งเดินทางมายังเยอรมนีในฐานะเด็กผู้ลี้ภัยในช่วงต้นทศวรรษ 1980

เมื่ออายุได้ 15 ปี เขาและเด็กๆ ผู้ลี้ภัยชาวอิหร่านอีกหลายคนในเมืองโคโลญจน์ ถูกกวาดต้อนโดยการบังคับไปยังอิรัก เพื่อเข้ารับการฝึกเป็น “ทหารเด็ก” ในการต่อต้านสาธารณรัฐอิสลาม

ขณะที่เหยื่อคนอื่นๆ เลือกที่จะไม่เล่าถึงความเจ็บปวดของพวกเขาในการถูกจองจำโดยลัทธิผู้ก่อการร้าย MKO เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย Golmaryami ตัดสินใจพังทลายความเงียบของเขา

การสืบสวนพบว่า เด็กและเยาวชนอย่างน้อย 40 คนซึ่งเดินทางมายังโคโลญจน์ในฐานะผู้ลี้ภัย โดยปราศจากพ่อแม่ของพวกเขา ถูกลักลอบนำเข้าประเทศอิรัก ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1990

Golmaryami เกิดในเมืองอาบาดอน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอิหร่าน เป็นหนึ่งในจำนวนบุคคลที่ใช้เวลาอย่างน้อย12 ปี ในค่าย Ashraf ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ที่โด่งดังของลัทธิก่อการร้ายในเวลานั้น

ค่ายดังกล่าวถูกปิดและย้ายไปยังแอลเบเนีย บนคาบสมุทรบอลข่าน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป ที่ซึ่งแม่ของGolmaryami ก็อาศัยอยู่ที่นั่นด้วย

เธอถูก “ล้างสมอง” ผู้เป็นลูกชายอุทานอย่างสิ้นหวัง

Golmaryami ได้รับอนุญาตให้พบแม่ของเขาครั้งสุดท้ายในฤดูร้อนปี 2019 ในร้านอาหารในติรานา เมื่อเขาเสนอว่าจะช่วยเธอหนีออกจากค่าย เธอกลับแสดงความไม่พอใจ

บทความของนิตยสาร Die Zeit ของเยอรมันเกี่ยวกับอดีตทหารเด็กของกลุ่ม MKO — Amin Golmaryami ตีพิมพ์ ในเดือนตุลาคม 2021 (Die Zeit)

“มีแต่คนทรยศ และสายลับของระบอบอิหร่านเท่านั้นที่พูดแบบนั้น” เธอตะคอกใส่เขา รายงานระบุ “เขาไม่หวังว่าจะสามารถช่วยเธอได้อีกต่อไป”

รายงานอ้างคำพูดของ Golmaryami ซึ่งบอกว่า เขา “ต่อต้านการถูกล้างสมองโดย MKO จากภายใน” เพียงแต่เขาไม่ค่อยแสดงความคิดที่แท้จริง” ของเขา ออกมา และนั่นคือวิธีที่ทำให้เขามีความคิดที่ชัดเจน

“ผู้เยาว์ 40 คนส่วนใหญ่ ที่เชื่อว่า ถูกลักลอบนำเข้าไปในอิรักจากโคโลญจน์ (โดย MKO) มีรายงานว่าได้หลบหนีออกมาในระหว่างนี้ มีการบอกเล่าว่า หลายคนได้อาศัยอยู่ในโคโลญจน์อีกครั้งหนึ่ง” รายงานระบุ

“อย่างไรก็ตาม มีคนอย่างน้อย 10 คน ที่มีการกล่าวกันว่า อยู่กับขบวนการประชาชนมูญาฮีดีน (หมายถึงกลุ่มก่อการร้าย MKO) ที่ไหนสักแห่งในโลก กล่าวกันว่า บางคนเสียชีวิตจากการโจมตีในอิรัก”

ปีกในเยอรมันของ MKO

ในบทความที่ตามมาของ Zeit Online ในเดือนพฤศจิกายน 2021 ซึ่งถูกนำมาผลิตซ้ำ โดยสำนักข่าวอื่นๆ — Hommerich กล่าวว่า Golmaryami และคนอื่นๆ ที่เหมือนกับเขา ถูก “ควบคุมและกักขัง” โดยเจ้าหน้าที่ MKO โดยใช้ “เทคนิคทางจิตวิทยา” (psychological technique) “การควบคุมจิตใจ” (mind control) และ “การล้างสมอง” (brainwashing)

จากการค้นคว้าเป็นเวลานานหลายเดือน ประกอบกับข้อมูลที่เก็บถาวร และเอกสารภายใน — Zeit Online เปิดเผยว่าลัทธิก่อการร้ายปฏิบัติการในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ภายใต้ชื่อ ‘สภาต่อต้านอิหร่านแห่งชาติ’ (National Council of Resistance Iran) ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านสาธารณรัฐอิสลาม โดยมีสำนักงานใหญ่ อยู่ในเยอรมัน บริเวณย่านหรูของกรุงเบอร์ลิน

กลุ่มดังกล่าวกำลังเพลิดเพลินกับการสนับสนุนจากคณะกรรมการ ‘ความเป็นปึกแผ่นของเยอรมันเพื่ออิหร่านที่เป็นอิสระ’ (DSFI) โดยมีฝ่ายนิติบัญญัติ และนักการเมืองอาวุโสของเยอรมันเข้าร่วมในกิจกรรม ที่จัดโดยลัทธิก่อการร้ายและ DSFI ซึ่งในหมู่พวกเขาเหล่านี้ มีอดีตประธาน Bundestag Rita Süssmuth อยู่ในคณะกรรมการที่ปรึกษา, รวมถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติเยอรมัน ได้แก่ Thomas Erndl (สหภาพสังคมคริสเตียน), Lukas Köhler (พรรคประชาธิปไตยเสรี) และ Bernhard Daldrup (พรรคสังคมประชาธิปไตย) ก็มักจะเข้าร่วมในกิจกรรมที่จัดโดย MKO และ DSFI

นอกจากนี้ Norbert Lammert ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 12 ของ German Bundestag (รัฐสภากลาง) ตั้งแต่ปี 2005 ถึง 2017 ก็ยังเคยเข้าร่วมงานที่จัดโดย Rajavi ผู้นำของขบวนการอีกด้วย

Norbert Lammert อดีตประธานาธิบดีของ Bundestag เยอรมัน กล่าวปราศรัยกับการชุมนุม MKO ที่หน้ารัฐสภาเยอรมัน ในเดือนตุลาคม 2020

รายงานของ Zeit Online ซึ่งอ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยตัวตน เปิดเผยว่า นักการเมืองอาวุโสของเยอรมัน เช่นSüssmuth ทำงานร่วมกับ DSFI เพื่อรับเอาจำนวนมากจากผู้ลี้ภัยวัยเยาว์เหล่านี้ ซึ่งโดยส่วนมากหลังจากที่พวกเขาออกจากค่าย Ashraf ในอิรักแล้ว จะถูกนำมาอาศัยอยู่ที่วิลล่า เขตเบอร์ลินวิลเมอร์สดอร์ๆ ในท้ายที่สุด หลังจากที่พวกเขามาถึง

“เราคิดว่าเรากำลังมายุโรป เพื่ออิสรภาพ” หนึ่งในนั้นอ้างคำพูดในรายงาน “แต่ในกรุงเบอร์ลิน เจ้าหน้าที่ขององค์กรยังคงเฝ้าติดตาม (มอนิเตอร์) เรา ทั้งในด้านจิตใจ อารมณ์ สังคม และการเงิน”

ภารกิจที่หนักหนาสาหัส

ภาระงานที่หนักหนาสาหัสในแต่ละวันของพวกเขา ประกอบด้วย: การตื่นเจ็ดโมงตรง และเริ่มต้นทำงาน รวมทั้ง การขอรับบริจาคตามท้องถนน ในตอนเย็นพวกเขาจะเข้าร่วม “การประชุมอุดมการณ์” ซึ่งพวกเขาต้องเปิดเผยความคิดต้องห้ามต่างๆ – รวมถึงเกี่ยวกับครอบครัวของพวกเขาเอง

ผู้ปฏิบัติงาน MKO ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้เหล่านี้ ยังถูกทำให้ตกอยู่ใน “ภาวะอดนอน” เนื่องจากบางครั้งการประชุมทางการเมืองดำเนินไปตลอดทั้งคืน ตั้งแต่เวลาประมาณ 22.00 น. ถึงตี 4

“การทำลายสายสัมพันธ์ทางสังคม” เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่โหดร้าย ที่ลัทธินี้นำมาใช้ พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ติดต่อกับครอบครัว เพื่อน หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงาน เนื่องจาก “ภารกิจ” คือสิ่งที่สำคัญที่สุด

พวกเขายังถูกปกปิดจากข้อมูลภายนอก และห้ามอ่านหนังสือพิมพ์ และนิตยสาร หรือฟังวิทยุ หรือฟังเพลง อินเทอร์เน็ตที่มีอยู่ ก็ถูกเซ็นเซอร์อย่างหนัก

รายงานอ้างจากคำกล่าวของ “ผู้ที่ขัดแย้ง” กับกลุ่ม MKO ว่า การบงการและการควบคุมจิตใจนี้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้าง “คนงานราคาถูก” ที่จะทำงาน เพื่อรับใช้เป้าหมายของลัทธิก่อการร้าย นั่นคือ การโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน

“บางคนอาจมองหานักการเมือง หรือ คอยอัปเดตเว็บไซต์ภาษาเยอรมันขององค์กรให้ทันสมัยอยู่เสมอ ส่วนคนอื่นๆก็จัดการชุมนุม” รายงานระบุ

คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังถูกเรียกร้องให้ทำหน้าที่รวบรวมเงินบริจาคให้กับลัทธิก่อการร้าย ด้วยการยืนอยู่ในเขตทางเท้าขณะถือป้ายรูปภาพที่เขียนว่า “เหยื่อของการทรมาน และเด็กที่หิวโหย”

การปฏิบัตินี้ยังขยายไปถึง ‘สโมสร’ ที่ซ่อนเร้น ซึ่งดำเนินการจากวิลล่าในกรุงเบอร์ลิน บางส่วนจาก ‘สโมสร’ เหล่านี้ยังคงใช้งานได้ โดยดำเนินการภายใต้ชื่อ ‘Aid for Human Rights in Iran’, (ความช่วยเหลือเพื่อสิทธิมนุษยชนในอิหร่าน) ‘Association for People and Freedom’ (สมาคมเพื่อประชาชนและเสรีภาพ) หรือ ‘Association for Hope of the Future’ (สมาคมเพื่อความหวังและอนาคต)

การล็อบบี้ และการบริจาค

อดีตสมาชิก MKO คนหนึ่งกล่าวว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการสำหรับการล็อบบี้คือ “คนดังหนึ่งหรือสองคน” ที่จะให้ความสนใจ ชมเชย และมอบของขวัญให้พวกเขา จากนั้น ในขั้นตอนต่อไป บุคคลนั้นจะถูกขอให้จัดตั้งสมาคมที่รณรงค์เพื่อMKO

“มันเป็นกลอุบายทางจิตวิทยา: เมื่อคุณขอความช่วยเหลือจากใครสักคน หลังจากมีการเยินยอมากมาย ผู้คนคิดว่าพวกเขาเป็นหนี้คุณ และแทบจะไม่สามารถปฏิเสธได้เลย” บุคคลดังกล่าว อ้าง

จอห์น โบลตัน (John Bolton) อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคง ของ Donald Trump ตามการรายงานของ Richard Engel นักข่าว MSNBC ที่ได้รับรางวัล ระบุว่า – เขาได้รับเงินสูงถึง 180,000 ดอลลาร์สำหรับการพูดในงาน MEK (*อีกชื่อของกลุ่ม MKO) ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

 

จอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวปราศรัยในการชุมนุมของMKO ในนิวยอร์ก เมื่อเดือนกันยายน 2017

รายงานฉบับหนึ่งในเดอะการ์เดียน เมื่อเดือนกรกฎาคม 2018 ระบุว่า การที่โบลตันก้าวขึ้นมาเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทรัมป์นั้น ได้ “ปลุกพลังให้กับกลุ่มดังกล่าว” และช่วยให้กลุ่มนั้น “กลบฝังอดีตอันมืดมน และแสดงตนว่าเป็นทางเลือกที่เป็นประชาธิปไตย และเป็นที่นิยม แทนที่สาธารณรัฐอิสลาม”

Rudy Giuliani ทนายความส่วนตัวของโดนัลด์ ทรัมป์ได้เข้าร่วมการชุมนุม MEK เป็นประจำ

Engel กล่าวว่า Giuliani “จำไม่ได้ว่า พวกเขาจ่ายเงินให้เขาไปเท่าไรในช่วงหลายปีที่ผ่านมา” และเชื่อว่าการที่กลุ่มนี้เคยถูกเรียกว่าเป็นองค์กรก่อการร้ายต่างชาตินั้น เป็น “ความผิดพลาด”

องค์กรก่อการร้ายยังมีส่วนร่วมในการบริจาคต่างๆให้แก่พรรคการเมือง — กลุ่มขวาสุด Vox ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่เป็นอันดับสามในรัฐสภาสเปน ที่มีสมาชิกสภานิติบัญญัติ 52 คน — ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2013 โดยได้รับเงินสนับสนุนจากMKO ประมาณ 1 ล้านยูโร ตามการรายงานของหนังสือพิมพ์ El Pais ในเดือนมกราคม 2020

สมาชิกสภานิติบัญญัติ 2 คนของกลุ่มการเมืองขวาจัด Santiago Abascal และ Iván Espinosa de los Monteros ได้รับเงินเดือนพรรคจากกลุ่ม MEK เป็นเวลา 8 เดือน รวมแล้วประมาณ 65,000 ยูโร

การล็อบบี้ทางการเมืองนี้ ช่วยให้กลุ่มนี้ ซึ่งอยู่ในรายชื่อองค์กรก่อการร้ายของสหรัฐฯ จนถึงปี 2012 รอดพ้นจากการตรวจสอบมานานหลายปี แม้กระทั่งศาลต่างๆ ก็เข้ามาช่วยกลุ่มนี้ให้รอดพ้นจากการถูกเพ็งเล็งในหลายวาระ

ในเดือนมีนาคม 2019 ศาลเยอรมันสั่งให้นิตยสารรายสัปดาห์ Der Spiegel ลบข้อความจากบทความที่กล่าวหาว่าMKO ​​มีส่วนร่วมใน “การทรมาน” และ “การก่อการร้ายทางจิต”

ในคำตัดสิน ศาลกล่าวว่าจะปรับนิตยสารเยอรมัน 250,000 ยูโร (ประมาณ 282,000 ดอลลาร์) หากข้อความเกี่ยวกับค่าย “การก่อการร้ายทางจิต” ของ MEK ในแอลเบเนียไม่ถูกลบออก

อย่างไรก็ตาม ชัยชนะทางกฎหมายที่สำคัญของ Die Zeit ต่อกลุ่มก่อการร้าย อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการยุติกิจกรรมอาชญากรรมในเยอรมนี และประเทศอื่นๆ ในยุโรป

__________

แปลและเรียบเรียงจาก รายงานโดย Syed Zafar Mehdi — นักข่าว นักวิจารณ์ทางการเมือง และนักเขียนในกรุงเตหะราน เขาเขียนรายงานต่างๆ มานานกว่า 13 ปี จากอินเดีย อัฟกานิสถาน ปากีสถาน แคชเมียร์ และเอเชียตะวันตก สำหรับสื่อสิ่งพิมพ์ชั้นนำทั่วโลก

presstv