เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อิหร่านเปิดตัวขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง (hypersonic missile) รุ่นแรกที่ผลิตในประเทศอย่างเป็นทางการ โดยอิหร่านกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มเล็ก ๆ แต่ทรงอิทธิพลจาก 4 ประเทศ ที่บรรลุความสำเร็จที่ไม่ธรรมดาดังกล่าว
พิธีเปิดตัวในกรุงเตหะราน มีประธานาธิบดีอิหร่าน ซัยยิดอิบราฮิม ระอีซี และเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงจำนวนหนึ่งเข้าร่วม รวมทั้งพลตรี ฮอสเซน ซาลามี หัวหน้ากองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) และนายพลจัตวา อามีร์ อาลี ฮาจิซาเดห์ ผู้บัญชาการการบินและอวกาศของ IRGC
ขีปนาวุธ ในนาม “ฟัตตาฮ์” (ซึ่งมีความหมายว่า “ผู้เปิด”) จากการตั้งชื่อโดยผู้นำการปฏิวัติอิสลาม อิมาม ซัยยิดอาลี คอเมเนอี เป็นจรวดเชื้อเพลิงแข็งแบบสองขั้นที่มีความแม่นยำสูง ด้วยพิสัยการยิงอยู่ที่ 1,400 กม. และความเร็วเทอร์มินอลอยู่ที่ 13 ถึง 15 มัค
ความเร็วที่น่าเกรงขาม ซึ่งมาพร้อมกับพวยปลายท่อที่เคลื่อนที่ได้ ช่วยให้มิสไซล์เคลื่อนที่ได้ทุกทิศทาง ทั้งในและนอกชั้นบรรยากาศของโลก ส่งผลให้มันมีประสิทธิภาพสามารถทะลุทะลวงผ่านการสกัดกั้นโดยระบบต่อต้านขีปนาวุธที่มีอยู่ทั้งหมด
โดยการอธิบายถึงการผลิตขีปนาวุธรุ่นใหม่ว่าเป็น “ก้าวกระโดดอย่างยักษ์ใหญ่” ในอุตสาหกรรมขีปนาวุธของอิหร่าน พลจัตวาฮาจิซาเดห์กล่าวว่าขีปนาวุธได้ผ่านการทดสอบทั้งหมดโดยไม่พบปัญหาใดๆ
📌อะไรทำให้ความสำเร็จนี้ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว?
ก่อนหน้าอิหร่าน มีเพียง 3 ประเทศในโลกเท่านั้น ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสำหรับการผลิตขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ซึ่งได้แก่ รัสเซีย จีน และอินเดีย โดยรุ่นต่างๆจากขีปนาวุธพวกเขานั้น มีความแตกต่างกันในแพลตฟอร์มของการปล่อยตัว, พิสัยการยิง, น้ำหนักบรรทุก และเทคโนโลยีไฮเปอร์โซนิกเอง
มีเพียงไม่กี่ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา ที่มีโครงการพัฒนาความเร็วเหนือเสียงในระยะยาว แต่จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ หรือมีการใช้งานจริง
ตัวอย่างเช่น งบประมาณปี 2024 สำหรับกองทัพอากาศสหรัฐฯ นั้นประกอบด้วยประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ การจัดหาเพื่อการพัฒนาทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ไม่รวมถึงการจัดซื้อ หรือการส่งขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงเข้าสู่สนาม
เมื่อคำนึงถึงรุ่นที่ถูกนำเสนอ และข้อมูลจำเพาะที่กล่าวถึงข้างต้น ขีปนาวุธฟัตตาฮ์ของอิหร่าน จึงแตกต่างจากขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่ใช้งานอยู่หรือที่กำลังพัฒนาทั้งหมด
ผู้บัญชาการการบินและอวกาศของอิหร่านกล่าวในโอกาสนี้ว่า ขีปนาวุธที่เปิดตัวเมื่อวันอังคาร มีคุณสมบัติพิเศษมากมาย และทำให้อิหร่านเป็นเพียงหนึ่งในสี่ประเทศในโลกที่มีมัน
เขาเสริมว่าฟัตตาห์ “ไม่สามารถถูกทำลาย” โดยระบบป้องกันขีปนาวุธใด ๆ และระยะของมันถูกกำหนดไว้ที่ 1,400 กิโลเมตร
ประธานาธิบดี ซัยยิดอิบรอฮิม ระอีซี กล่าวชื่นชมความก้าวหน้าที่น่าทึ่งของประเทศในสังเวียนด้านการทหาร และกล่าวว่า อุตสาหกรรมขีปนาวุธกลายเป็น “ชนพื้นเมือง” ที่ไม่สามารถรับผลกระทบจากการใช้คมดาบรุกรานได้
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า ความก้าวหน้าทางทหารเป็น “แหล่งที่มาของความมั่นคงและสันติภาพ” สำหรับภูมิภาค
📌โลกมีปฏิกิริยาอย่างไร?
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความสำเร็จทางเทคโนโลยีของอิหร่านมาพร้อมกับการปฏิเสธ และการเยาะเย้ยในสื่อตะวันตก อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาตอบสนองในครั้งนี้ แสดงถึงการไตร่ตรอง และสมดุลที่มากขึ้น
ครั้งหนึ่งสื่อตะวันตก และผู้ที่อ้างว่าเชี่ยวชาญทางการทหาร เคยเรียกขานโดรนของอิหร่านว่าเป็น “ของเล่นที่ไร้ประโยชน์” (useless toys) ทว่าในปัจจุบัน มันกลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้โลกตะวันตกต้องตกตะลึง โดยสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านหลายครั้ง
เรดาร์และระบบต่อต้านอากาศยานที่ผลิตขึ้นเองของอิหร่าน ยังเป็นประเด็นที่ถูกเยาะเย้ย จนกระทั่งในเดือนมิถุนายน 2019 เมื่อโดรนสอดแนม RQ-4A Global Hawk ของสหรัฐฯ ที่มีความซับซ้อนที่สุด ถูกยิงตกโดยระบบ Khordad ที่ 3 ของอิหร่าน นำไปสู่การตอบสนองของสหรัฐ โดยการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม
ในวันนี้ เพื่อตอบโต้การเปิดตัวฟัตตาห์ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้คว่ำบาตรเครือข่ายของบุคคล 7 คน และ 6 หน่วยงานในอิหร่าน จีน และฮ่องกง โดยอ้างถึงความเชื่อมโยงกับโครงการขีปนาวุธของอิหร่าน
จอห์น เคอร์บี (John Kirby) เจ้าหน้าที่สภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า คณะบริหารของโจ ไบเดน “มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่ง ที่จะสกัดกั้นกิจกรรมความไม่มั่นคงของอิหร่านในภูมิภาคนี้ โดยรวมถึงการพัฒนาโครงการเสริมสร้างขีปนาวุธ” คำพูดดังกล่าวแสดงความไม่พอใจต่อศักยภาพทางทหารที่เพิ่มขึ้นของอิหร่าน
Yoav Gallant รัฐมนตรีกระทรวงกิจการทหารของรัฐบาลอิสราเอล พยายามมองข้ามความสำคัญของฟัตตาห์ โดยอ้างว่า “อิสราเอลจะมีทางออกเสมอในการตอบโต้”
Radio Free Europe ซึ่งเป็นสื่อโฆษณาชวนเชื่อของตะวันตก อ้าง “ผู้เชี่ยวชาญ” กล่าวว่า ฟัตตาห์ “ดูเหมือนจะไม่ซับซ้อนเท่าขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่สหรัฐฯ และจีนได้พัฒนา”
รายงานอ้างถึง “ผู้เชี่ยวชาญ” อีกคนหนึ่งที่กล่าวว่า “มีคำถามอยู่ว่า มันสามารถโจมตีเป้าหมายด้วยความเร็วที่สูงมากได้อย่างแม่นยำหรือไม่”
นักยุทธศาสตร์การทหาร ตามที่ทางเว็บไซต์ Press TV ได้พูดคุยด้วย กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้ที่เรียกว่า”คอมเม้นท์ของผู้เชี่ยวชาญ” ซึ่งเกี่ยวข้องกับขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงลูกแรกของอิหร่าน นั้น “แสดงให้เห็นว่า ชาวตะวันตกบางคนยังคงไม่ยอมรับ” อำนาจทางทหารของอิหร่าน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว “เติบโตขึ้นอย่างมาก” เมื่อคำนึงถึง “การต้องเผชิญหน้ากับการคว่ำบาตร”
📌ตำแหน่งของอิหร่านในเวทีสากล
แม้ว่าเทคโนโลยีไฮเปอร์โซนิก จะมีความซับซ้อนอย่างมาก เนื่องจากมันเกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์จรวดขั้นสูง วัสดุที่ทนทานต่ออุณหภูมิสูง และการนำทางที่ซับซ้อน เห็นได้ชัดจากข้อความ และปฏิกิริยาที่มีข้อสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับความสามารถของฟัตตาห์
หนึ่งในการรับรองที่อธิบายแนวทางใหม่สู่ความสำเร็จของอิหร่าน คือ Critical Technology Tracker รายงานการติดตามเทคโนโลยีสำคัญฉบับล่าสุด โดยสถาบันนโยบายเชิงกลยุทธ์ของออสเตรเลีย (ASPI) ในการสนับสนุนของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งได้ทำการติดตามการพัฒนาทั่วโลก จาก 44 สาขาเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดที่มีความสำคัญต่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในอนาคต
รายงานของ ASPI ได้จัดอันดับให้อิหร่านเป็น 1 ใน 5 ประเทศชั้นนำจาก 44 เทคโนโลยีที่ได้รับติดตาม โดยนำหน้าญี่ปุ่น รัสเซีย และฝรั่งเศส และยังอยู่ในอันดับที่ 9 ในการจัดอันดับโดยรวม เพื่อทำนาย 10 อันดับแรกของมหาอำนาจโลกในอนาคต
หนึ่งในเทคโนโลยีเหล่านี้ คือเครื่องยนต์อากาศยานขั้นสูง ซึ่งรวมถึงระบบไฮเปอร์โซนิก ที่ซึ่งอิหร่านอยู่ในห้าอันดับ
จำนวนสิ่งพิมพ์และการอ้างอิง พร้อมกับดัชนี Hirsch ถูกตรวจสอบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์อากาศยานขั้นสูงซึ่งรวมถึงระบบความเร็วเหนือเสียง (hypersonic) และประเทศอิหร่านอยู่ในลำดับที่ 4 ถัดจากจีนและสหรัฐอเมริกา แซงหน้าญี่ปุ่น อิตาลี และสหราชอาณาจักรอย่างชัดเจน
จากข้อมูลของ ASPI อิหร่านยังเป็นหนึ่งใน 4 ประเทศชั้นนำในด้านเชื้อเพลิงชีวภาพ และวิทยาศาสตร์วัสดุอัจฉริยะ อิหร่านยังครองอันดับที่ 5 ในด้านวัสดุและการผลิตระดับนาโน, การเคลือบผิว, และวัสดุเชิงประกอบขั้นสูง และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังออกสู่ตลาด ซึ่งอาจเปลี่ยนอนาคตของอุตสาหกรรมได้
นอกจากนี้ อิหร่านยังมีประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับขีปนาวุธที่มีความแม่นยำสูง ซึ่งพิสูจน์แล้วในทางปฏิบัติ ในการต่อต้านฐานผู้ก่อการร้ายในอิรักและซีเรีย เช่นเดียวกับเป้าหมายที่เคลื่อนไหวในอ่าวเปอร์เซีย
อิหร่านตีพิมพ์ 2 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนสิ่งตีพิมพ์ทั่วโลกในด้านชีววิทยาสังเคราะห์ นับเป็นประเทศลำดับที่ 8 ในการจัดอันดับโลก
นอกเหนือจากการแข่งขันตามปกติระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาแล้ว ประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งมากของอิหร่านในด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ได้กลายเป็นสิ่งที่โดดเด่นในทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อิหร่านผงาดขึ้นในฐานะผู้มีอิทธิพลอย่างคาดไม่ถึง ในการวิจัยตัวเร่งฮาร์ดแวร์
อิหร่านได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำในการผลิตทางด้านวิทยาศาสตร์ของโลกมานานหลายปี อย่างไรก็ตาม การติดตาม Critical Technology Tracker ของ ASPI นั้นติดตามมากกว่าการวิจัยทั่วไป และมุ่งเน้นไปที่การวัดผลการปฏิบัติงานที่สำคัญของความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเผยให้เห็นประเทศที่มีความได้เปรียบทางการแข่งขันในการวัดผลนี้จากเทคโนโลยีทั้ง 44 สาขา
ท่ามกลางการแสดงความไม่พอใจของตะวันตก ถึงกระนั้น อิหร่านยืนกรานว่าโครงการขีปนาวุธของตนนั้นเป็นไปอย่างสันติ และเป็นการป้องกันตนโดยธรรมชาติ
นอกจากนี้ ในประเด็นที่เกี่ยวข้อง ทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของ อิมาม ซัยยิดอะลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ยังได้มีการทวิตข้อความภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับขีปนาวุธฟัตตาฮ์ด้วยเช่นกัน ความว่า:
อิมามอะลี (อ.) กล่าวว่า: “ความรู้ คือพลังอำนาจ ; ผู้ใดก็ตามที่เอาชนะมันได้ เขาผู้นั้น คือผู้พิชิตชัย และใครก็ตามที่สูญเสียมันไป เขาผู้นั้นจะถูกพิชิต”
คุณจะต้องได้รับการจัดหาให้มีเครื่องมือทางด้านวิทยาศาสตร์ เมื่อเป็นเช่นนั้น คุณจะมีมือจับที่แข็งแกร่ง แต่หากคุณขาดความรู้ มือของคุณ ก็จะถูกหักหาญ โดยเหล่าผู้ที่มีมือจับที่แข็งแกร่ง
ข้อความทวิตเตอร์ ณ เวลา 19:09 น. | 7 มิ.ย. 2566
_______________
รวบรวม และเรียบเรียงจาก PressTV