เป้าหมายกึ่งอำพรางจากการทำลายชื่อเสียง ผบ.กุดส์ในเตหะราน

1

แผนของระบอบไซออนิสต์และสหรัฐอเมริกาในการที่จะโจมตีพรรคฮิซบุลเลาะฮ์อย่างรุนแรงด้วยการโจมตีสี่ครั้งภายในสี่สัปดาห์ เพื่อสลัดขบวนการต่อต้านให้หลุดออกจากเวทีในเลบานอน

มัชรักนิวส์ – เมื่อเช้ามืดวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 67 เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่ไซออนิสต์ก่อเหตุการณ์ก่อการร้ายในพื้นที่ฎอฮิยา มีข่าวจากสื่อภาษาฮีบรูที่เผยแพร่ออกมาอย่างรวดเร็วและถูกตอบรับในโซเชียลมีเดียต่างๆ ผ่านช่อง 12 ของโทรทัศน์ระบอบไซออนิสต์ ซึ่งได้ประกาศว่า การประชุมของผู้นำการต่อต้านในเลบานอนตกเป็นเป้าหมายในการจู่โจม และในเหตุการณ์ก่อการร้ายนี้ นายพลกออานี ผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์ได้ถูกสังหารด้วยเช่นกัน

ข่าวนี้แพร่กระจายไปตามสื่อต่างประเทศอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสื่ออเมริกัน เช่น หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์และสำนักข่าวรอยเตอร์สที่ได้ขยายความเกี่ยวกับข่าวนี้เพิ่มเติม สื่อเหล่านี้พยายามสร้างความคลุมเครือและข้อสงสัยเกี่ยวกับสถานะของผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์แห่งกองกำลังปฏิวัติอิสลาม เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับข่าวที่เผยแพร่โดยสื่อภาษาฮีบรู

นิวยอร์กไทมส์ได้เขียนรายงานรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า:

“ในขณะที่มีข่าวลือเกี่ยวกับการเสียชีวิตของอิสมาอีล กออานี ผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์แห่งกองกำลังปฏิวัติอิสลามอิหร่านในเหตุโจมตีทางอากาศ มีการอ้างว่าเจ้าหน้าที่ผู้ไม่ระบุตัวสามคนได้ให้ข้อมูลกับนิวยอร์กไทมส์ว่า ครั้งสุดท้ายที่นายพลคนนี้ถูกพบเห็นคือเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในกรุงเบรุต โดยเขามาที่นี่เพื่อช่วยเหลือกลุ่มฮิซบุลเลาะฮ์ในการรับมือกับการโจมตีของอิสราเอล นอกจากนี้ สมาชิกกองกำลังปฏิวัติอิสลามที่ไม่เปิดเผยชื่อในกรุงเบรุตก็ได้บอกกับนิวยอร์กไทมส์ว่า ความเงียบของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านในเรื่องนี้ทำให้เกิดความวิตกกังวลในหมู่เจ้าหน้าที่กองกำลังปฏิวัติอิสลาม”

https://cdn.mashreghnews.ir/d/2024/10/12/4/4261764.jpg?ts=1728709728000

เป้าหมายของการแพร่ข่าวลือทางข้อมูลในฎอฮิยา

ข้อกล่าวหาเรื่องการลอบสังหารผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์ในกรุงเบรุตได้ถูกเผยแพร่ในสถานการณ์ที่ข่าวอย่างเป็นทางการยืนยันว่า นายพลกออานีไม่ได้อยู่ในกรุงเบรุตในขณะนั้น ซึ่งบ่งชี้ว่ามีปฏิบัติการทางข้อมูลกำลังเกิดขึ้นเบื้องหลังข่าวลือเหล่านี้ ดูเหมือนว่าหน่วยข่าวกรองของสหรัฐอเมริกาและระบอบไซออนิสต์ต้องการใช้การแพร่ข่าวลือเพื่อทำให้เกิดความสับสนด้านความปลอดภัย เพื่อค้นหาเส้นทางการเคลื่อนที่และเครือข่ายของกลุ่มต่อต้านในพื้นที่

จากการวิเคราะห์สถานการณ์ภาคสนามในช่วงที่มีการเผยแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับผู้บัญชาการของกลุ่มต่อต้านอย่างรวดเร็ว ทำให้เห็นว่าการคำนวณของไซออนิสต์นั้นพลาดและคาดเคลื่อน หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐและกองทัพไซออนิสต์เชื่อว่าการลอบสังหารและการเสียชีวิตของเลขาธิการกลุ่มต่อต้านเลบานอน (ท่านซัยยิดฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์) จะช่วยลดแรงกดดันในแนวรบทางตอนเหนือได้ แต่การตอบโต้ใหม่ของฮิซบุลเลาะฮ์ที่นำกรุงเทลอาวีฟมาเปรียบกับกรุงเบรุต และนำฎอฮิยามาเปรียบกับเมืองไฮฟาในการโจมตีศัตรู ได้ทำให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนกต่อการคาดการณ์ของศัตรู

ระบบการข้อมูลของไซออนิสต์เชื่อว่า หลังจากการโจมตีในฎอฮิยา กลุ่มต่อต้านจะสูญเสียความสมดุลและไม่สามารถฟื้นตัวได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว แผนการของไซออนิสต์และสหรัฐคือ ในระยะเวลา 4 สัปดาห์ ด้วยการโจมตี 4 ครั้งและการเสริมอีก 2 ขั้นตอน จะสามารถทำให้ฮิซบุลเลาะฮ์อ่อนแอลงอย่างรุนแรง จนทำให้กลุ่มต่อต้านถูกกำจัดออกจากสมการของเลบานอน กล่าวคือ สหรัฐและไซออนิสต์ตั้งใจที่จะทำลายฮิซบุลเลาะฮ์ แต่การคาดการณ์ที่ผิดพลาดพวกเขา จึงทำให้ผลลัพธ์ปรากฎออกมาในแบบที่ตรงกันข้าม

https://cdn.mashreghnews.ir/d/2024/10/12/4/4261765.jpg?ts=1728709728000

ในความเป็นจริง หลังจากการเสียชีวิตของซัยยิดฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ สหรัฐอเมริกาก็ได้สรุปว่า ศักยภาพการนำของกลุ่มต่อต้านในภูมิภาคนั้นมีความกว้างขวางมากจนไม่สามารถถูกทำลายได้ ดังนั้น พวกเขาจึงหันมาใช้การทำลายชื่อเสียงและทางสังคมแทนการลอบสังหารทางกายภาพ การวิเคราะห์สถานการณ์ภาคสนามเผยให้เห็นว่า ไซออนิสต์ได้เผาทำลายการ์ดข้อมูลและยุทธวิธีทางทหารส่วนใหญ่ของพวกเขา แต่ผลลัพธ์ที่ได้รับกลับห่างไกลจากสิ่งที่พวกเขาคาดการณ์ไว้ถึง 180 องศา

ในแนวรบทางเหนือ อัตราการโจมตีด้วยขีปนาวุธและจรวดไปยังเมืองไฮฟาและเมืองอื่นๆ ไม่เพียงแต่ไม่ลดลง แต่ยังเพิ่มขึ้นในบางวัน อีกทั้งการจัดแนวป้องกันในภาคใต้ของเลบานอนยังคงมั่นคง ทำให้เกิดคำถามขึ้นในดินแดนที่ถูกยึดครองว่า ทำไมการโจมตีครั้งล่าสุดของไซออนิสต์จึงไม่ส่งผลต่อการโจมตีของฮิซบุลเลาะฮ์เลย และผลลัพธ์ของมันคืออะไร

หลังจากการเสียชีวิตของซัยยิดฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ การต่อต้านไม่เพียงแต่ไม่หยุดชะงัก แต่ยังเพิ่มแรงกดดันต่อศัตรูมากขึ้นไปอีก ข้อมูลในปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าแผนการทำลายโครงสร้างพื้นฐานในแถบภาคใต้และการเคลื่อนไปยังแม่น้ำลีตานีด้วยกองทัพทหารได้กลายเป็นแผนที่ล้มเหลว

ในขณะเดียวกัน ฮิซบุลเลาะฮ์มีความคล่องตัวสูงในการปฏิบัติการในพื้นที่ยากลำบาก ด้วยการใช้ประโยชน์จากลักษณะภูมิศาสตร์เฉพาะของพื้นที่ และมีความยืดหยุ่นและความเร็วในการเคลื่อนย้ายกำลังพลผ่านเครือข่ายอุโมงค์และฐานปฏิบัติการ นอกจากนี้ ยังมีความสามารถในการจัดการด้านลอจิสติกส์และอุปกรณ์อย่างเพียงพอ แม้ศัตรูของฮิสบุลลอฮ์จะพยายามตัดเส้นทางระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ของแม่น้ำลีตานี ทำให้แผนของไซออนิสต์และสหรัฐต้องล้มเหลว ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่ในสถานการณ์ที่การลอบสังหารทางกายภาพถูกปิดกั้น ห้องปฏิบัติการลอบสังหารทางชื่อเสียงจะถูกเปิดแทน

https://cdn.mashreghnews.ir/d/2024/10/12/4/4261766.jpg?ts=1728709728000

ความล้มเหลวของโครงการ Disinformation ในกรุงเบรุตและเตหะราน

แม้ว่าการพยายามของไซออนิสต์ในการทำให้แนวรบทางตอนเหนือกลับสู่ภาวะปกติจะเพิ่มมากขึ้น แต่สถานการณ์ในภาคสนามสำหรับไซออนิสต์กลับยิ่งซับซ้อนมากขึ้น การแบ่งงานของหน่วยต่างๆ ในแนวป้องกันแนวหน้า รวมถึงการจัดการซ้อมรบทางบกเพื่อยับยั้ง ทำให้เกิดการเปิดฉากปฏิบัติการจิตวิทยาอีกครั้งที่มุ่งเป้าไปยังห้องบัญชาการ

ในขั้นตอนนี้ สื่ออเมริกัน-ฮีบรูได้ถอยหลังหนึ่งขั้น และมอบหน้าที่ให้กับสื่อที่เป็นตัวแทนในการเผยแพร่ ในการปฏิบัติการที่ผสมผสานนี้ สื่อ Sky News Arabic อ้างอิงจากแหล่งข่าวชาวอิหร่านว่า นายพลอิสมาอีล กออานี ผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์แห่งกองกำลังปฏิวัติอิสลาม ยังมีชีวิตอยู่และปลอดภัย แต่กำลังอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังและถูกสอบสวน

Sky News รายงานจากแหล่งข่าวเหล่านี้ว่า ผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์ไม่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของอิสราเอลในเลบานอน แต่เนื่องจากความผิดพลาดด้านความปลอดภัยที่ร้ายแรง เขาจึงถูกสอบสวน ข่าวนี้ถูกขยายโดยสื่อที่ใกล้ชิดกับ CIA และให้ความสำคัญกับปฏิบัติการจิตวิทยานี้มากขึ้น

เว็บไซต์ “Middle East Eye” ซึ่งมักเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับปฏิบัติการของฮิซบุลเลาะฮ์อย่างบิดเบือน รายงานว่า ผู้บัญชาการทหารบางคนเปิดเผยว่า ชาวอิหร่านสงสัยอย่างจริงจังว่าอิสราเอลอาจจะแทรกซึมเข้าไปในกองกำลังกุดส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้บัญชาการที่ปฏิบัติการในเลบานอน ดังนั้น ทุกคนจึงถูกสอบสวนในขณะนี้!

https://cdn.mashreghnews.ir/d/2024/10/12/4/4261767.jpg?ts=1728709728000

การตอบสนองของสื่อที่อยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐฯ และไซออนิสต์ต่อข้อความที่ขัดแย้งกันนั้นเป็นที่น่าสนใจและชี้ให้เห็นว่า เมื่อผลกระทบของการโจมตีทางอากาศในกรุงเบรุตลดลง การปฏิบัติการทางจิตวิทยาเพื่อทำให้ผู้คนในภูมิภาคเหนื่อยล้ากลับเพิ่มมากขึ้น

ไซออนิสต์และสหรัฐอเมริกามีเวลาเพียงหนึ่งเดือนในการเปลี่ยนแปลงยุทธวิธีการรบ ซึ่งสามสัปดาห์ได้ผ่านไปแล้วอย่างไร้ผล แน่นอนว่าในสัปดาห์ที่เหลือ พวกเขาจะไม่สามารถพลิกสถานการณ์และเปลี่ยนทิศทางให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองได้

ในช่วงเวลานี้ การโจมตีโดยตรงไปยังพื้นที่เช่น อักกา ตับริยา และไฮฟา โดยมีเป้าหมายเพื่อบังคับให้พื้นที่ถูกยึดครองถูกอพยพ ทำให้ศัตรูต้องพบกับความยากลำบากจนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้การปฏิบัติการทางสื่อที่กึ่งลับเพื่อทำลายชื่อเสียงของผู้บัญชาการในเตหะราน

ที่มา : mshrgh.ir/1651681