เมืองกุม อันศักสิทธิ์ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีความโดดเด่นในด้านวิชาการเเละด้านความเคร่งครัดของประชาชนในเรื่องศาสนา
เพราะเมื่องกุมเเห่งนี้ถูกเรียกว่าเมืองหลวงเเห่งชีอะหฺตลอดระยะเวลา13ศตวรรษจนถึงทุกวันนี้ บรรดานักปราชเเห่งเมืองกุมได้ใช้ชีวิตของเขาในหนทางเเห่งการเผยเเพร่วิชาการต่างๆของสายธารชีอะหฺ
เมืองกุมเเห่งนี้ถูกวางรากฐานในปีที่83 ฮจ ในยุคของท่านอิมามบาเก็ร(อ)เเละอิมามศอดิก(อ)โดยการเข้ามาของบรรดาสหายเเละผู็ที่มอบความรักยังอะหฺลุลบัยนบี กลุ่มอาหรับอัชอะรีคือกลุ่มเเรกที่เข้ามายังเมืองกุมพวกเขาได้สร้างที่พักอาศัยของเขายังเมืองนี้ในปีที่83(ฮจ)
อาหรับกลุ่มนี้เป็นพวกที่ได้อพยพจากเยเมนมายังมาดีนะฮในช่วงเเรกของการเเต่งตั้งของท่านศาสดาเเละพวกเขาก็ได้มีอิหม่านยังท่านนบีหัวหน้าของอาหรับกลุ่มนี่ถือได้ว่าเป็นผู็ก่อตั้งเมืองกุมให้เป็นศูนย์ของชีอะหฺจุดเด่นของเมืองกุมตั้งเเต่เเรกเริ่มประชาชนในเมืองนี้มีอิสระในการเผยเเพร่สุนทรพจเเละการจดบรรทึกฮาดิสของบรรดาอิมามโดยไม่มีการตะกียะฮไม่ว่าจะเป็นช่วงที่บรรดาอิมามถูกปิดกั้นก็ตาม เสียงอาซานที่เป็นการปฏิญานถึงวิลายัตเเห่งอิมามอาลีก้องดังทั่วหออาซานในเมืองนี้
สำนักคิดอิมามียะหฺในเมืองกุมถูกก่อตั้งโดยอาหรับอัชอะรีเเละวิชาการในเรื่องฟิก ก็มีการเรียนการสอนอย่างเปิดเผย ดวงไฟเเห่งการชี้นำก็ถูกจุดขึ้นเเละได้ส่องเเสงยังทุกสถานที่ ด้วยเหตุนี่ชาวกุมจึงเป็นที่บุคคลที
บรรดามะศูมให้ความสนใจเป็นพิเศษ
ซึ่งมีฮาดิษที่รายงานถึงความประเสริฐของเมืองกุมเเละชาวกุม
ท่านนบี(ศ) ได้กล่าวว่า:
ในขณะที่อัลลอฮ (ซ บ)พาฉันขึ้นยังฟากฟ้า(อิสเราะ มิฮรอจ)ญิบรออีลได้เเบกฉันด้วยบ่าขวาของเขา ได้ถึงยังสถานที่หนึ่ง(อัรดฺ ญาบัน)ฉันก็ได้มองยังสถานที่นั้น มีสีเเดงเข้มกว่า ซะฟารั่น เเละ มีกลิ่นหอมยิ่งกว่าชมดเชียง
ทันใดนั้นฉันก็ได้เห็น ณ ที่นั้นมีชายชราที่สวมเสื้อคลุมพร้อมหมวกคลุมศรีษะ ฉันถามญิบรออีลว่า สถานที่ดังกล่าวนั่นคือสถานที่ใด?
ญิบรออีลตอบว่า คือสถานที่สำหรับชีอะหฺของท่านเเละชีอะหฺของวะศีของท่านคืออาลี ฉันได้ถามต่อไปว่า ชายชรานั่นคือใคร?
เขาตอบว่า คือ อิบลิส
ฉันถามว่า อิบลิสต้องการอะไรจากพวกเขา ?
ตอบ อิบลิสต้องการจะขัดขวางพวกเขาจากความรักที่มอบให้กับอิมามอาลี เเละต้องการที่จะชักจูงพวกเขาให้สู่การทำบาปเเละการฝ่าฝืน ฉันได้บอกให้ญิบรออีลพาฉันไปยังสถานที่นั่น เขาก็ได้พาฉันไปด้วยความเร็วยิ่งกว่าฟ้าเเลบเเละเพียงกระพิบตา
ฉันได้กล่าวยังอิบลิสว่า(กุม)เเปลว่าจงลุกขึ้น โอ้ผู้ถูกสาปเเช่ง จงลุกขึ้น เเละ ไปซะ เเละจงไปมีส่วนร่วมกับทรัพสิน ภรรยาเเละลูกๆของศัตรูของชีอะฉันเเละอาลี เพราะเจ้าไม่สามารถที่จะมาปกครองชีอะของฉันเเละอาลีได้
ด้วยเหตุนี่สถานที่นั้น จึงถูกเรียกว่ากุม(บีฮารุลอันวัรเล่ม60หน้า207) (กุม ในภาษาอาหรับ เป็น กริยา คำสั่ง เเปลว่า จงลุกขึ้น จงยืน)
อีกฮาดิษจากท่านอิมามศอดิก(อ)กล่าว่า(เเท้จริง ที่ถูกเรียกว่า กุม เพราะชาวเมืองนี้จะรวมตัวกับอิมามมะหฺดี เเละจะลุกขึ้นต่อสู้กับฏอฆูต เคียงข้างท่านอิมาม เเละพร้อมที่ช่วยเหลืออิมามด้วยการยืนหยัดเเละมั่นคง)
(บีฮารุลอันวัร เล่ม60หน้า214)
อิมามมูซากาซิม(อ)กล่าวว่า (กุม คือที่พักอาศัยของอาลิมุหัมมัดเเละที่พักพิงของชีอะของอาลิมุฮัมมัด)
(บีฮารุลอันวัร เล่ม60หน้า216)
อิมามริฏอ(อ)กล่าวว่า(สวรรค์มีเเปดประตู หนึ่งจากเเปดประตูสำหรับชาวกุม เเละอิมามได้กล่าว ว่า
ช่างผาสุกอย่างยิ่งสำหรับพวกเขา อิมามได้กล่าวถึงสามครั้ง
(บีฮารุลอันวัร เล่ม 60หน้า215)
อิมามศอดิกในขณะที่ท่านได้ชี้ไปยัง อีซาบินอับดุลเลาะ กุมมี ท่านอิมามได้กล่าวว่า(สลามของอัลลอฮมียังชาวกุม อัลลอฮทรงโปรยฝนเเห่งเมตตายังเมืองของพวกเขา เเละทรงมอบบารากัตต่างๆเเก่พวกเขาเเละทรงเปลี่ยนบาปของพวกเขาเป็นความดี พวกเขาคือบรรดาผู้ที่ดำรงการรุกุฮ ซุญูด กิยาม เเละ นั่ง พวกเขาคือ ฟากิฮเเละนักวิชาการพวกเขาคือผู้ที่เข้าใจถึงฮะกีกัตเเละริวายัตเเละประกอบอิบาดัตที่ดี
(บีฮารุลอันวัร เล่ม 60หน้า217)
อาบูซอล(สหายผู้ใกล้ชิดอิมามริฏอ)กล่าวว่าฉันอยู่กับอิมามริฏอในขณะนั้น กลุ่มหนึ่งจากชาวกุมก็ได้เข้ามา เเละให้สลามท่านอิมาม อิมามก็ได้รับสลามพวกเขาเเละอิมามก็ได้เชิญพวกเขาให้เข้ามานั่งใกล้ท่าน เเละอิมามได้กล่าวว่า ยินดีต้อนรับ พวกท่านคือชีอะที่เเท้จริงของเรา)
บีฮารุลอันวัรเล่ม60หน้า231
อิมามศอดิก(อ) กล่าวว่า (อีกไม่นานกูฟะจะว่างเว้นจากบรรดามุมินเเละความรู้ก็จะถูกม้วนหรือถูกรวบรวมเหมือนงูที่มันม้วนตัวของมันในรังหลังจากนั้นความรู้ก็จะไปปรากฏยังเมืองที่มีชื่อว่า กุม เเละ ณ ที่นั่นก็จะเป็นศูนย์กลางเเห่งความรู้เเละฟาฏีลัต)
บีฮารุลอันวัรเล่ม60หน้า213
ศอฮาบะฮคนหนึ่งได้รายงานว่า ฉันนั่งอยู่กับท่านอิมามศอดิก(อ)อิมามได้อ่านอายะฮที่5ซุเราะอิศเราะفإذاجاءوعداولاهما………เเปลว่า ดั้งนั้น เมื่อสัญญานหนึ่งในสองครั้งได้มาถึง เราได้ส่งบรรดาบ่าวของเราผู้ที่มีความเข้มเเข็งเข้าครอบครองพวกเจ้า(บนีอิสรออีล)เเละพวกเขาได้ค้นตามบ้านเรือนเเละมันเป็นสัญญาที่ได้เกิดขึ้นเเล็ว พวกเราก็ได้ถามอิมามว่า บ่าวผู้ที่มีความเข้มเเข็งคือใคร?อิมามได้ตอบสามครั้ง ว่า ขอสาบานพวกเขาคือชาวกุม
(บีฮารุลอันวัรเล่ม60หน้า216)
อิมามมูซากาซิม(อ)กล่าวว่า(บุรุษหนึ่งจากกุมเขาจะทำการเชิญชวนผู้คนสู่สัจธรรม กลุ่มหนึ่งที่เสมือนเหล็กกล้าจะร่วมกับเขาลมพายุเเห่งเหตุการณ์ต่างๆไม่ทำให้พวกเขาอ่อนเเอได้ พวกเขาไม่เหนื่อยจากการทำสงครามเเละไม่มีความหวาดกลัวใดๆพวกเขาได้มอบความไว้วางใจยังอัลลอฮเเละเเน่นอนบั้นปลายที่ดีนั้นมีเเด่บรรดาผู้มีตักวา)
อิมามศอดิก(อ)กล่าวว่า(เเท้จริงฮารัมของอัลลอฮคือ มักกะฮ ฮารัมท่านนบีคือมาดีนะ ฮารัมอิมามอาลี คือกูฟะ เเละของเราคือเมืองกุม เเละในอีกไม่ช้า สตรีผู้หนึ่งจากลูกหลานเรามีนามว่า(ฟาตีมะฮ)ร่างของนางจะถูกฝังที่นั่น ใครก็ตามที่ซิยารัตนาง สวรรค์เป็นวาญิบสำหรับเขา นักรายงานได้กล่าวว่า ฮาดิสนี้ของอิมามศอดิกท่านได้กล่าวก่อนการกำเนิดของท่านอิมามมูซากาซิมซึ่งเป็นบิดาของท่านหญิงมะศูมมะฮ
(บีฮารุลอันวัรเล่ม60หน้า216)
นอกจากริวายัตที่กล่าวไปข้างต้นเเล้ว บรรดาอิมามมะฮศุมก็ถือได้ว่ามอบความสนใจที่พิเศษเเก่ชาวกุมมีรายงานว่า
อิมามบางท่านได้มอบฮะดิยะห์เเก่พวกเขาไม่ว่าเป็นผ้ากะฝั่น หรือเเหวน ตัวอย่างบุคคลที่สำคัญของเมืองกุมที่อิมามได้มีคำกล่าวเกี่ยวกับพวกเขา
อิมามริฏอ(อ)ได้กล่าวกับซะกะรียาบินอาดัม สาวกท่านหนึ่งของท่านอิมามริฎอ(อ) ซักการียาตั้งใจที่จะออกจากเมืองกุมอิมามกล่าวกับเขาว่า จงอย่าออกจากเมืองกุม เเท้จริงอัลลอฮทรงขจัดบาลอต่างๆให้พ้นจากชาวกุมก็ด้วยการมีอยุ่ของเจ้าเหมือนกับการขจัดบาลอออกจากชาวเเบกเเดดด้วยการอยู่ของอิมามมูซากาซิม(อ)
อิมามศอดิกได้กล่าวกับ อิมรอนบินอับดุลเลาะกุมมีว่า ขอจากอัลลอฮ ทรงประทานร่มเงาเเห่งความเมตตาของพระองค์ยังเจ้าเเละครอบครัวในวันกียามัต
เรียบเรียงโดย
สมาคมนักเรียนไทยในอิหร่าน http://goo.gl/iLGVDt