โอบามาลงนามเซ็นสัญญาช่วยเหลือผ่านทางทหารสหรัฐแก่อิสราเอลกว่าหนึ่งพันแปดร้อยล้านดอลลาห์สหรัฐ และเช่นเดียวกันวอชิงตันได้ส่งยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในสงครามไปแก่ผู้รุกรานกว่าสองร้อยล้านดอลล่าสหรัฐ
ตามรายงานของสำนักข่าว เมะฮ์ The Jerusalem Post เขียนถึงรายละเอียดของการช่วยเหลือครั้งนี้ว่า การปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซ่าที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมานั้นได้รับการเห็นชอบจากสหรัฐ โดยมีการใช้เครื่องมือทางทหารของบริษัทสหรัฐที่ตั้งอยู่ในอิสราเอลในการโจมตี
และการร่วมมือกันในการช่วยเหลือระหว่างสหรัฐและอิสราเอลถือเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งที่เป็นเชื้อเพลิงในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่กองทัพอากาศของอิสราเอล
ยิ่งไปกว่านั้นได้มีการกล่าวกันว่า การเสริมเขี้ยวเล็บให้กองกำลังทางอากาศเพื่อรองรับความเป็นไปได้ถึงการบุกรุกทางทหารในเว็ปไซต์ต่างๆเกี่ยวกับนิวเคลียร์ของอิหร่านถือเป็นสิ่งสำคัญ
การช่วยเหลือครั้งล่าสุด มีทั้งเครื่องบินรบที่ทันสมัย v-22 ที่ถูกส่งไปยังอิสราเอลและเช่นเดียวกันยังมีการสร้างความร่วมมือที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างสหรัฐกับอิสราเอล
ตามรายงานที่ The Jerusalem Post ได้เขียนไว้นั้น มีการร่วมมือทางด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือทางด้านพลังงานโดยเฉพาะพลังงานจากก๊าซธรรมชาติ เกี่ยวกับการสำรองน้ำเพื่อเกษตรกรและการพัฒนาทางเทคโนโลยีต่างๆ
บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐได้ออกมาเน้นถึงกลยุทธ์ที่สำคัญในการร่วมมือระหว่างประเทศของตนกับอิสราเอลด้วยการเซ็นสัญญางบประมาณในการช่วยเหลือ ซึ่งการเซ็นสัญญาครั้งนี้เป็นการตอกย้ำและแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่สหรัฐมีต่ออิสราเอล ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ในมิตรภาพและความร่วมมือกันระหว่างทั้งสองประเทศ
การช่วยเหลืออิสราเอลครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการอธิบายของสหรัฐ ว่าทั้งสองประเทศมีหุ้นส่วนในผลได้ผลเสียจากยุทธศาสตร์ที่มีร่วมกัน ยิ่งไปกว่านั้นการช่วยเหลือครั้งนี้ยังได้รับการอนุมัติผ่านสภาคองเกรส
ซึ่งจนถึงปัจจุบันไม่มีประเทศใดที่ถูกยอมรับว่าเป็นประเทศที่อยู่ในฐานะหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์กับสหรัฐแม้ประเทศเดียว
บารัค โอบามา ยังได้กล่าวขณะลงนามเซ็นสัญญาครั้งนี้อีกว่า ไม่เคยมีรัฐบาลใดของสหรัฐก่อนหน้านี้ทำได้เหมือนรัฐบาลของผมที่มีนโยบายสร้างความร่วมมือมากขึ้นกับอิสราเอล ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและแน่นแฟ้นขนาดนี้
ผู้นำไซออนิสต์ได้ชี้ไว้เมื่อหลายปีที่ผ่านมาว่า ในสมัยการเป็นประธานาธิบดีของบารัค โอบามา นั้นรัฐบาลสหรัฐมีความพร้อมในการร่วมมือกับรัฐบาลอิสราเอล ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือทางด้านทหาร หน่วยข่าวกรองและหน่วยสืบราชการลับ มากกว่ารัฐบาลอื่นๆที่ผ่านมา ในขณะที่รัฐบาลของบารัค โอบามา และ คณะรัฐมนตรีของเขามีความขัดแย้งอย่างจริงจังในหลายๆประเด็นกับรัฐบาลเบนจามิน เนทันยาฮู และความแตกต่างเหล่านี้บางครั้งก็ได้รับการแก้ไข
ในขณะที่สหรัฐให้ความร่วมมือในด้านต่างๆกับอิสราเอล คณะรัฐมนตรีของอิสราเอลก็ได้ออกมาเรียกร้องในหัวข้อเก่าคือให้สหรัฐลบการใช้วีซ่าออกแก่ชาวอิสราเอลที่ต้องการเดินทางเข้าสู่ประเทศสหรัฐ
ตามรายงานของ The Jerusalem Post สังเกตเห็นได้ว่า คำเรียกร้องของอิสราเอลในเรื่องนี้ยังไม่ได้รับการตอบสนองแม้เวลาจะผ่านมานานแล้ว
The Jerusalem Post ยังเขียนอีกว่า สหรัฐออกมากล่าวว่า ก่อนที่จะอนุญาติให้อิสราเอลเป็นประเทศหนึ่งในเหล่าประเทศที่ไม่จำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าในการเข้าประเทศสหรัฐ อิสราเอลจะต้องกำหนดเขตแดนประเทศของตนให้ชัดเจนเสียก่อน
สหรัฐชี้ถึงความจำเป็นจะต้องแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเขตแดนระหว่างประเทศอิสราเอลและปาเลสไตน์ ในขณะที่ขบวนการสันติภาพได้มีความพยายามแก้ไขปัญหานี้มานานจนในที่สุดก็ต้องจมอยู่ในอาการโคม่า
การเซ็นสัญญาฉบับนี้ได้มีการพยายามร่างขึ้นมานานกว่าปีก่อนที่จะมีการลงนามโดยประธานาธิบดี ซึ่งได้เซ็นสัญญานี้ก่อนจะถึงวันหยุดยาวในช่วงปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง
