2 ทัศนะเกี่ยวกับที่มาและการกำเนิดของขบวนการก่อการร้ายไอซิส (ISIS) คือ
1 ส่วนหนึ่งเชื่อว่า ขบวนการนี้ถูกสร้างขึ้นมาเหมือนกับขบวนการอัลกออิดะห์ ซึ่งเป็นผลผลิตหนึ่งของหน่วยงานข่าวกรองต่างๆของตะวันตก โดยเฉพาะซีไอเอ มอสสาด และ MI6 โดยอาศัยกลุ่มขบวนการนี้ปฏิบัติการเกี่ยวกับปัญหาทางการเมืองและความมั่นคง
2 อีกส่วนหนึ่งเชื่อว่า ขบวนการไอซิส โผล่ขึ้นมาเหมือนกับขบวนการตาลิบันซึ่งเกิดจากความเป็นจริงที่มีอยู่ในโลกอิสลามที่เรียกว่า “อิสลามหัวรุนแรงหรืออิสลามอนุรักษ์นิยม” ซึ่งเป็นผลผลิตที่ถือกำเนิดมาจากมุมมองปัญหาทางด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์เป็นที่ตั้ง
ทั้งสองกลุ่มได้แสดงหลักฐานต่างๆ เพื่อยืนยันและสนับสนุนข้ออ้างอิงของตนเอง
มุมมองที่หนึ่งได้ใช้บางส่วนของเอกสารและคำสารภาพของเหล่าเจ้าหน้าที่ตะวันตกโดยเฉพาะจากหน่วยงานข่าวกรองและความมั่นคงของตะวันตกเกี่ยวกับการสร้างขบวนการไอซิส เพื่อใช้ในสงครามซีเรียเป็นการเฉพาะ และถือว่าการให้การสนับสนุนทางการเงินและการขนส่งแม้กระทั่งการโฆษณาของตะวันตกเกี่ยวกับไอซิส ในสงครามสามปีในซีเรีย เป็นหลักฐานที่สำคัญสำหรับกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่ทว่ามันเป็นมุมมองหนึ่งหรือเป็นเพียงแค่ สมมุติฐานหนึ่งเท่านั้น
ไอซิสได้เพลิดเพลินกับทรัพยากรทางการเงินมหาศาลพร้อมกับจำนวนทหารที่มีมากกว่าหกหมื่นชีวิตที่อยู่ในกำมือ บวกกับค่าจ้างเงินเดือนที่ถูกแจกจ่ายให้กับทุกคนๆประมาณ 2-8 พันดอลลาร์สหรัฐ และเช่นเดียวกันสิ่งที่บ่งบอกความเป็นจริงอีกอย่างหนึ่งคือ ISIL มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยและมีรถคันใหม่ที่มียี่ห้อที่หลากหลายถูกเตรียมพร้อมให้กับพวกเขา ซึ่งเป็นการบ่งชี้ให้เห็นว่า ไอซิสมีความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆมหาอำนาจและโดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจที่มีความร่ำรวยอย่างแน่นอน
มุมมองที่สอง เชื่อว่า เหตุผลหลักสำหรับความสำเร็จต่างๆ ของขบวนการก่อการร้ายไอซิส ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะในอิรัก เกิดจากความเชื่อ และพลังศรัทธา โดยเฉพาะความเชื่อที่ลึกซึ้ง อุดมการณ์ตักฟีรีของผู้ร่วมขบวนการ และผู้นำที่เข้มแข็งของขบวนการนี้ โดยที่นักรบของขบวนการไม่กลัวความตายและเสียสละเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย โดยไม่มีความลังเลใดๆในการปฏิบัติต่างๆ
แต่ดูเหมือนว่าความขัดแย้งของทั้งสองมุมมองที่ได้ยกหลักฐานต่างๆอย่างต่อเนื่องนั้น จะไม่มีที่สิ้นสุดลง แต่ทว่าจำเป็นที่จะต้องตระหนักถึงรากฐานของการก่อตั้งขบวนการกลุ่มก่อการร้ายไอซิส ว่า มีความสำคัญสักขนาดไหน ? แต่กระนั้นก็ตามยังไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับไอซิส แม้ว่าการให้ความสนใจไปยังประเด็นนี้ค่อนข้างสามารถทำให้เข้าใจผิดได้ด้วยเช่นกัน
สิ่งหนึ่งที่สื่อต่างๆ มุ่งมั่นที่จะโจมตีและวิเคราะห์ คือการเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนจากสิ่งที่สำคัญมากกว่าไปยังสิ่งที่สำคัญน้อยกว่า สังเกตได้ว่า ประเด็นที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับไอซิส ซึ่งเป็นสิ่งที่คนส่วนน้อยจะสังเกตเห็น คือ การกำเนิดขึ้นของไอซิส ในฐานะตัวละครตัวหนึ่งในเวทีการเมืองอิสลาม ซึ่งประกอบจาก 2 กระแสหลักสำคัญดังนี้
1 ขบวนการสร้างความขัดแย้งตักฟีรีและวะฮาบี
2 เงินทุนสะพัดจากตะวันตก
ซึ่งมันเปรียบเสมือนใบมีดสองด้านของกรรไกรที่พยายามทำลายความคิดทางการเมืองของศาสนาอิสลาม และนี้คือสิ่งที่สำคัญในการก่อตัวขึ้นและเป็นการใช้ประโยชน์จากขบวนการกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ ซึ่งไอซิส ก็อยู่ในแนวทางนี้เช่นกัน และเหตุผลทั้งสองก็ถูกรวมไว้ในขบวนการนี้
มีการกล่าวขานกันว่า วะฮาบีและซาลาฟี มีความล้าหลังเนื่องจากว่า ความคิดของพวกเขาไม่ได้มีการปรับใช้ให้เข้ากับการพัฒนาต่างๆ ของโลกสมัยใหม่ อีกทั้งยังมีความขัดแย้งกับความทันสมัยต่างๆ และด้วยความคิดอนุรักษ์นิยมจึงทำให้เกิดความเสียหายต่างๆ โดยรากลึกแล้วพวกเขาเชื่อว่า เพื่อให้บรรลุถึงความผาสุกต่างๆของการใช้ชีวิตในโลกนี้ ควรที่จะออกห่างจากสิ่งสกปรกต่างๆ สิ่งเบี่ยงเบนต่างๆ และนวัตกรรมใหม่ๆ และนวัตกรรมใหม่ที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาคือ การเมืองและอำนาจ พวกเขามีความเกลียดชังและอาฆาตกับเครื่องมือต่างๆ ของโลกสมัยใหม่ และการหันไปใช้เทคโนโลยี เช่น โทรศัพท์ เครื่องบิน และอาวุธ เพื่อเป้าหมายที่ดีกว่า เช่น เหตุการณ์ 11 กันยาก็เกิดจากความคิดที่ว่าส่วนหนึ่งของอิสลามนั้นคือการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับทัศนะคติในการมองโลกและอุดมการณ์ของซาลาฟี
ส่วนการเผชิญหน้าระหว่างวะฮาบีแห่งซาอุดิอาระเบียกับการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน เมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมา มีรากฐานมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์เช่นนี้ และความขัดแย้งเกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน แม้เวลาจะล่วงเลยไปแต่ความขัดแย้งนี้ไม่มีความจืดจางลงเลย การเมืองอิสลามที่สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านได้แสดงไว้ในเวทีโลก อีกทั้งยังอภิปรายที่ครอบคลุมถึงการดำเนินชีวิตทั้งในภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ
เอกลักษณ์และวิถีการดำเนินชีวิตที่ออกมาจากการเมืองอิสลามเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับระบบทุนนิยมเสรีของตะวันตกอย่างสิ้นเชิง และความแตกต่างนี้มีรากฐานสำคัญอยู่ ถ้าหากเรามองไปยังประวัติศาสตร์ของอารยะธรรมตะวันตกโดยเฉพาะในยุคกลาง เมื่ออิสลามได้ดีกว่าตะวันตก ทำให้ตะวันตกกลัวเป็นอย่างมาก ต่อการพัฒนาและความก้าวหน้าของอารยะธรรมอิสลาม แม้พวกเขาจะพยายามปิดบังความกลัวนี้ก็ตาม
ลึกๆ แล้วชาวตะวันตกยอมรับว่า พวกเขาไม่กังวลสิ่งใดในอิสลามมากไปกว่า ทัศนคติและกระแสทางความคิดในอิสลามที่เกิดจากความเข้าใจในการเมืองอิสลาม ที่เป็นเหตุทำให้อารยะธรรมอิสลามมีความก้าวหน้า นอกจากความคิดเช่นนี้แล้วไม่มีความคิดใดๆที่ถือเป็นภัยคุกคามต่ออารยะธรรมตะวันตก ด้วยเหตุนี้วอชิงตันและลอนดอนจึงมีความสัมพันธ์ที่เป็นปึกแผ่นกับรัฐบาลอนุรักษ์นิยมเฉกเช่น ซาอุดิอาระเบีย และมีความขัดแย้งกับประเทศที่เป็นประชาธิปไตยที่สุดในตะวันออกกลาง อย่างเช่น อิหร่าน และด้วยเหตุนี้กลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการที่จะค้ำจุนอำนาจของพวกเขา และการรักษาอารยะธรรมตะวันตกและเจ้าของของมัน คือ สหรัฐและอังกฤษ คือ การทำลาย บิดเบือน และสร้างความอ่อนแอให้กับการเมืองของศาสนาอิสลาม และกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการบิดเบือนภาพพจน์ของศาสนาอิสลาม คือ การสร้างตัวละครหนึ่งขึ้นมาเฉกเช่นขบวนการก่อการร้าย ISIL
บทเรียนจากเรื่องนี้คือ ถ้าหากการเมืองอิสลามที่แท้จริงมีอำนาจขึ้นเมื่อใด การผลิตกลุ่มขบวนการหัวรุนแรงและกลุ่มคลั่งไคล้ก็จะไม่มีวันเกิดขึ้น เป้าหมายหลักของตะวันตก คือ การแสดงประวัติศาสตร์การปฏิวัติอิสลามในด้านเดียวโดยมีการพยายามที่จะบิดเบือนในรูปแบบต่างๆ เช่น การเผยแพร่ภาพและวีดิโอที่สื่อถึงความรุนแรงของการปฏิวัติอิสลาม
และเป็นสิ่งที่แปลกเป็นอย่างมาก หุ่นไล่กาที่ตะวันตกได้สร้างขึ้นมาเป็นขบวนการที่มีความคิดหัวรุนแรงมาแต่เดิมในประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือทางการเมืองที่มีผลต่อการกำหนดนโยบายต่างๆทางการเมืองของตะวันตก ซึ่งในหน้าประวัติศาสตร์มีแค่ครั้งนี้เท่านั้นที่ตะวันตกได้ใช้ขบวนการหัวรุนแรงเป็นเครื่องมือและในที่สุดขบวนการนี้กลับทำลายผลประโยชน์ของตะวันตก ซึ่งแตกต่างกันกับมีดที่เชือดเฉือนลงมือตัวเอง เช่นตัวอย่างของ ISIL ในสมัยที่พวกเขาก่อการร้ายเหนือรัฐบาลดามัสกัสในซีเรีย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐที่เป็นผู้ริเริ่มและยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับISIL ในการต่อต้าน บัชชาร์ อะซัด แต่เมื่อพบว่า ISIL อ้างจะพิชิตอิรัก และได้ฆ่านักข่าวสหรัฐในอิรัก สหรัฐจึงตาสว่างในสิ่งที่พวกเขากังวลที่สุด
เช่นเดียวกับอัลกออิดะห์ ในสมัยที่ยังอยู่ในกรอบของการต่อสู้กับสหภาพโซเวียต ก็ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก แต่หลังจากที่พวกเขาหันดาบมาไล่ฟาดฟันเหล่าชาติตะวันตก ก็ต้องกลายเป็นขบวนการก่อการร้ายสำหรับพวกเขาในทันที ทั้งที่พวกเขาสร้างมันขึ้นมาเอง
แต่ทว่าเราจะต้องไม่หลงกลกับการเปลี่ยนกลยุทธ์ต่างๆในครั้งนี้ เนื่องจากว่ากลยุทธ์ของตะวันตกที่ใช้ในการต่อต้านการเมืองอิสลามยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ และมันยังคงอยู่เช่นเดิม การบ่อนทำลายการเมืองอิสลามที่มีประสิทธิภาพที่ยืดหยุ่นและสามารถตอบสนองความต้องการและความจำเป็นต่างๆในการดำเนินชีวิต คือ ให้การสนับสนุนขบวนการต่างๆที่มีความคิดสุดโต่งและหัวรุนแรง ซึ่งเป็นขบวนการที่เหล่านักคิด ปัญญาชนมุสลิมและนักวิชาการไม่ควรละเลย และในเร็วๆนี้ขบวนการก่อการร้ายISILอาจถูกทำลาย แต่ไม่กี่ปีต่อมาในอนาคตเราจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับกลุ่มขบวนการหัวรุนแรงอื่น เฉกเช่น อัลกออิดะห์ ตาลิบันและISIL อย่างแน่นอน
………
อ้างอิง http://www.presstv.ir/DetailFa/2015/01/01/391067/Isilwestislam