สถาบันวิจัย Stratfor ชี้ วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ของการโจมตีในกรุงปารีสเพื่อกำหนดเป้าหมายและปราบปรามพี่น้องประชาชนชาวมุสลิมในประเทศยุโรป
สถาบันการวิจัย Stratfor อเมริกา เผยว่า เป้าหมายสุดท้ายของการบุกยิงสำนักงานนิตยสาร “Charlie Hebdo” กรุงปารีส เพื่อให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างรัฐบาลยุโรปกับพลเมืองมุสลิมในประเทศยุโรป
สถาบันการวิจัย Stratfor อเมริกา ได้รายงาน โดยมีการวิเคราะห์เหตุการณ์ดังกล่าว ด้วยแรงจูงใจและความตั้งใจเชิงกลยุทธ์ในการโจมตีสำนักงานนิตยสารฝรั่งเศส “ชาร์ลี Hebdo” ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 12 คน
ในรายงาน ระบุว่า การโจมตีมีศักยภาพพอที่จะเปลี่ยนแปลงทิศทางความสัมพันธ์ของประเทศในยุโรปกับประชาชนชาวมุสลิม
“เป้าหมายและวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่ผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตี คือ สร้างวิกฤตในความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง คือ (ประเทศในยุโรปกับชาวมุสลิมในยุโรป) ถ้าการโจมตีเหล่านี้ เป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายตักฟีรีย์ หรือสถาบันและกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรงตักฟีรีย์ระหว่างประเทศจริง การโจมตีดังกล่าวจะทำให้เกิดความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างตะวันตกและศาสนาอิสลามอย่างแน่นอน ” สถาบันการวิจัย Stratfor รายงาน
วัตถุประสงค์และเป้าหมายหลักของกลุ่มตักฟีรีย์ คือ ผลักดันให้ประเทศยุโรปและตะวันตกมีการปราบปรามพี่น้องมุสลิมให้รุนแรงมากขึ้น และเป็นการปูทางในการจุดชนวนสงครามต่อศาสนาอิสลามโดยตะวันตก
ตังบ่งชี้ในการนำเสนอข้อเท็จจริงดังกล่าว เป็นที่ชัดเจนมากขึ้น เพราะหลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่นาน เกิดการโจมตีพี่น้องมุสลิมในฝรั่งเศสมากกว่า 50 ครั้ง
“รัสเซียทูเดย์” (Russia Today) รายงานว่า เพียงเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังจากการโจมตีสำนักงานนิตยสารรายสัปดาห์ “ชาร์ลี เฮบโด” ได้เกิดเหตุการณ์โจมตีต่อต้านชาวมุสลิมเกิดขึ้นทั่วประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถูกบันทึกไว้มากกว่า 50 เหตุการณ์ รวมทั้งการยิงปืนเข้าใส่ชาวมุสลิม
“อับดุลลอฮ์ ซากิรีย์” ประธานกลุ่มต่อต้านการสร้างความเกียดกลัวต่ออิสลามในฝรั่งเศส (Collectif Contre l’Islamophobie en France) หรือ “CCIF” เผยว่า จากจำนวนการโจมตีเหล่านี้ 33 กรณี เป็นการยิงปืนและปาระเบิดมือเข้าใส่อาคารต่างๆ ของชาวมุสลิมและอีก 33 กรณี เป็นการข่มขู่และการดูถูกเหยียดหยามชาวมุสลิม เขาเรียกร้องให้มีการเพิ่มการเฝ้าระวังและการรักษาความปลอดภัยสถานที่ต่างๆ ทางศาสนาของชาวมุสลิม และการควบคุมดูแล
เว็บไซต์เครือข่ายทางสังคมเพิ่มมากขึ้น เผยว่า จวบจนถึงขณะนี้จำนวนและระดับการโจมตีที่เกิดกับชาวมุสลิมในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้ ไม่เคยมีมาก่อน
นอกจากนั้นมีชาวฝรั่งเศสจำนวนมากที่ยึดถือแนวทางของอิสลามเป็นอันดับแรก มากกว่าจะคล้อยตามอุดมการณ์เสรีนิยมของยุโรป ซึ่งหากพวกเขายังพบกับการดูหมิ่นล้อเลียนต่อไป ก็อาจเป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้งครั้งใหม่ขึ้นได้
อนึ่งฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในประเทศที่ให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในซีเรีย และหลายครั้งหลายคราที่ได้กล่าวย้ำการสนับสนุนและการให้กำลังใจต่อกลุ่มคนเหล่านี้ และอย่างน้อยที่สุดชาวฝรั่งเศส 50 คน ได้เป็นสมาชิกของกลุ่มก่อการร้ายที่ถูกสังหารในการปะทะกันในประเทศซีเรีย
—
ที่มา http://islamic-awakening.ir/?a=content.id&id=85883