ศาสตราจารย์ที่ถูกไล่ออกจากงาน เนื่องมาจากการทวีตต่อต้านรัฐอิสราเอลของเขา ขณะนี้กำลังดำเนินการฟ้องร้องต่อหลายๆสำนักงานในมหาลัยอิลลินอยต์ โดยเขาได้อ้างว่า การเลิกจ้างอันนี้เป็นไปด้วยความไม่ชอบธรรม มีการละเมิดเสรีภาพในการพูด และได้รับอิทธิมาจาก”ผู้สนับสนุนของทางมหาวิทยาลัย”
ศาสตราจารย์ สตีเฟน ซาลัยตา (Steven Salaita) ถอนตัวออกจากมหาวิทยาลัย Virginia Tech หลังจากได้รับข้อเสนอให้เข้าสอนในมหาวิทยาลัย อิลลินอยต์ แห่ง Urbana-Champaign (UIUC) อย่างไรก็ตาม เพียง 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะเริ่มการเรียนการสอนของปีการศึกษา 2014 ซาลัยตา ได้รับแจ้งว่า ทางมหาวิทยาลัยได้ยกเลิกข้อเสนอตำแหน่งงานดังกล่าวให้แก่เขา อันเนื่องมาจาก โพสต์ทวีตเตอร์ ที่ ‘ไร้ความเป็นศิวิไลซ์’ ของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อช่วงสงครามฤดูร้อนในกาซ่า ปาเลสไตน์
ทางมหาลัยวิทยาลัยได้ทำการอ้างอิงถึง บางข้อความที่เขาได้โพสต์ไว้ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เพื่อประกอบการตัดสินความในครั้งนี้
“คุณอาจจะเรียบร้อยเกินไปที่จะพูดมันออกมา แต่ผมไม่เป็นเช่นนั้น ผมขอให้ พวก *คำหยาบ* ที่มาตั้งถิ่นฐานในเขต เวสแบงค์ หายหัวไปซะ,” _หนึ่งในโพสต์ทวีตของ ซาลัยตา อีกอันคือ “หากคุณกำลังปกป้อง #อิสราเอล อยู่ ณ ตอนนี้ (ผมขอบอกไว้เลยว่า) คุณน่ะ คือ สวะมนุษย์”
“ข้อความเหล่านี้ และอื่นๆที่คล้ายคลึงกัน แสดงให้เห็นว่า ดร. ซาลัยตา ขาดกระบวนความตัดสิน ไร้การยับยั้งอารมณ์ และความคิดใคร่ครวญ ในฐานะที่จะมาเป็นสมาชิกหนึ่งของคณะเรา ไม่ว่าจะในด้านใดๆก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการเข้ามาสอนในหลักสูตรที่เกี่ยวโยงกับ ตะวันออกกลาง,”_ แถลงการณ์มหาวิทยาลัย
ในคำร้อง/ฎีกาของรัฐบาลกลาง ยื่นต่อศาลชั้นต้น (ที่เรียกว่า US District Court) ในชิคาโก เมื่อวัน พฤหัสบดี ซาลัยตา กล่าวแย้งว่า ทางมหาวิทยาลัยได้ละเมิดสิทธิอันชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ ต่อเสรีภาพในการพูดของเขา ทั้งยัง “เหยียบย่ำหลักการ ในกรณีของเสรีภาพทางวิชาการ”
“การถูกไล่ออกจากงาน ได้ทิ้งอาชีพทางวิชาการของผม (อาชีพซึ่งเป็นดั่ง) กลไกหลักที่ผมใช้ในการประคับประคองครอบครัวของผม ไว้ในโรงฆ่าสัตว์,” ซาลัยตากล่าว ในงานแถลงข่าว “เมื่อปราศจากแหล่งรายได้นี้ ภรรยา และลูกชายตัวน้อยของผม รวมถึงตัวผมเอง จำต้องย้ายไปอยู่กับพ่อแม่ของผม ทั้งตอนนี้ ต้องมากระเสือกกระสน พยายามที่จะยุติเรื่องนี้ลงให้จนได้”
กระนั้น ศูนย์เพื่อสิทธิอันชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ แห่งนิวยอร์ก (New York-based Center for Constitutional rights) ก็ได้ให้การสนับสนุนซาลัยตาต่อกรณีดังกล่าว
“การตอบโต้ของทางมหาวิทยาลัย (UIUC) โดยการปลดศาสตราจารย์ที่มีสิทธิทางวิชาการ ในแง่ของการตอบกลับไปยัง มุมมองที่ตัวศาสตราจารย์ได้แสดงออกมา ต่อเรื่องที่ถือเป็นความกังวลของสาธารณะ เป็นสัญลักษณ์แสดงให้เห็นถึง การละเมิดอย่างจริงจังต่อ สิทธิอันชอบธรรมทางรัฐธรรมนูญด้านเสรีภาพในการพูด,” _ศูนย์เพื่อสิทธิอันชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญกล่าว “,ตามประวัติศาสตร์แล้ว นานามหาวิทยาลัยต่างอนุญาตให้มีการโต้วาทีกันในกรณีของการเมืองที่เข้มงวด ที่ซึ่งความไม่ลงรอย ไม่เห็นชอบด้วยประการใดๆ ไม่เพียงแต่จะเป็นสิ่งที่ถูกต้อนรับ แต่คือสิ่งที่อยู่ในหัวใจของสังคมวิทยาลัย ที่ส่งเสริมไอเดียใหม่ๆ”
ทนายความของ ซาลัยตาอ้างว่า คณะกรรมาธิการของทางมหาวิทยา กลุ่มผู้ที่ไม่อนุมัติให้ซาลัยตาเข้ารับตำแหน่งงานนั้น ได้รับอิทธิพลมาจากผู้สนับสนุน (ผู้บริจาค) ของทางมหาวิทยาลัย ขณะที่ทางมหาวิทยาลัย UIUC กล่าวปฏิเสธ และจะขอสู้คดีฟ้องร้องในครั้งนี้
“ในฐานะปัจเจกพลเมือง ดร. ซาลัยตา ถือครองสิทธิอันชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ ในการแสดงความคิดเห็น สาธารณะใดๆ ที่เขาเลือก,” คำแถลงการณ์ของมหาวิยาลัย เมื่อวันพฤหัสบดี ระบุ “อย่างไรก็ตาม ดร. ซาลัยตา ไม่ได้ถือครองสิทธิอันชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญอันใด ต่อตำแหน่งงานในคณะ ของทางมหาวิทยาลัยอิลลินอยต์”
ทางมหาวิทยาลัย UIUC ยังกล่าวอีกด้วยว่า ซาลัยตา ได้ปฏิเสธที่จะ “เจรจาต่อรอง เพื่อจัดการความเสียหายและค่าใช้จ่ายใดๆที่สมเหตุสมผลของเขา”
ซาลัยตายังมีผู้สนับสนุนอื่นๆอีก อาทิ เช่น นิสิต นักศึกษาที่ได้ออกมาเดินประท้วงต่อต้านการตัดสินของทาง
มหาวิทยาลัย และ บัญชีผู้ใช้เฟสบุกในนามผู้สนับสนุนศาสตราจารย์ ที่มีจำนวนไลค์ มากกว่า 3600 ‘likes’ ซึ่งทำการอัพเดทเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว
คณะกรรมการของมหาวิทยาลัยด้านเสรีภาพทางวิชาการ และการสิทธิด้านวิชาการ ออกระเบียบในช่วงปลายเดือนธันวาคมให้มีการพิจารณาการว่าจ้างงาน ซาลัยตาอีกครั้ง ขณะที่ คณะกรรมาธิการยังคงยืนยันคำตัดสินของพวกเขา ที่ให้มีการยกเลิกการเสนองานให้แก่ซาลัยตา เมื่อเดือน มกราคม
โดย ดุอาอฺ กุเมล