การเดินประท้วงในเยอรมัน เรียกร้องให้ซาอุดิอารเบียหยุดโจมตีเยเมน ภาพจาก Yemen Real news
• 27 มกราคม 2011 : ผู้ประท้วงในเมืองซานาอฺ เรียกร้องให้ประธานาธิบดีอาลี อับดุลลอฮ์ ซาเลห์ ลาออกหลังจากอยู่ในอำนาจมาสามสิบปี เริ่มต้นการปฏิวัติในเยเมน
• 12 กันยายน 2011 : ซาเลห์ลงนามในเอกสารฉบับหนึ่งเพื่อมอบอำนาจพิเศษให้รองประธานาธิบดีอาเบด รอบบู มันซูร ฮาดี ทำการเจรจาการเปลี่ยนผ่านอำนาจกับสภาความร่วมมืออ่าว (GCC) และพรรคร่วมฝ่ายค้าน (JMP) พรรคการเมืองฝ่ายค้านของเยเมน
• ธันวาคม 2011 : ซาเลห์ประกาศว่าเขาได้มอบอำนาจให้กับรองประธานาธิบดีฮาดีที่ได้รับการแต่งตั้งของเขา ภายใต้ข้อกำหนดของขั้นตอนแรกในการเปลี่ยนผ่านอำนาจที่ GCC เป็นสื่อกลาง
• มกราคม 2012 : ซาเลห์ และพันธมิตรใกล้ชิดกับสมาชิกครอบครัวของเขาหลายคน ได้รับความคุ้นกันอย่างเต็มที่โดยรัฐสภา
• 21 กุมภาพันธ์ 2012 : ฮาดีได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของเยเมนในการเลือกตั้งที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียว เขาได้รับการกำหนดวาระเป็นเวลาสองปี ซึ่งในระหว่างนั้นเขาจะดูแลการเปลี่ยนผ่านทางสถาบันและการเมืองของเยเมนให้สอดคล้องกับมติของสภาสานเสวนาแห่งชาติ (NDC)
• มกราคม 2014 : สมาชิกสภา NDC บรรลุข้อตกลงฉบับทดลองในกรุงซานาอฺ เมืองหลวง มาตราต่างๆ ของรัฐธรรมนูญฉบับร่างได้ถูกปรับปรุงออกมาในที่สุด จนกระทั่งเยเมนสามารถเปลี่ยนผ่านอำนาจได้เสร็จสมบูรณ์
• กันยายน 2014 : กลุ่มเฮาซีเข้ามาถึงซานาอฺ หลังจากทำการต่อสู้กับอิสลาห์ในพื้นที่ราบสูง อับดุลมาลิก อัล-เฮาซี เรียกร้องให้ฮาดีมุ่งมั่นกระทำตามมติของ NDC ทั้งหมด ในข้อตกลงเมื่อเดือนมกราคม 2014 มีการลงนามความตกลงกันในซานาอฺ และจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่
• มกราคม 2015 : หลังจากมีการถกเถียงกันทางการเมืองเป็นเวลาหลายเดือน และมีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ฮาดีประกาศลาออก คณะรัฐมนตรีทั้งหมดของเขาลาออก ฮาดีและรัฐมนตรีหลายคนถูกกลุ่มเฮาซีกักบริเวณอยู่ในบ้านทันที ขณะที่จามาล เบโนมาร์ ทูตพิเศษของสหประชาชาติประจำเยเมนพยายามที่จะให้ทุกฝ่ายกลับคืนสู่โต๊ะเจรจา
• กุมภาพันธ์ 2015 : ฮาดีหนีออกจากซานาอฺไปยังเอเดน ที่ซึ่งเขาได้ประกาศให้เอเดนเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ของเยเมน ทำให้เยเมนแยกออกเป็นสอง ซานาอฺกลายเป็นเมืองร้างทางการทูต เพราะสถานทูตต่างประเทศทั้งหมดถอนนักการทูตของตนออกจากเมือง
• มีนาคม 2015 : สหรัฐฯ ประกาศถอนกองทหารของตนออกจากฐานทัพอากาศอัลอานัด ใกล้กับเอเดน
• 25 มีนาคม 2015 : ซาอุดิอารเบียเปิดฉากโจมตีเยเมนฝ่ายเดียวด้วยการหนุนหลังจากชาติอาหรับแปดประเทศ ได้แก่ คูเวต, บาห์เรน, โมรอกโก, กาตาร์, อียิปต์, ซูดาน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจอร์แดน และได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ภายในไม่กี่วัน ปากีสถานเข้าร่วมกองกำลังผสม แต่ล่าสุด ยังคงปฏิเสธที่จะส่งทหารเข้าร่วมในการรบ
Source : http://www.mintpressnews.com