กฎ ระเบียบโลกใหม่ (New World Order) ซึ่งสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าของความคิด และทฤษฎีดังกล่าวขณะนี้ก็อยู่ในระหว่างการหาทางที่จะทำให้ชาวโลกยอมรับ แนวทางดังกล่าว ดังนั้นวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ การเมืองที่เกิดขึ้นในโลกขณะนี้ การถล่มค่าเงินสกุลต่างๆ นโยบายกีดกันทางการค้า การสร้างสถานการณ์เพื่อรุกรานทางทหารกับชาติเล็กชาติน้อย มีเป้าหมายเพื่อทำให้ชาติต่างๆ อ่อนแอเพื่อที่จะได้ตกอยู่ในอาณัติของชาติมหาอำนาจ เข้าสู่การเป็นทาสยุคใหม่อย่างสมบูรณ์ และอยู่ภายใต้การปกครองของชาติตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา โดยมีทุนนิยมและวัตถุนิยมเป็นปรัชญาของการใช้ชีวิต
New World Order คือการบังคับให้ประชาคมโลกจะต้องยืนอยู่ฝ่ายสหรัฐฯ เท่านั้น และใครก็ตามที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับสหรัฐฯ คือ “พวกก่อการร้าย” ซึ่งเหมือนกับเป็นการประกาศให้ชาวโลกรู้ว่า “ไม่มีชาติใดในโลกนี้มีสิทธิที่จะคิดและตัดสินใจนอกจากสหรัฐฯ เท่านั้น”
ไม่มีใครมีสิทธิที่จะเลือก นอกจากสิ่งที่สหรัฐฯ เลือกไว้แล้ว ในอดีตเมื่อสหรัฐฯ ต้องการที่จะโจมตีอัฟกานิสถาน ต้องการที่จะโจมตีอิรัก ทุกชาติจะต้องเห็นด้วยเท่านั้น ไม่ว่าเหตุผลและหลักฐานในการโจมตีจะเพียงพอหรือไม่ หรือองค์การสหประชาชาติจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม เหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นมาซ้ำๆ ซากๆ ตลอดตั้งแต่เริ่มก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ ไม่ว่าจะเป็นในเวียดนาม ปาเลสไตน์ แคชเมียร์ บอสเนีย อิรัก อิหร่าน เชชเนีย ฯลฯ
ใคร่เรียนถามสักนิดว่า “ชาติที่ไม่เคยเคารพมติของชาวโลก และมีประวัติที่เต็มไปด้วยการกดขี่ และรุกรานชาติที่อ่อนแอกว่าอย่างสหรัฐฯ จะนำความผาสุกมาให้มนุษยชาติได้จริงหรือ?”
ในวันนี้มนุษยชาติสามารถเข้าใจคำนิยาม “กฎระเบียบโลกใหม่” โดยภาคปฏิบัติของสหรัฐอเมริกา และชาติตะวันตกได้เป็นอย่างดี สหรัฐอเมริกาและพันธมิตรกำลังเป็นตัวอรรถาธิบายโครงสร้างของ “กฎระเบียบโลกใหม่” ให้ประชาคมโลกได้เห็นตลอดเวลาทั่วทุกมุมโลก ในแอฟริกา ตะวันออกกลาง ลาตินอเมริกา แม้กระทั่งในเอเชีย
ถ้าหากพิจารณาอย่างลึกซึ้ง “กฎระเบียบใหม่ของโลก” ก็ไม่ใช่สิ่งใหม่สำหรับชาวโลก แต่มันเป็นคัมภีร์แห่งการล่าอาณานิคมยุคใหม่เพื่อนำมนุษยชาติมาเป็นทาสทาง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการเมือง โดยมี “อำนาจ” และ “ทุน” เป็นอาวุธ
ทั้งหมด คือเหตุผลที่ว่าทำไมตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติตั้งแต่อดีตกาลจนถึง ปัจจุบัน จึงไม่เคยพบความผาสุกที่สมบูรณ์ ก็เพราะว่าผู้กระหายอำนาจอย่าง “ฟาโรห์” “อเล็กซานเดอร์” หรือ “เจ็งกิสข่าน” นั้นมิได้หมดไปจากโลกนี้เลย ลักษณะการปกครองและแนวความคิดของบรรดาอาชญากรในอดีตกาล ยังคงเวียนว่ายอยู่ในโลกจนถึงปัจจุบันนี้
โดย ฮุจตุลอิสลาม ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี