ที่ปรึกษาระดับสูงของกลุ่มอันศอรุลลอฮแห่งเยเมนชี้ อิมามโคมัยนี คือ ผู้นำแนวทาง

663

ฟาร์สนิวส์ – ที่ปรึกษาระดับสูงของกลุ่มอันศอรุลลอฮ หรือฮูซี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เป้าหมายหลักของ ราชวงศ์ซาอุ และพันธมิตรในการรุกรานเยเมน คือ การสร้างความแตกแยกและร้าวฉานระหว่าง ซุนนี – ชีอะฮ  ซึ่งพวกเขาจะไม่มีวันสมหวังในการนี้ “

เมื่อเร็วๆ นี้ ชัรฟุดดีน ชัมซุดดีนีย์ ปรึกษาระดับสูงของกลุ่มอันศอรุลลอฮ (ฮูซี) แห่งเยเยมนได้แถลงในมหาวิทยาลัย ‘ออซอดอิสลามีย์ อัรเดบิล’ ว่า “การรุกรานเยเมนอย่างเปิดเผย โดยซาอุดิอาระเบีย มีจุดประสงค์ และเหตุผลเฉพาะ ซึ่งผู้คนบางส่วน ไม่ได้รับรู้ถึงแผนการเหล่านี้”

“และยังไม่รู้อีกว่า เยเมน คือ ประเทศที่อยู่ในสถานะของจุดยุทธศาสตร์ในภูมิภาค ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2004 ประเทศนี้ได้เริ่มต้นขบวนการเคลื่อนไหว โดยมีผู้นำการปฏิวัติเป็นคนแรก คือ ซัยยิด ฮูเซน บัดรุดดีน  ในเมืองเซาะดะฮ์ เป็นสถานที่แห่งแรก จนถึงขั้นที่อันตรายได้มาเยือนถึงหัวใจของราชวงศ์ซาอุ”

“การปฏิวัติของประชาชนชาวเยเมนได้กระจายปกคลุมทุกพื้นที่ โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดตั้งประเทศนี้อย่างแท้จริง และนับตั้งแต่ปีแรกที่ซัยยิด ฮูเซน บัดรุดดีน ได้จัดตั้งพรรคอันศอรุลลอฮขึ้น ท่านได้รวบรวมบรรดามุญาฮีดีน นักต่อสู้ ภายใต้ธงเพียงผืนเดียว และได้ประกาศจุดยืนโดยการแสดงออกในการสนับสนุน ให้ขจัดระบอบการกดขี่และการละเมิดในทุกๆทิศทางที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ ซึ่งการจู่โจมของราชวงศ์ซาอุมีเป้าหมายเพื่อยับยั้งเอกราชอย่างแท้จริงของประเทศนี้”

“แก่นแท้ของการปฏิวัติประชาชนชาวเยเมน มีความคล้ายคลึงกับ การปฏิวัติของอิหร่านยิ่งนัก” ที่ปรึกษาระดับสูงของกลุ่มอันศอรุลลอฮกล่าว

ทั้งนี้ที่ปรึกษาอันศอรุลลอฮ ได้ให้ความเห็นว่า ” สื่อต่างๆ ของตะวันตกต่างพยายามที่จะปกปิดความเป็นจริง เกี่ยวกับการปฏิวัติของประชาชนชาวเยเมน ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งในความคล้ายคลึงกับการปฏิวัติอิหร่าน เพราะในด้านหนึ่ง กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับระบบการปกครองเก่า ต่างก็ละทิ้งแผ่นดินของตนไปเช่นกัน และประชาชนต่างก็มีเสรีภาพ และเอกราชในการตัดสินใจ เพื่อที่พวกเขาจะสามารถเคลื่อนไหวก้าวไปข้างหน้าอย่างจริงจังด้วยตัวเอง”

ในการให้สัมภาษณ์อีกส่วนหนึ่ง ชัมซุดดีน ได้กล่าวว่า “ในอีกประเด็นหนึ่ง การสร้างวัฒนธรรมแห่งอัลกุรอาน ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่อยู่ในคำบรรยาย ที่บัดรุดดีน ได้เคยปฏิวัติไว้  คำบรรยายของเขาในช่วงเริ่มต้น คือ การออกคำสั่งในเรื่องของการขักเกลา จิตวิญญาณ และมีมากกว่า 100 คำบรรยาย ที่เน้นยำถึงความสำคัญของประเด็นทางศาสนา และจิตวิญญาณ เพื่อให้อันศอรุลลอฮ สามารถสร้างความเข้มแข็งให้กับจิตวิญญาณของมวลชนประเทศนี้ ด้วยการพึ่งพิงยังอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า”

ชัมซุดดีนกล่าวเสริมว่า ในส่วนที่สอง การเคลื่อนไหวได้ดำเนินไปสู่เส้นทาง ที่ประชาชน สามารถก้าวไปข้างหน้า โดยมีการชี้นำจากอัลกุรอ่าน และ แนวทางของอะฮลุลบัยต์ (อ) จนกระทั่งพวกเขาสามารถเคลื่อนไหว และสามารถทำให้การปฏิวัติประสบความสำเร็จขึ้นมาได้

ในส่วนที่สามนั้น การเคลื่อนไหวของอันศอรุลลอฮ เป็นการเคลื่อนไหวที่มองเห็นและ รู้จักศัตรูที่เปิดหน้า  และประชาชนทั้งประเทศเยเมน ต่างก็ได้ข้อสรุปต่อเรื่องนี้ว่า  สิ่งที่มุสลิมกำลังประสบอยู่ในตอนนี้ ล้วนมาจาก สหรัฐ และไซออนิสต์

ที่ปรึกษาอันศอรรุลลอฮ ยังได้กล่าวอีกว่า สโลแกนของผู้นำอันศอรรุลอฮ คือ “อเมริกาจงพินาศ!!   อิสราเอลจงพินาศ !! ชัยชนะของอิสลามได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว !!”

ในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เคลื่อนไปด้วย “อัลลอฮุอักบัร ”

ซัมซุดดีนอ้างถึงคำบรรยายของ ซัยยิด ฮูเซน บัดรุดดีน อดีตผู้นำของฮูซีว่า ท่านยังได้กล่าวระลึกถึงอิมามโคมัยนี (รฮ) ผู้ล่วงลับว่าเป็น ผู้นำ ที่แท้จริงของขบวนการปฏิวัติในครั้งนี้

‘เศาะดะฮฺ’ ถือ เป็นหนึ่งใน จุดเริ่มต้นของความรู้ และแหล่งผลิตอุลามาอฺ/ นักวิชาการ ในเยเมน ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเมืองกุมแห่งอิหร่านในอีกด้านหนึ่ง เช่นเดียวกัน

“เราสามารถมองเห็นขับเคลื่อนขบวนการอันยิ่งใหญ่ โดยมีแสงรัศมีแห่งการปฏิวัติอิสลามอยู่ในการการเคลื่อนไหวของประชาชนชาวเยเมน และซัยยิด ฮูซัยนี ก็ได้เริ่มการปฏิวัติในยุคสมัยของเขา ด้วยการเน้นย้ำถึงหลักการนี้ จากเศาะดะฮฺ ในฐานะของแหล่งความรู้ และบรรดาอุลามาอฺ  ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับที่ ‘กุม’ ยิ่งนัก

ซัมซุดดีนได้อธิบายว่า ตั้งแต่ปี 2004 ซัยยิด ฮูซัยนี ได้เริ่มต้นการปฏิวัติด้วยจำนวนสมาชิก 300 คน และการปฏิวัติอันนี้ กลายเป็นระฆังที่ส่งสัญญาณอันตรายสำหรับสหรัฐอเมริกา จนทำให้พวกเขาต้องออกมาส่งเสียงเพื่อบิดเบือน และทำลายการปฏิวัติในครั้งนั้น

ในปี 2004-2010 มีสงครามโจมตีเยเมน เกิดขึ้นถึง 6  ครั้ง และวันนี้ เราต่างเป็นพยานถึงการ รุกราน และการจู่โจมของตระกูลซาอูด ซึ่งแน่นอน สงครามนี้ เกิดขึ้นก็เพราะ ความพ่ายแพ้ต่อการควบคุมชาติ และยุทธศาสตร์ทางภูมิภาคในเยเมน และในทางภูมิศาสตร์ ซึ่งประเทศนี้ตั้งอยู่ในช่องแคบ ‘บาบุลมันเดบ’  เป็นสถานที่ที่อยู่ในฐานะของชายแดนทางทะเล ที่มีสถานะสามารถปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจได้ทุกเมื่อ

ชัมซุดดีนได้กล่าวในช่วงท้ายว่า ในช่วงเดือนล่าสุด ภายหลังจากการโจมตีของซาอุดิอาราเบีย อันศอรุลลอฮ สามารถกวาดล้างกลุ่มตักฟีรีย์ และดาอิชได้มากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ และวันนี้เราก็เป็นพยานในกวาดล้าง กลุ่มตักฟีรีย์วะฮาบีย์ จำนวนประมาณ 12,000 คน

ในช่วงท้ายเขาได้กล่าวว่า ถ้าหากวันนี้ ซาอุได้ร่วมกับหลายประเทศในการจู่โจมเยเมน อย่างเปิดเผย ทำลายอาคารบ้านเรือนของประเทศนี้ การที่เยเมนไม่ได้บุกโจมตีประเทศซาอุ นั่นก็เพราะพวกเราต่างรู้ดีว่า ในสภาวะละเอียดอ่อนเช่นนี้ เหล่าบรรดามหาอำนาจผู้ยโสโอหัง ต่างรอคอยจังหวะพยายามที่จะใช้การโจมตีเยเมน เป็นการเปิดทางให้เกิดสงครามระหว่างซุนนี่-ชีอะฮ  และยังจะทำให้ไซออนิสต์ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย

และอันที่จริงแล้ว ซาอุต้องการที่ให้เยเมนทำการตอบโต้ โดยการบุกแผ่นดินของประเทศ นี้ เสียด้วยซ้ำ และการเข้าสู่แผ่นดินฮารอมัยน์ จะกลายเป็นข้ออ้างที่งดงามที่สุด ในการก่อสงครามระหว่างซุนนี่-ชีอะฮ  และยังสามารถกระตุ้นกลุ่มต่างๆ ได้ในอีกด้านหนึ่ง แต่เราจะไม่มีวัน ตกอยู่ในหลุมพรางเหล่านี้ แม้ว่าเราจะมีอุปกรณ์เครื่องไม้ เครื่องมือไม่มากนัก แต่เรามีความเข้มแข็ง และความปราถนาอันแรงกล้า ทางจิตวิญญาณ

เราได้พยายามทำลายแผนการและเป้าหมายของศัตรู โดยคน จำนวน 25 ล้านคนในตอนนี้ มี 10,000 คนแล้ว ที่เป็นชะฮีด และได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ก็เพื่อยืนหยัด

โดยถือว่า ‘การยืนหยัด’ คือ กุญแจแห่งชัยชนะที่จะสูญเสียไปไม่ได้

ถ้าหาก กองทัพอิยิปต์และปากีสถานเข้าร่วมกับซาอุดิอาระเบีย วันนี้ พวกเขาจะต้องเป็นหนึ่งในผู้มีส่วนร่วมในการสร้างความกดขี่ต่อประชาชนชาวเยเมน และเป็นผู้ร่วมกับซาอุในการรุกรานประเทศนี้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีใครอยากมีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมนี้ทั้งนั้น
www.khorasannews.com/OnlineNews.aspx?newsid=1593713