farsnews – การดึงเยาวชนซาอุดิอาระเบียโดยกลุ่มก่อการร้ายไอซิส และการเข้าร่วมของพวกเขากับกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวนั้น บ่งชี้ถึงความล้มเหลวของสถาบันการอบรมและสถานศึกษาของซาอุดีอาระเบียในการสร้างความตื่นตัวและการรับรู้เข้าใจถึงภัยอันตรายและภัยคุกคามของกลุ่มไอซิส
หลังจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในมัสยิดอิมามอาลี(อ) เมือง กอฏียฟ์ เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว 23 พฤษภาคม ทางกระทรวงมหาดไทยซาอุดีอาระเบีย ได้เปิดเผยมือระเบิดและปฏิบัติการในครั้งนี้ว่า เป็นวัยรุ่นวัย 15 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในซาอุดีอาระเบีย
และในแถลงการณ์ของกระทรวงมหาดไทย ยังเปิดเผยอีกว่า กลุ่มไอซิส ได้พยายามดึงและชักชวนเยาวชนและบรรดาเด็กๆ ซาอุดีอาระเบียเข้าร่วมกลุ่มผ่านสื่อโลกออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ
ทำไมจึงมีการดึงเยาวชนซาอุดีอาระเบียเข้าร่วมกลุ่มไอซิส
ประเด็นนี้ คือความหวาดวิตกกังวล และเป็นคำถามที่คาใจสำหรับหลายๆคน เกี่ยวกับเหตุผล และสาเหตุ ที่กลุ่มไอซิสมุ่งเน้นและเจาะลึกไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นบรรดาเด็กๆและเยาวชนในซาอุดิอาระเบีย บทบาทของสถาบันการศึกษาอบรมและสถาบันครอบครัวของซาอุดีอาระเบียมีอิทธิพลและบทบาทในสังคมและเยาวชนมากน้อยแค่ไหน ???
แม้นว่า ไม่อาจให้คำตอบที่ชัดเจนต่อประเด็นนี้ได้ แต่หากพิจารณาจากหลายๆองค์ประกอบและปัจจัยหลายๆด้าน ทำให้พบคำตอบในคำถามข้างต้นได้พอสมควร โดยเฉพาะหากพิจารณาจากประชากรในซาอุดีอาระเบียซึ่งจะเป็นเยาวชนหนุ่มสาวเสียส่วนใหญ่ และได้เติบโตขึ้นมาในสภาพสังคมแห่งความแตกแยกทางนิกายและเผ่าพันธุ์
นอกเหนือจากนั้น อินเทอร์เน็ต และเว็บไซด์สื่อสังคมออนไลน์ ถือเป็นบทบาทสำคัญในสร้างเชื้อความแตกแยก และข้อขัดแย้งให้มันลึกลงเข้าไปอีก ซึ่งเครื่องมือหนึ่งที่สำคัญของไอซิสในการดึงกองกำลังเข้าร่วมขบวนการก่อการร้าย คือเว็บไซด์และสื่อออนไลน์ต่างๆทางสังคม โดยที่บรรดาเด็กๆต่างหมกมุ่นอยู่กับสื่อออนไลน์เหล่านี้นานนับชั่วโมงโดยที่ปราศจากการดูแลควบคุมจากครอบครัวและโรงเรียน
ขณะเดียวกันครอบครัวเพิ่งจะมารู้หลังจากที่บุตรหลานของตนได้เข้าร่วมกลุ่มก่อการร้ายไอซิสไปแล้ว และเพิ่งจะรู้ที่หลังว่ามันสายและสูญเสียบุคคลที่รักไปแล้ว
ผลกระทบของสื่อออนไลน์และการใช้ประโยชน์ของไอซิส
ผู้เชี่ยวชาญและผู้สันทัดกรณี ย้ำว่า ความสำเร็จของไอซิสในการดึงกำลังพลและแนวร่วมใหม่เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับตน มักจะใช้ประโยชน์จากสื่อโลกออนไลน์ ด้วยการนำเสนอวิธีการการต่างๆในทุกรูปแบบเพื่อเป็นสิ่งล่อใจแก่บรรดาเยาวชนและวัยรุ่นให้เข้าร่วมขบวนการ
เว็บไซต์ และสื่อสังคมออนไลน์สามารถส่งผลกระทบได้อย่างดีในการเปลี่ยนทัศนะความคิดทั้งอุดมการณ์และหลักความเชื่อให้กับบรรดาเยาวชน โดยอ้างว่า ไอซิสคือแนวทางสู่ความผาสุกและสรวงสวรรค์อันนิรันดร์
นอกเหนือจากหลักคำสอนและสิ่งล่อใจของไอซิสแล้ว วัยรุ่นและเยาวชนหนุ่มสาวของซาอุดีอาระเบียที่ได้เข้าร่วมกับกลุ่มไอซิสนั้น ล้วนแล้วเติบโตในสภาพแวดล้อมทางครอบครัวที่ถูกปลูกฝั่งและสอนสั่งตามหลักความคิดของกลุ่มสุดโต่งและกลุ่มตักฟีรีย์ หรือบางครั้งคนในครอบครัวของพวกเขากลับเป็นสมาชิกของไอซิสในแถวหน้าอีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญ และนักสันทัดกรณี ย้ำว่า การเข้าไปมีบทบาทและอิทธิพลของไอซิส ในทุกประเทศ มีรากเหง้าที่มาจากหลายๆปัจจัยและหลายองค์ประกอบ ซึ่งปัจจัยที่สำคัญที่สุด คือ ปัญหาสังคมและวัฒนธรรม ในขณะเดียวกันสถาบันการศึกษาอิสลาม ก็มีส่วนสำคัญในการสร้างความตื่นตัวและการรับรู้เข้าเจ้าที่ถูกต้องเชิงนิกายและเปิดโปงธาตุแท้ที่แท้จริงกลุ่มก่อการร้ายตักฟีรีย์
ซาอุดิอาระเบียมีความเสี่ยงมากกว่าชาติอื่นๆ
สถานการณ์เช่นนี้ โดยเฉพาะประเทศอย่างเช่นซาอุดีอาระเบีย มีประชากร ร้อย 67 ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเยาวชนหนุ่มสาว และในแง่ของอายุของประชากรท้งหมดในประเทศแล้ว มีประชากร อายุ ต่ำกว่า 29 ปี มากถึงจำนวน 13 ล้านคน ถือเป็นอันดับสามของโลก ยิ่งมีความเสี่ยงมากกว่าประเทศอื่นๆในโลก โดยเฉพาะบุคคลเหล่านี้กำลังเผชิญหน้ากับอุปสรรค์ปัญหา เช่น รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญต่อเยาวชน และถือพวกเขากลายเป็นชนชายขอบของคนในประเทศ
ตามรายงาน จากเดือนมกราคม ปี 2014 ถึง เดือนมกราคม 2015 มีพลเมืองซาอุดีอาระเบีย แห่เข้าร่วมกลุ่มไอซิส จำนวน 2,500 คน ซึ่งทำให้ซาอุดิอาระเบียกลายเป็นประเทศอันดับหนึ่งของชาติอ่าวเปอร์เซียที่ได้เข้าร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส และในเรื่องนี้เองทางการซาอุฯ ย้ำว่า ไอซิสสามารถเข้าไปมีอิทธิพลและบทบาทอย่างมากในหมู่เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี
ใช้ประโยชน์จากเครื่องมืออื่นๆ
บรรดานักวิเคราะห์ ยังได้ชี้ถึงเครื่องมือ และสื่อต่างๆในการดึงเยาวชนหนุ่มสาวซาอุดีอาระเบียเข้ากลุ่มก่อการร้ายไอซิส ซึ่งเครื่องมือที่สำคัญที่สุดคือ เพลงปลุกเร้าทางนิกาย ศาสนา และคลิปวิดีโอที่หลากหลายที่มีการแพร่ลงในยูทูป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่สวยงามให้กับกลุ่มไอซิส และกู้ภาพลักษณ์ที่เสื่อมเสียเหล่าให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมีนักร้องชื่อดังคนหนึ่งของไอซิส ชื่อ “มาเฮร์ อัชมาล อัลชะวัยบ” เป็นนักร้องชื่อดังของไอซิสซึ่งเป็นชาวซาอุดีอาระเบีย รับหน้าที่ในการดึงดูดเยาวชนเหล่านี้ผ่านเสียงเพลง
ไม่เพียงแต่การนำเสนอภาพลักษณ์ทางสื่อสังคมออนไลน์เท่านั้น แต่การแสดงออกในการกระทำของไอซิสที่เกิดขึ้นในซาอุฯ ก็เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งของกลุ่มก่อการร้ายนี้ โดยทางการซาอุดีอาระเบียเปิดเผย เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วว่า สามารถจับกุมชาวซาอุดีอาระเบีย 8 คน ที่กำลังเชิญชวนเยาวชนซาอุฯ เข้าร่วมกลุ่มไอซิส ในเมือง “ตะมีร์”
ความอ่อนแอเชิงรากฐานของสถาบันครอบครัวในซาอุดีอาระเบีย
ตามความเชื่อของนักวิเคราะห์ ด้านการอบรมจิตวิทยา ถือว่า ปัญหาสถาบันของครอบของซาอุฯ เป็นสาเหตุหนึ่งที่เยาวชนซาอุฯแห่ เข้าร่วมกลุ่มไอซิส
ตามรายงานของกระทรวงยุติธรรม ซาอุดีอาระเบีย 2014 มีการบันทึกสถิติ การหย่าร้างถึง 34,000 ครั้ง และจดบันทึกการสมรส จำนวน 12,000 ครั้ง
จากรายงานข้างต้นบ่งชี้ว่า สถิติการหย่าร้างในซาอุ ตลอดช่วงปี 2014 นั้น มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นกว่าปี 2013 ถึง 850 ครั้ง ด้วยเหตุนี้บรรดานักสังคมสงเคราะห์ในซาอุฯ ได้ชี้ถึงความหวาดวิตกในปรากฏการการหย่าร้างที่เกิดขึ้นในสังคมซาอุดีอาระเบียในขณะนี้
แหล่งข่าว “อะห์รอ ฮิญาซ” เผยว่า ปัจจุบันร้อยละ 25 ของคู่สมรส มีการหย่าร้าง ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงมากในบรรดาชาติต่างๆในโลก เพราะโดยปรกติแล้วจะมีอัตราหย่าร้างร้อยละ 18 -22 เท่านั้น
อัตราการหย่าร้างในซาอุฯ เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งหากเปรียบเทียบกับสองปีที่แล้ว เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 33
ด้วยเหตุผลข้อนี้เอง บรรดาผู้เชี่ยวชาญไม่ได้ออกมาเตือนถึงผลสะท้อนให้เห็นแค่การล่มสลายของการหย่าร้างในครอบครัวเท่านั้น แต่ปัญหาการว่างงานของบิดาและมารดาในครอบครัวก็เป็นเหตุผลหนึ่งของการล่มสลายของสถาบันครอบครัวในซาอุฯ เนื่องจากครอบครัวที่ตกอยู่ในสภาวะเช่นนี้ย่อมจะไม่มีการควบคุมและดูแลบุตรหลานของตนเองได้แน่นอน
ผลพวงจากปัญหาครอบครัวเหล่านี้ ทำให้บรรดาเยาวชนต้องหันหน้ายังสื่อสังคมออนไลน์ และทวีดาวเทียม และจึงตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มไอซิสอย่างง่ายดายในการชักใยและดึงเยาวชนเหล่านี้เข้าร่วมอุดมการณ์แห่งความรุนแรงและกลุ่มสุดโต่งอย่างง่ายดาย
แหละนี่คือสาเหตุหนึ่งทำให้เยาวชนหนุ่มสาวชาวซาอุ แห่เข้าร่วมกลุ่มก่อการร้ายไอซิส
http://www.farsnews.com/newstext.php?nn=13940306000992