เดือน “มุฮัรรอม” และอิทธิพลของ “ฮุเซน” พลังสร้างแรงบันดาลใจให้ชาวอิหร่าน

มุฮัรรอมกระตุ้นให้ชาวอิหร่านธรรมดาสามัญใช้ชีวิตอยู่กับคุณธรรมความดี ที่สะท้อนถึงการเสียสละของฮุเซน บุคคลสำคัญผู้ที่มุสลิมชีอะฮ์รักมากที่สุด

3287
(ภาพ) เต็นท์ประดับถูกจัดตั้งขึ้นบนท้องถนนในกรุงเตหะราน เพื่อรำลึกถึงเต็นท์ของฮุเซน อิบฺ อะลี ที่ถูกกองทัพของยะสีดเผา (MEE/Rohollah Faghihi)

มุฮัรรอม (เดือนหนึ่งในปฏิทินอิสลาม) เป็นเดือนที่ไม่เหมือนเดือนใดๆ ในอิหร่าน มันเหมือนกับก้าวเข้าไปในอีกประเทศหนึ่งที่มีบรรยากาศเหมือนในตำนานและหาได้ยาก ที่มีต้นกำเนิดมาจากเรื่องราวและพิธีการทางศาสนา มุฮัรรอมเป็นเดือนสำคัญในประวัติศาสตร์ของอิสลาม โดยเฉพาะสำหรับมุสลิมชีอะฮ์ เป็นการรำลึกถึงเมื่อครั้งที่ฮุเซน บุตร อะลี หลานชายของศาสดามุฮัมมัด ถูกสังหารในสมรภูมิกัรบาลาที่น่าสยดสยองเมื่อวันที่ 10 มุฮัรรอม ปีฮิจเราะห์ที่ 61 ตามปฏิทินอิสลาม ซึ่งตรงกับปี ค.ศ.680

ภายใต้การกดดันจากยะสีด คอลิฟะฮ์จากราชวงศ์อุมัยยะฮ์ ที่ขณะนั้นเป็นศัตรูคู่อริกับศาสดาและบรรดาสาวกของท่าน ฮุเซนถูกบังคับให้รับรองความชอบธรรมในการปกครองของพวกเขา ซึ่งท่านปฏิเสธที่จะให้การรับรอง ท่านจึงถูกท้าทายให้เผชิญหน้ากับราชวงศ์อุมัยยะฮ์ในสนามรบ ขณะที่ท่านเดินทางไปสู่สถานที่ซึ่งเป็นสมรภูมิ ฮุเซนถูกล้อมจับโดยกองทัพที่มีกำลังคน 4,000 นาย ใกล้ริมฝั่งแม่น้ำยูเฟรติส ท่านถูกปิดล้อมอยู่ที่นั่นและไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงน้ำ ฮุเซนยังคงปฏิเสธที่จะยอมจำนนต่อยะสีด ท่านและบุตรชายวัยหกเดือนของท่านจึงถูกสังหารที่กัรบาลา ศีรษะของฮุเซนถูกนำไปมอบเป็นรางวัลสงครามแก่ยะสีด

ทุกๆ ปี เมื่อถึงเดือนมุฮัรรอม มุสลิมชีอะฮ์จะหลีกตัวอยู่ในบรรยากาศของการสำรวมจิตใจและการคิดใคร่ครวญ ตลอดทั้งเดือนนี้ คุณจะเห็นผู้คนเดินไปมาบนท้องถนนด้วยชุดสีดำ เป็นการแสดงออกภายนอกถึงการให้ความเคารพต่อฮุเซน สำหรับความศรัทธาและความมั่นคงของท่านที่ทำให้ท่านยอมสละแม้ชีวิต

(ภาพ) กลุ่มคนหนุ่ม ทางตอนเหนือของเตหะราน ตีกลองตับล์ กลองสองหน้า ขณะที่ประชาชนร่วมไว้อาลัยแก่ฮุเซน อิบนฺ อะลี (MEE/Rohollah Faghihi)
(ภาพ) กลุ่มคนหนุ่ม ทางตอนเหนือของเตหะราน ตีกลองตับล์ กลองสองหน้า ขณะที่ประชาชนร่วมไว้อาลัยแก่ฮุเซน อิบนฺ อะลี (MEE/Rohollah Faghihi)

เพื่อรักษาการรำลึกถึงฮุเซนและการเสียสละของท่าน ถนนหลายสายในเตหะรานและเมืองอื่นๆ ของิหร่านได้กลายเป็นสถานที่ชุมนุมพิเศษและทำกิจกรรมทางศาสนา หลายคนจัดการชุมนุมทางศาสนาที่บ้านของพวกเขา ซึ่งจะเปิดต้อนรับทุกคน ผู้เป็นแขกจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าภาพ ซึ่งจะให้บริการชาร้อนๆ และอาหารอร่อยๆ ที่เรียกว่า นัซรี (อาหารบริจาค) แก่แขกของเขา

นักขับร้องเพลงศาสนาจะทำการขับร้อง นักเทศนาธรรมก็จะเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับสมรภูมิกัรบาลาและความยากลำบากที่ฮุเซนและครอบครัวของท่านต้องเผชิญ ขณะที่กำลังรับฟังเหตุการณ์ต่างๆ จากสมรภูมิที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้วนั้น ผู้คนจะร้องไห้และแสดงความอาลัยราวกับการพลีชีพของฮุเซนเพิ่งจะเกิดขึ้น

10 วันแรกของเดือนมุฮัรรอมมีคุณค่ามากที่สุด เพราะการเดินทางและการพลีชีพของฮุเซนเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น เป็นเวลา 10 วันที่จะไม่มีการแต่งงาน งานเลี้ยงสังสรรค์ ไม่มีการฟังเพลงสนุกสนาน  โทรทัศน์ของอิหร่านจะพักการออกอากาศละครตลกและละครชีวิตชั่วคราว และเน้นไปที่การบรรยายเรื่องราวประวัติศาสตร์ของสมรภูมิกัรบาลา การแต่งงานยังจะถูกเลื่อนต่อไปอีกเป็นเวลา 40 วันหลังจากวันพลีชีพของฮุเซน

บนท้องถนนและตรอกซอกซอย มีการจัดตั้งฐานและเต็นท์ขึ้นชั่วคราว เพราะให้บริการน้ำชาและซุปฟรีแก่ประชาชน
อะลีเรซา อะห์มาดี วัย 18 ปี ที่อยู่ภายในเต็นท์หลังหนึ่งบนถนนดิบาจี ทางตอนเหนือของเตหะราน บอกกับ Middle East Eye ว่า “ผมอยู่ที่นี่ตั้งแต่เช้าจนถึงสามทุ่ม แต่ผมไม่รู้สึกเหนื่อย เพราะผมทำงานเพื่ออิหม่ามฮุเซน บ่าวผู้ถูกคัดเลือกของพระเจ้า”

ผลกระทบที่เดือนอันจำเริญนี้มีต่อชาวอิหร่านมองเห็นได้ชัดเจน ประชาชนมีความอ่อนโยนต่อกันและกันมากขึ้น และพยายามที่จะปรับอุปนิสัยทางสังคมของพวกเขาให้ดีขึ้น เยาวชนมีส่วนร่วมอย่างกระฉับกระเฉงในพิธีการของเดือนมุฮัรรอม และประชาชนที่ไม่ค่อยจะปฏิบัติศาสนกิจในช่วงอื่นๆ ของปี จะถูกดึงเข้าร่วมกับพิธีการต่างๆ นี้  แม้แต่อัตราการก่ออาชญากรรมก็ลดลงอย่างมากระหว่างเดือนมุฮัรรอม บ่งบอกถึงอิทธิพลของเรื่องราวของฮุเซนที่มีต่อชีวิตประจำวันของประชาชน

ดร.ฮุเซน บาเฮอร์ นักสังคมศาสตร์และอาจารย์บรรยายที่มหาวิทยาลัยชาฮีด เบเฮชตี บอกกับ MEE ว่า “ประชาชนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมพิธีกรรมในเดือนมุฮัรรอมจะละทิ้งนิสัยไม่ดีของพวกเขาไปชั่วคราว ความรักต่อฮุเซนในหัวใจของชาวอิหร่านช่วยลดแนวโน้มของประชาชนที่จะละเมิดกฎหมายหรือก่ออาชญากรรมลง”

มุฮ์ซิน การาเวน นักการศาสนาในเมืองกุม บอกกับ MEE ว่า “อิหม่ามฮุเซนเป็นบุคคลที่ได้รับความเคารพอย่างสูงและเป็นที่รักของประชาชนชาวอิหร่าน และเนื่องจากสาส์นแห่งกัรบาลามีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงเช่นนั้น เมื่อเดือนมุฮัรรอมมาถึง ทุกคนจะพยายามประพฤติตนอยู่ในหนทางที่จะใคร่ครวญถึงชีวิตที่มีคุณธรรมของฮุเซน”

มุฮัรรอมยังมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการค้าด้วยเช่นกัน มันไม่ใช่เพราะความตั้งใจของประชาชนอย่างเดียวเท่านั้นที่จะถอยห่างจากการบริโภค แต่ผู้ค้าเองก็มีบทบาทสำคัญที่ทำให้การบริโภคลดลง

มะห์มูด ฮาจีลู เจ้าของร้านน้ำชาแห่งหนึ่งกลางกรุงเตหะราน บอกกับ MEE ว่า “ทุกๆ ปี ผมจะปิดร้านน้ำชาในช่วง 10 วันแรกของเดือนมุฮัรรอม เพราะผมต้องการเข้าร่วมในพิธีการและการรำลึก”

นักแสดงและนักฟุตบอลผู้มีชื่เสียงก็จะเข้าร่วมกับประชาชนในการรับฟังเรื่องราวการพลีชีพของฮุเซน อะลี ดาอี นักฟุตบอลระดับตำนานที่เป็นผู้ทำประตูสูงสุดในโลกตลอดกาลในการแข่งขันระดับนานาชาติ ก็เป็นหนึ่งในบรรดาผู้บริจาคอาหารในเดือนนี้เพื่ออุทิศแก่บรรดาผู้พลีชีพแห่งกัรบาลา เขาบอกกับสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งว่า “ตราบใดที่ผมยังมีชีวิตอยู่ ผมจะให้บริการนี้ในนามของอิหม่ามฮุเซน”

ฮุเซนเป็นที่รักอย่างมากสำหรับชาวอิหร่าน จนแม้กระทั่งชาวโซโรแอสเตอร์และชาวคริสเตียนก็มีส่วนร่วมในพิธีการในเดือนมุฮัรรอม ด้วยความเชื่อว่าท่านน่ายกย่องชื่นชมสำหรับความพยายามต่อสู้กับการกดขี่และช่วยเหลือผู้ถูกกดขี่
แฟรงก์ เรไซแอน ชาวคริสเตียนเชื้อสายอิหร่าน บอกกับ MEE ว่า “บุคลิกภาพที่พิเศษของฮุเซนดึงดูดความสนใจของผม หนึ่งคืนก่อนสมรภูมิกัรบาลา ท่านบอกกับคณะของท่านว่าพวกเขาทั้งหมดจะตายในวันพรุ่งนี้ แล้วท่านจึงได้ดับไฟ และขอให้ผู้ที่ต้องการจะมีชีวิตต่อไปทิ้งท่านไป”

“ชาวคริสเตียนอิหร่านถือว่าอิหม่ามฮุเซนเป็นผู้ปฏิบัติตามแนวทางของพระเยซู ที่เริ่มต้นโดยศาสดาอิบรอฮีม บุคคลผู้บริสุทธิ์เหล่านั้นล้วนเสียสละตนเองเพื่อให้มนุษย์มีชีวิตที่ดีขึ้น” บาเฮอร์ บอกกับ MEE

ในบางพื้นที่ของเตหะราน ประชาชนจะแสดง Tazie ละครที่สร้างจากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และศาสนา บ่งบอกถึงมหากาพย์แห่งจิตวิญญาณและการต้านทาน ใน Tazie ที่ดึงดูดผู้คนมากมาย จะมีผู้แสดงหกหรือเจ็ดคนบอกเล่าเรื่องราวของสมรภูมิแห่งกัรบาลา และทำให้ผู้ชมมีความเข้าใจสถานการณ์ของฮุเซนได้ดีขึ้น

(ภาพ) กลุ่มประชาชนผู้แสดง Tazie บนท้องถนน (MEE/Rohollah Faghihi)
(ภาพ) กลุ่มประชาชนผู้แสดง Tazie บนท้องถนน (MEE/Rohollah Faghihi)

กาเมซานี หรือการทำร้ายร่างกายตัวเองด้วยการตีศีรษะหรือหลัง เป็นพิธีกรรมอีกอย่างหนึ่งระหว่างเดือนมุฮัรรอมที่เคยถือปฏิบัติกันโดยกลุ่มผู้เคร่งพิธีการมาจนกระทั่งถึงเมื่อหลายปีที่ผ่านมานี้ แต่อายาตุลลอฮ์ระดับสูงได้ออกฟัตวาห้ามการปฏิบัติดังกล่าว และบอกว่า บาดแผลจากการทำร้ายตัวเองเป็นสิ่งที่ขัดกับกฎหมายอิสลาม และเป็นภาพที่รุนแรงของอิสลาม อย่างไรก็ตาม ยังคงมีคนถือปฏิบัติอยู่อย่างลับๆ ซึ่งปัจจุบันอาจมีการลงโทษตามกฎหมาย

ปีนี้ ประธานาธิบดีฮัซซัน รูฮานี ซึ่งเป็นนักการศาสนาผู้หนึ่งที่มีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์อิสลาม ได้แบ่งเวลาให้คณะรัฐมนตรีของเขาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของฮุเซน เมื่อเขากล่าวถึงฮุเซน สมาชิกในคณะรัฐมนตรีของเขาก็เริ่มโศกเศร้า และรูฮานีเองก็จวนจะร้องไห้

เดือนมุฮัรรอมเป็นเดือนที่คู่ควรแก่การไปเยือนอิหร่าน เพื่อจะได้เห็นอิทธิพลของฮุเซนและผลกระทบของเขาที่มีต่อประชาชน และเพื่อร่วมพิธีการที่เป็นแรงบันดาลใจและน่าประทับใจทั่วประเทศ

 

แปลจาก http://www.middleeasteye.net