อัลอาลัม – อดีตสมาชิกอาวุโสของหน่วยสืบราชการลับของอิสราเอล (มอสสาด) ออกมาเปิดเผยว่าอิสราเอลเข้าไปแทรกแซงสงครามกลางเมืองในซูดานในปี 1969 และ 1971
เดวิดเบน โอซิส เปิดเผย ในหนังสือของเขาที่เพิ่งตีพิมพ์และวางจำหน่ายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า เขาและเพื่อนร่วมงานของเขาและเจ้าหน้าที่ของกองทัพอิสราเอลจำนวนหนึ่ง ได้เข้าร่วมในการเคลื่อนไหวและปฏิบัติการของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน อันยา -นายา นำโดยนายพล โจเซฟ ลาโก ในการทำสงครามกับกองทัพของซูดาน
นอกจากนี้เขายังได้ชี้ถึงการเข้าไปมีส่วนร่วมของตนเองกับสมาชิกของมอสสาดคนอื่นๆ ในการทำลายสะพานและเรือบรรทุกอาวุธเพื่อให้การสนับสนุนกองทัพซูดาน
หนังสือเล่มนี้มีได้รับการตีพิมพ์ใน มีบทหนึ่งชื่อว่า “วันในการปฏิบัติภารกิจของมอสสาดในภาคใต้ของซูดานในปี 1969 และ 1971” ชี้ให้เห็นว่า “อิสราเอล” มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการลดแรงประเด็นการซ้อมรบของกองทัพซูดานในภูมิภาค
อดีตสมาชิกอาวุโสหน่วยสืบราชการลับของอิสราเอล (มอสสาด) กล่าวว่า ภารกิจของมอสสาดคือ การฝึกทหารและการถ่ายโอนอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารและความช่วยเหลือทางการแพทย์และสิ่งอื่นๆ ให้กับกลุ่มกบฏในภาคใต้ของประเทศซูดาน
โอซิลยอมรับในหนังสือของเขาว่า มอสสาดและทหารอิสราเอล ได้ให้การช่วยเหลือ “กองทัพทางภาคใต้ของซูดาน” ในการจัดตั้งหน่วยทหารขนาดเล็กเพื่อทำสงครามกับกองทัพซูดาน
เขากล่าวว่า มอสสาดได้สร้างสนามบินแห่งหนึ่งในภาคใต้ของซูดาน เพื่อขนย้ายส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับ “กองทัพทางภาคใต้ของซูดาน”
อดีตสมาชิกอาวุโสของมอสสาดกล่าวเสริมว่า การรณรงค์ในการทำสงครามจิตวิทยาของมอสสาดในการก่อตัวของกองทัพซูดานใต้สามารถมีอิทธิพล (เชิงลบ) และส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของทหารกองทัพซูดาน
โอซิล กล่าวว่า เป้าหมายในการช่วยพวกกบฏในภาคใต้ของประเทศซูดานนั้น เพื่อพยายามที่จะสร้างความวุ่นวายให้กับกองทัพซูดาน แลหันมาสาละวนกับการทำสงครามในภาคใต้ของประเทศ เพื่อที่จะลดอำนาจและศักยภาพของกองทัพซูดานที่มีการส่งทหารไปยังประเทศอาหรับต่างๆเพื่อทำการสงครามการอิสราเอล
โอซิล ถือว่า พื้นฐานหลักของระบอบยิวไซออนิสต์ ในประเด็นนี้ คือ หลักการ “ศัตรูของศัตรู คือมิตร” และด้วยหลักการนี้ทำให้สามารถสนับสนุนชาติอาหรับที่มีส่วนร่วมในการสู้รบกับศัตรูของอิสราเอล
อิสราเอลพยายามที่จะสานสัมพันธ์กับบางประเทศและชนกลุ่มน้อยทางศาสนา ชาติพันธ์ที่รุนแรงเพื่อให้เผชิญหน้ากับโลกอาหรับเพื่อลดความสนใจที่มีต่ออิสราเอลในภูมิภาค และเหตุผลของการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับเอธิโอเปีย ตุรกี อิหร่าน (ก่อนการปฏิวัติ) Maronites ในเลบานอนและชาวเคิร์ดในอิรักนั้นก็ด้วยเหตุผลนี้เช่นกัน
โอซิส กล่าวว่า อิสราเอลให้ความร่วมมือด้านหน่วยงานขาวกรอง และหน่วยสืบราชการลับกับเคนยาและเอธิโอเปียเพื่อใช้ในการสื่อสารกับกลุ่มกบฏในภาคใต้ของซูดาน
มีการตั้งข้อสังเกตว่า บางหน่วยงานด้านสิทธิมนุษย์ชนระดับนานาชาติ กล่าวหาว่า อิสราเอลมีบทบาทสำคัญในการก่ออาชญากรรมสงครามในปัจจุบันในภาคใต้ของประเทศซูดาน ด้วยการสนับสนุนทางทหารให้กับรัฐบาลซูดานใต้ และกล่าวหาทหารของกองทัพซูดานใต้ที่ทำการฆาตกรรมหมู่และข่มขืนประชาชนเป็นที่แพร่หลายในประเทศ