เมื่อ วันที่ ๖ มีนาคม นายอะฮหมัด อัมรูฟ รู้จักกันในนาม ผู้บัญชาการกลุ่ม อะมารอต อิสลามีย์ (กัฟกอซ) และสมาชิกกลุ่มนับรบเชเชน สมาชิกกลุ่มนักรบยุโรปตะวันออก และสมาชิกกัฟกอซ ได้เดินทางออกจากซีเรียมุ่งหน้าสู่ยุโรป เพื่อทำการล้างแค้น พวกพ้องที่ถูกสังหาร ในซีเรีย ภายใต้การสนับสนุนของรัซเซีย ถึงตะวันตกจะไม่ยิงจรวดเข้าไปในยูเครน แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งปฏิบัติการของกลุ่มตักฟีรีย์เหล่านี้ได้
ตามรายงานข่าวระบุว่า เรซอนีย์ อะฮหมัด อัมรูฟ พี่ชายของ โดโก้ อัมรูฟ หัวหน้ากลุ่ม อิมารอต อิสลามีย์ กัฟกอซ ได้ถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการกลุ่มนี้
โดย กัฟกอซ ถือเป็นหนึ่งในดินแดนทางตอนใต้ ของรัซซีย และติดกับตะวันตกของทะเลดำ แถบแหลมไครเมียร์ ยูเครน ส่วนใหญ่ชีวิตของชาวเชเชน อยู่ภายใต้การดูเลของคนที่นั่น และนักรบเหล่านี้ ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ถูกส่งไปยังสถานที่ต่างๆทั่วโลก โดยเฉพาะซีเรีย
สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางด้านองค์กรอัลกออิดะฮ สาขาย่อย ในเอเซียกลาง และกลุ่มตักฟีรีย์ ก็ออกมาเคลื่อนไหวเช่นกัน โดยขบวนการเหล่านี้ ได้ออกประกาศถึง การวางระบบคอลีฟะฮ อิสลาม ในอัฟกานิสถาน,ภาคเหนือของแอฟริกา ,อิรัค ซีเรีย และ เชเชน และยังได้ประกาศอีกว่า ไครเมีย และเกากอซ ก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่จะปกครองในระบบคอลีฟะฮอิสลาม ดังนั้น จึงเป็นข้อบังคับ ที่ทุกๆคนจะต้องทำการญิฮาด เพื่อสร้างอิสระ และเสรีภาพ ให้เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้
ใน การปะทะกันในเมืองเคียฟ และการบุกทำลายอาคารของรัฐนั้น เป็นไปตามคำสั่ง ของ ดีมีทรี ยาโรวิช ผู้บัญชาการ และผู้นำฝ่ายชาตินิยม รอเยต ซักทูร นอกจาก ความรุนแรงเหล่านี้จะเกิดขึ้นแล้ว ในอีกด้านยังมีสัญญาณให้เห็นอีกว่า กลุ่มต่อต้าน รอเยต ซักทูร ถูกนำเสนอ ให้เป็นสัญลักษณ์ของการประท้วง ในครั้งนี้อีกด้วย
มีสัญลักษณ์สวัสติกะของเหล่านาซี และกลุ่มผู้ประท้วง ให้เห็นกันอย่างชินตา ไม่มีใครกลัวการประกาศแสดงสัญลักษณ์ของนาซีเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม ทาทารีย ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ประท้วงอีกด้วย คนเหล่านี้ มักจะเข้าร่วมในการปะทะกับเจ้าหน้าที่อยู่เสมอ ที่น่าแปลกใจก็คือเหล่านี้ ขบวนการเหล่านี้ คือกลุ่มบุคคลที่ ได้รับการช่วยเหลือจาก เหล่าเศรษฐี และเชคในโลกอาหรับ ในช่วงที่ เศรษฐกิจของยูเครนกำลังดิ่งลงเหวเมื่อครั้งอดีต แน่นอน พวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการรร้ายสาขาย่อยที่แตกหน่อมาจากกลุ่มอัล กออิดะฮ ในเอเซียกลาง โดยมีชื่อใหม่ ว่า อิมารอต อิสลามีย์ กัฟกอซ
ประเด็นที่ที่ควรจับตามอง ในช่วงนี้ คือการรวมพลังกันของ กลุ่มนาซี กลุ่มทาทารีย์ และกลุ่มเชเชน เพราะกลุ่มเหล่านี้ มีเป้าหมายเดียวกันคือการทำลายชาติ แม้แต่นิตยสารไทมส์ ก็ไม่ละเลยที่จะกล่าวถึงประเด็นนี้ ซึ่งนิตยสารอเมริกา ฉบับนี้ ยัง ได้อธิบาย ถึงปรากฎการเคลื่อนไหวของมุสลิมในครั้งใหม่
เหตุที่กลุ่มตักฟีรีย์เหล่านี้ ออกมาเคลื่อนไหว นั่นก็เพราะ รัสเซีย เคยไปข่มขู่ ต่อฝ่ายซาอุ เมื่องครั้งที่ทางฝ่ายซาอุได้ส่งเจ้าชายบันดัร บินซุลตอน ไปเจรจากับปูติน ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวในสงครามซีเรีย แบบเล่นบทดี คู่บทร้าย โดยเสนอว่า ถ้ารัสเซีย ไม่เข้าไปยุ่งในเรื่องซีเรีย จะมีการร่วมมือกันระหว่างซาอุ และรัสเซียในการกดราคาน้ำมัน แต่ถ้าไม่ฟังกันดีๆ กลุ่มเชเชน อาจจะโจมตี โอลิมปิค ในช่วงฤดูหนาวนี้ก็เป็นได้ ปู ตินยั่วเจ้าชายบันดาร์มาก เลือดขึ้นใบหน้าสีซีดๆของเขาจนเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อได้ยินคำขู่อย่างนี้ จะมาลูบคมอดีตหัวหน้าKGBอย่างเขาได้อย่างไร
ปู ตินตอบไปว่า รัสเซียไม่มีอะไรที่จะต้องเกรงกลัวใครในโลกหล้าใบนี้ และเราจะไม่เปลี่ยนจุดยืนในการให้การสนับสนุนซีเรีย ปูตินบอกว่ารัสเซียสนับสนุน Assad ดีกว่าสนุบสนุนพวกกินตับคน liver eaters เพราะมีข่าว
เผยแพร่ พวกกบฏฆ่าคนในซีเรีย แล้วเอาตับออกมากินกัน
การประชุมลับสุดยอดระหว่างเจ้าชายบันดาร์กับปูตินกลายเป็นเรื่องไม่ลับ ทันที เพราะรัสเซียปล่อยข่าวออกมาทางสื่อตัวเองไม่นานคล้อยหลัง แล้วสื่ออื่นๆรวมทั้งThe Telegraphของอังกฤษนำไปเสนอต่อ พูด ง่ายๆ ปูตินหักหน้าเจ้าชายบันดาร์โดยไม่เกรงใจ ปล่อยข่าวประชุมลับออกมาเลย เพราะไปขู่เรื่องการก่อการร้ายโอลิมปิคฤดูหนาวของรัสเซีย ตอน นี้ จึงถือเป็นเวลาที่เหมาะเจาะ ในการที่จะให้บทเรียนกับรัสเซียเสียบ้าง เพราะจากคำกล่าว ของขบวนการเหล่านี้ “เราจะล้างแค้นแทนพี่น้องของเราในซีเรีย ก็ชี้ชัดแล้วว่า อาจมีการเคลื่อนไหว เพื่อตอบโต้รัสเซีย เร็วๆนี้
เดมิทรี่ ยาโรวิช ถูกแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม หลังจากที่ได้นำเสนอ รัฐบาลใหม่ของกลุ่มผู้ประท้วงยูเครน ในช่วงแรก นายคนนี้ ได้ขอความช่วยเหลือจาก นาย ดาโก้ อัมรูฟ ผู้บัญชาการอัลกออิดะฮ ทางภาคเหนือของกัฟกอซ และส่งเทียบเชิญให้มาทำหน้าที่ช่วยสร้างความมั่นคงให้กับรัฐบาลใหม่ และทำสงครามกับรัสเซีย อีกด้วย
ทางด้านเว็บไซต์เครือข่ายของผู้ก่อการร้าย อิมารอต อิสลามีย์ เกากอซ ก็ได้ออกแถลงการณ์ว่า พวกเขาให้สัญญาเรียบร้อยแล้ว ว่า แล้วจะเปลี่ยนให้แผ่นดินนี้ กลายเป็นส่วนหนึ่ง ของระบบคอลีฟะฮอิสลาม เร็วๆนี้ แม้ว่า สงครามยังไม่เกิดขึ้น และการญิฮาดในที่อื่นๆยังไม่เริ่มต้น กลุ่มตักฟีรีย์กัฟกอซ กลุ่มตักฟีรีย์ เหล่านี้ จะพิจารณาดูว่า ที่ไหนสมควรที่จะหยั่งเท้าเข้าไป นั่นคือ ถ้าแผ่นดินไหนตกอยู่ในอันตรายในสายตาพวกเขา ขบวนการเหล่านี้จะไม่รอช้าที่จะเร่งรุดไปเยือนแผ่นดินนั้นก่อนเป็นอันดับแรก
แต่ทางฝ่าย ญับฮาตุนนุศเราะฮ ก็ไม่ยอมให้ พวกพ้องเดินทางไปเร็วนักเพราะกองกำลังทางนี้ กำลังขาดแคลนคนอยู่มาก จึงได้ประวิงเวลา โดยเสนอว่า พวกคุณไม่ควรรีบร้อนจะเดินทางไปยูเครน อยู่กับเราก่อนจะดีว่า แม้ว่า การปฏิบัติการเหล่านี้ จะมีกลุ่มที่ปฏิบัติการเพียงไม่กี่คน แต่สื่อบางสำนัก ก็แสดงความเห็นว่า เหตุผลหลัก ก็เพราะซาอุเริ่มสงสัย ในการเปลี่ยนทิศทางของกลุ่มตักฟีรีย์กับยุโรป
ถึงแม้ว่าคนเหล่านี้จะพลาดท่ากับรัสเซียหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังกระหายที่จะล้างแค้นรัสเซีย ในอีกด้านหนึ่งสหรัฐ รู้ดีว่า กลุ่มก่อการร้ายตักฟีรีย์เหล่านี้ มีส่วนเกี่ยววข้องกับทางยุโรปอยู่ไม่น้อย พวกเขาจึงไม่ต้องการให้มิตรของกลุ่มเหล่านี้หลงเหลืออยู่ จึงถือเป็นโอกาศเหมาะที่จะยืมมือรัสเซียทำลายคนเหล่านี้เสียในทางอ้อม
เช่นเดียวกัน อีกเหตุผลหนึ่ง เพราะยุโรป ได้วางจุดยืนในการเผชิญหน้า รัสเซีย แต่พวกเขาก็ต้องพึ่งพาก๊าซจากรัสเซีย พวกเขากลัวกว่า จะเกิดสงคราม ในเขตทะเลดำ และจะทำให้ตักฟีรีย์เหล่านี้ หลั่งไหลเข้าสู่ยุโรปในอนาคต ตรงนี้เองทางสหหภาพ ก็ต้องหนักใจ โต้เถียงกันว่าจะเอายังไงดี จะทำทำตามข้อเรียกร้องของรัสเซีย หรือจะกันรัสเซียออกไปจากเวทีเจรจาให้พ้นทาง
ขณะ เดียวกัน แม้ว่า จะมีการ จัดระบบเพื่อเตรียมการส่งกลุ่มตักฟีรีย์ จากซีเรีย มาสู่ไครเมียร แต่ก็ยังไม่สามารถกระทำได้อย่างเต็มรูปแบบ แต่ก็มีกลุ่มตักฟีรีย์เล็กๆบางกลุ่ม ที่เริ่มเดินทางแล้ว มีการเผยแพร่รูปถ่ายของคนเหล่านี้ลงในอินเตอร์เน็ต อับเดตมาให้เห็นกันเรื่อยๆ
สถานการณ์ในยูเครนจะเป็นเช่นไร ก็คงต้องติดตามกันต่อไป