tasnimnews – แหล่งข่าวอาหรับเปิดเผยข้อมูล แผนการที่น่ากลัวและอันตรายของหน่วยสืบราชการลับซาอุดีอาระเบียเพื่อสร้างความไม่เสถียรและความไม่มั่นคงให้เกิดขึ้นในเลบานอน
ข้อมูลข่าวกรองจากบางหน่วยงานในต่างประเทศที่ได้รั่วไหลออกมาได้นำไปสู่ข้อสรุปโดยรวมว่า หน่วยสืบราชการลับซาอุดีอาระเบียได้มีคำสั่งให้ ซาอัด อัล-ฮาริรี (Saad Al-Hariri ) ผู้นำพรรคผสมต่อต้านซีเรียออกมาเคลื่อนไหวก่อความโกลาหลและความสับสนวุ่นวายเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของขบวนการนักต่อสู้ปกป้องมาตุภูมิแห่งเลบานอนในภาคใต้ของประเทศและการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธในซีเรียโดยเฉพาะกลุ่มก่อการร้ายไอซิส อีกทั้งเป็นการดึงกลุ่มขบวนการปกป้องมาตุภูมิให้หันกลับมาสนใจสงครามกลางเมืองแทน เหมือนกับสงครามวันที่ 7 พฤษภาคม เพื่อเป็นการปูทางและเป็นข้ออ้างสำหรับซาอุดิอาระเบียในการแทรกแซงทางทหารในเลบานอน หรือที่เรียกว่าชาติพันธมิตรอาหรับยิวไซออนิสต์ และคำร้องขอของนายกรัฐมนตรีเลบานอนที่มีแนวเดียวกันกับซาอุดิอาระเบีย
ตามรายงาน Panorama Middle East การตัดสินใจของซาอุดิอาระเบียในการระงับความช่วยเหลือตามที่ได้สัญญาไว้กับกองทัพเลบานอนโดยผ่านฝรั่งเศสนั้น เป็นสัญลักษณ์แห่งความสับสนวุ่นวายและเป็นจุดเริ่มต้นของแผนการร้ายของซาอุดิอาระเบียที่มีต่อเลบานอน โดยกล่าวว่ากลุ่มฮิซบุลเลาะฮ์และกลุ่มของ มิเชล โอว์น (Michel Aoun) เป็นต้นเหตุของการระงับความช่วยเหลือด้านอาวุธในการครั้งนี้ สิ่งนี้นำไปสู่การร้องขอเพื่อเปิดการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อประเมินนโยบายต่างประเทศของเลบานอน ตามแผนการที่ได้เตรียมการไว้ก่อนหน้านี้ระหว่างคณะรัฐมนตรีในสังกัดกลุ่ม 14 มีนากับนอมินีของซาอุดีอาระเบียตรงกันซึ่งการประชุมครั้งนี้จะไม่บรรลุผลใดๆ จากนั้นพวกเขาก็จะลาออกและนำมาซึ่งการยุบรัฐบาลในที่สุด และฝ่ายผู้สนับสนุนของตนก็จะมาเรียกร้องประท้วงบนท้องถนน และจากเหตุการณ์นี้เองก็จะลามไปสู่ความโกลาหลและความสับสนวุ่นวายในสังคมแหละนี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของพายุทางการเมืองที่จะพัดเข้ามาในภูมิภาคและเลบานอน
อีกหนึ่งข้อบ่งชี้ถึงแผนการร้ายครั้งนี้ก็คือว่า ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ บาห์เรน คูเวต ยูเออี และบางประเทศในตะวันตกได้เรียกร้องให้พลเมืองของตนออกจากเลบานอนในทันทีและเตือนอย่าได้เดินทางไปยังประเทศที่นี้ ซึ่งมีเหตุผลดังต่อไปนี้
หลังจากที่ซาอุดีอาระเบียและตุรกีล้มเหลวที่จะเข้าไปแทรกแซงภาคพื้นดินโดยตรงในซีเรีย พวกเขาชาติมหาอำนาจ และผู้ให้การสนับสนุนยิวไซออนิสต์ ได้ย้ายไปพึ่งแผนการสำรอง ที่เรียกว่าแผน “B” โดยมีจุดประสงค์หลังจากสร้างความวุ่นวายและโกลาหล ให้เกิดการประท้วงอย่างต่อเนื่องและกว้างขวาง และก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวของกลุ่มติดอาวุธ ความแตกแยก ความขัดแย้งในพรรคและชนเผ่า และจะนำมาซึ่งการจุดชนวนไฟแห่งการปลุกระดมวิกฤติที่ร้ายแรงในภูมิภาค เพื่อแบ่งย่อยและย่อยสลายประเทศบนพื้นฐานของเชื้อชาติและเผ่าพันธุ์ ซึ่งเป็นการปิดล้อมและกดดันขบวนการปกป้องมาตุภูมิในเลบานอนภายในตัว และสร้างเมืองตริโปลีเลบานอน (เมืองของ Saad Al- Hariri) เป็นฐานที่มั่นและศูนย์กลางการปกครองของไอซิสขึ้นมา โดยที่สร้างสนามรบอื่น ๆ ขึ้นมาในการต่อสู้กับซีเรียผ่านชายแดนทางเหนือของเลบานอนและเป็นสนามรบที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น และเพื่อเปิดสนามทางภาคเหนือสำหรับยิวไซออนิสต์ ในการเข้ามาบุกโจมตีและทำลายกลุ่มมุกอวิมัตต่อต้านยิวไซออนิสต์
ผู้วางแผนดังกล่าวเชื่อว่าพวกเขาสามารถบ่อนทำลายและบั่นทอนอำนาจของกลุ่มมุกอวิมัต ด้วยการทำให้พวกเขาสาละวนอยู่กับสนามรบภายในและภายนอก ส่วนสนามรบภายในซีเรียนั้นพวกเขาสาละวนอยู่กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส และชัยชนะของกองทัพซีเรียในการปลดปล่อยและยึดเมืองอเลปโป นุบัลและอัลซะห์รออ์จากกลุ่มก่อการ้ายไอซิสนั้นต้องล้มเหลว และสิ่งนี้ถือเป็นโอกาสครั้งใหม่ในการเสริมกองกำลัง
นอกจากนี้เป็นไปได้สูงที่หน่วยข่าวกรองตะวันตกจะเปิดไฟเขียวให้กับกลุ่มก่อการร้ายรับจ้างของตนโจมตีเมือง อัลโฟอา และกัฟรียา เพื่อเบี่ยงความสนใจของกองทัพซีเรียในการบุกโจมตีกลุ่มก่อการร้ายไอซิส และความมุ่งมั่นของกองทัพในการปลดปล่อยเขตชานเมืองอาเลปโปซีเรียและทุกพื้นที่จากการยึดครองของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส