หากคุณติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้าย นามว่า “ISIS” คุณจะพบว่า โดยทั่วไปแล้ว ข่าวคราว หรือ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ กลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้ มักจะเป็น เรื่อง การรุกคืบ ล่าถอย หรือ อาชญากรรมต่างๆ ที่กลุ่ม IS ได้กระทำ ทว่า ในบทความนี้ เราจะนำเสนอบทวิเคราะห์ กลุ่มก่อการร้าย IS ในมุมของกลุ่มนักจิตวิทยา โดย ดร.ซาเมรันด์ ซะลีมีย์
IS ไม่ใช่ปรากฎการณ์ใหม่ ทว่า ปัจจัยของกลุ่มนี้ ได้ทำให้พวกเขา แตกต่างไปจาก กลุ่มอื่นๆ ที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น การที่ผู้ชม ได้เห็น วิดิโอที่ กลุ่ม IS เผยแพร่ พวกเขามีเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต และใช้เว็บไซต์เหล่านี้ เป็นสื่อ ในการเผยแพร่ ภาพ เสียง และ วิดิโอ เผยแพร่ทั่วโลก แน่นอนว่า พวกเขา เลือกโจมตีจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ และ แหล่งน้ำมัน ซึ่ง IS ก็เลือกโจมตี และตั้งภารกิจ สถานที่เหล่านี้ เป็นที่แรก แต่สิ่งที่เขย่าโลกมากที่สุด คือ พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ เมื่อสามารถ เข้ายึดพื้นที่หนึ่งได้สำเร็จ วิดิโอ ที่ถ่ายทำ กลางตลาด ,บนรถ หรือ ,กลางเนินทะเลทราย ถูกเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก ในวิดิโอ มีชื่อของบุคคลที่ร่วมมือกับ รัฐบาล หรือ บุคคลที่ไม่ยอมรับแนวคิดของ IS ถูกประหารชีวิต ด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ โดยเริ่มต้น พวกเขาจะนำชื่อ เชลย มาเทียบในบัญชี หากตรงกับ คนในบัญชี หรือ พวกเขา จะประหารโดยไม่มีการตัดสิน พิพากษา คดีความในทันที
วิดิโอเหล่านี้ ถูกเผยแพร่ ส่งออกไปทั่วโลก ทำให้หลายๆคนตั้งคำถามว่า เรื่องแบบนี้ มีสอนอยู่ในศาสนาด้วยหรือ ? มันมีพื้นฐานทางศาสนา ที่อนุญาตให้ ประหารชีวิตคนๆหนึ่ง แล้วออกมาแสดงความยินดี โดยไม่ต้องทำการสอบสวน หรือ ว่าคด้วยหรือ ?
แน่นอนว่า การกระทำแบบนี้ ไม่มีปรากฎอยู่ใน ระบบการปกครองของศาสดา(ศ) ที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน ประเด็นก็คือ สมาชิกกลุ่มนี้ ถือว่า คนอื่น นอกจาก พวกเขา ไม่ใช่คนมีศาสนา ไม่ใช่คนเคร่งศาสนา ดังนั้น พวกเขาจึงเดาไปว่า ความรุนแรงทุกรูปแบบ และการฆ่า คือ การรักษาแนวคิดทางศาสนา ทั้งๆที่มุสลิมทั่วโลก หรือ มุสลิมในระดับ ผู้รู้ ต่างก็ไม่ยอมรับ และ ปฏิเสธสิ่งนี้
“เมื่อพิจาณา ถึง พฤติกรรม และวิธีการปฏิบัติของกลุ่ม IS คุณจะพบว่า สมาชิกกลุ่มนี้ ส่วนมาก จะเป็นบุคคลที่ไม่ปกติ พวกเขา ไม่มีความอ่อนโยน พวกเขา คือ บุคคลประเภทเดียวกับ คนที่เห็นการฆ่าตกรรม เป็นเรื่องทั่วไป คือ คนที่สามารถดูการทรมาน มนุษย์ หรือ สัตว์ได้ ในตอนกินอาหารมื้อเย็น พวกเขา เคยชิน กับ การฆ่า และมองเห็นการทรมานมนุษย์เป็นความบันเทิง”
คำว่า เทเรอริสม์ (Terrorism) มาจากคำว่า Terror ซึ่งหมายถึง การสร้างความหวาดกลัว หรือ การใช้ความรุนแรง ในการทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง นั่นคือ ความหมายในทางภาษา แต่สำหรับ เทโรริสม์ เมื่อพิจารณาทางด้านจิตวิทยาแล้ว IS ต้องการให้เกิดอะไรขึ้นในสังคม ? และเป้าหมายของพวกเขาคืออะไร ?
สิ่งที่พวกเขาต้องการให้เกิดขึ้นในสังคม ในเชิงจิตวิทยา
ประการที่หนึ่ง : คือ การสร้างแรงกดดัน โดยใช้ ประชาชน และพลเรือน เป็นเครื่องมือ จนกว่า พวกเขาจะได้รับในสิ่งที่ต้องการจากรัฐบาลต่างๆ
ประการที่สอง : คือ การสร้างผลกระทบทางจิตวทยา ในจิตใจของประชาชน เพื่อให้ประชาชน รู้สึก ไม่ปลอดภัย ความผิดหวัง หวาดกลัว แตกตื่น ที่สำคัญก็คือ ความรู้สึกเหล่านี้ จะเป็นเหตุ หรือ ตัวผลักดัน ทำให้เกิดความสับสน ,ความไม่มั่นคง ความผิดหวังอย่างหนักหน่วงในจิตใจของมนุษย์ สาเหตุที่ IS สามารทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย มันเป็นเรื่องชัดเจน เพราะคนที่จะทำในสิ่งที่โหดร้ายและป่าเถื่อน เช่นนี้ได้ คือ คนที่ไม่คิดว่า การกระทำของตัวเอง ป่าเถื่อน ไร้เมตตา หรือ ไร้มนุษยธรรม และพวกเขาย่อมคิดว่า พวกเขามีสิทธิที่จะทำแบบนี้
ประการที่สาม : สร้างความหวาดกลัว เพื่อปกครอง สูตรดั้งเดิมที่มนุษย์ใช้เป็น วิญญาณในการควบคุมมนุษย์ด้วยกัน คือ การใช้ความรัก ในการปกครอง การใช้ความยุติธรรมในการปกครอง หรือ ใช้ความกลัวปกครองมนนุษย์ แน่นอนว่า การปกครองมนุษย์ต้องใช้แต่ละอย่างให้สมดุลกัน แต่สิ่งที่ ISIS กระทำ คือ การใช้ความกลัวแบบสุดโต่ง เพื่อ ปกครองมนุษย์ ภายใต้อาณัติของตน
และนั่นคือ สงครามจิตวิทยาของ ISIS ในหลายๆปีที่ผ่านมา มีการทำวิจัย บุคคลที่มีพฤติกรรมนิยมความรุนแรง ซึ่งหนึ่งใน งานวิจัยที่สำคัญที่สุด เป็นของดร. วากิดี โลซ่า ในมหาวิทยาลัยแคนาดา ซึ่งผลการวิจัยชี้ว่า ในโลกตะวันตก บุคคลที่เข้าร่วมกับ IS มักเป็นบุคคล ที่มีอายุ ระหว่าง 18 – 22 ปี ซึ่งส่วนมากจะมาจาก ครอบครัวที่มีฐานะชั้นปานกลาง และเป็นคนที่มีการศึกษา มีอาชีพ การงาน และมี และมีใบปริญญามหาวิทยาลัย
ทว่า ในปี 1999 บุคคลที่เข้าร่วม กับ กลุ่มก่อการร้าย กลุ่มอื่นๆ มักจะเป็น บุคคลที่ อยู่ในฐานะว่างงาน ไม่มีการศึกษา และปลีกแยกจากสังคม
คนประเภทไหน ที่ถูกดึงเข้ากลุ่ม ที่มีลักษณะเหมือน IS
ในประเด็นนี้ ไม่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์อย่างตายตัว ทว่า ผลการวิเคราะห์บางส่วน บ่งชี้ว่า สมาชิกบางส่วน เป็นคนที่มีปัญหาทางด้านจิตใจในด้านบุคลิกภาพ และบางส่วนเป็นคนมีปัญหาทางจิต ทว่า ส่วนสำคัญที่สุดคือ บุคลิกภาพของสมาชิกเหล่านี้ บ่งชี้ว่า พวกเขา เติบโตมาในครอบครัว หรือ ชุมชน ที่ ไม่เห็นคุณค่าของตนเอง หรือ เป็นชุมชนที่เต็มไปด้วยการดูถูก ดูแคลน
บุคคลเหล่านี้ ไม่ได้รู้สึกเป็นพลเรือนมาตรฐานแรก และบุคลิกภาพอีกด้านหนึ่งที่มักพบเห็นตัวของสมาชิกกลุ่ม IS คือ พวกเขาไม่รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง เชื่อถือคำพูดของนาย มากกว่า ความคิด หรือ สติปัญญาของตัวเอง ไม่คิดเอง พวกเขาสามารถเชื่อถือต่อตนเองได้ โดยอาศัยคำสั่งของผู้อื่น ซึ่งนั่นเป็นแนวคิดหนึ่งเพื่อป้องกันตัวเอง ไม่ให้มีใครคิดต่อต้าน ในอีกด้านหนึ่ง สมาชิก กลุ่มนี้ เป็นบุคคลที่ มองโลกในแง่ร้าย ตัวอย่างอยู่ในกรณีเดียวกัน กับ เด็กที่ถูกควบคุมที่พ่อที่มีนิสัยรุนแรง สรุปคือ ความเห็นของนักวิจัยกลุ่มแรก บุคคลที่จะเข้าร่วมไอซิซ คือ คนที่ มีปัญหาทางจิต หรือ มีปัญหาทางสังคม
นักวิจัยอีกกลุ่มหนึ่ง ให้ความเห็น ว่า สมาชิก IS เป็นคนปกติทั่วไป ไม่ได้ผิดปกติทางจิตใจ หรือ แปลกแยกจากสังคมแต่อย่างใด แต่เพราะ ความบ้าบิ่น และความต้องการปกป้องอุดมการณ์ของตน จึงทำให้พวกเขา ทำทุกสิ่งทุกอย่าง ที่แม้จะขัดกับธรรมชาติ ก็ตาม พวกเขารู้สึกว่า การเสียสละชีวิตของพวกเขา เป็นสิ่งมีค่า และแรงจูงใจในการปกป้อง จึงทำให้ พวกเขากลายเป็นไอซิซ ซึ่งบางส่วน ก็ยอมรับว่า แรงจูงใจแรกที่ทำให้เข้าร่วมกับไอซิซ คือ ความต้องการที่จะปกป้อง ศาสนา และ ผู้คนบริสุทธิ์ และต่อมา ก็พบว่า ถูกหลอกให้เชื่อเช่นนั้น
ดร. ซาเมรันด์ ให้ความเห็นว่า เราสามารถพบเห็นคนทั้งสองกลุ่มได้ในสมาชิกของกลุ่ม IS และเราสามารถแยกแยะ คนที่มีจิตใจปกติ ออกจากคนที่มีปัญหา ทางจิต ได้จากพฤติกรรมของพวกเขา แน่นอนคนที่ เป็นผู้เสียสละ และ เชิดชูคุณธรรม ย่อมไม่พร้อมที่ ตัดสินใจสังหารใคร โดยไม่ใต่ส่วน ข้างถนน เหมือนชีวิตไร้ค่าอย่างแน่นอน แต่น่าเศร้าที่ ปฏิบัติการของ IS เกือบทั้งหมด มักบ่งชี้ว่า สมาชิกส่วนมาก เป็นบุคคลมีปัญหาทางจิต และไม่ปกติ และความคิดของพวกเขาไร้พื้นที่ของความเมตตา ในสายตาของ IS พวกเขา เห็นแค่ สีดำ กับสีขาว อะไรทีถูกจัดให้เป็นสีดำ แม้ว่า จะเป็นเพียงเด็ก พวกเขาก็จะถือว่า เป็นสีดำ และอะไรที่ถูกใส่ในฝากสีขาว แม้ว่า จะเป็นเรื่องชั่วช้าเพียงใด พวกเขาก็จะถือว่า นั่นคือ สีขาว
ท้ายที่สุด สิ่งทีควรเน้นย้ำคือ การสร้าง ISIS หรือ กลุ่มที่มีลักษณะเหมือนกันนี้ ด้านหนึ่งเป็นผลพวงจาก การดูถูก และความรุนแรง ที่มาจาก ครอบครัว หรือ สังคม ดังนั้น ไม่ว่าประเทศใด ที่ กลุ่มอย่าง IS ยังไม่ปรากฎตัวขึ้น สิ่งหนึ่งที่พวกเขา ควรคำนึงถึง คือ สิทธิของพลเรือน และการให้เกียรติประชาชน และแนวคิดของพวกเขา และจำเป็นที่ต้องยับยั้ง ไม่ให้มีการเผยแพร่แนวคิด นิยมความรุนแรง
อ้างอิง
http://fa.abna24.com/cultural/archive/2014/08/25/633422/story.html