jomhourieslami – แม้ว่าสายข่าวหลักเกี่ยวกับเหตุการณ์ 15 กรกฏคามในตุรกีถือว่าเป็นการก่อรัฐประหาร แต่การวิเคราะห์อย่างจริงจังในเรื่องนี้ซึ่งมีแฟนคลับที่ออกมาเห็นด้วยนั้น คือสิ่งที่มันผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงในเมืองอังการาและกรุงอิสตันบูลนั้นคือฉากการแสดงรัฐประหาร ไม่ใช่เป็นการรัฐประหารอย่างแท้จริง และสิ่งที่น่าสนใจคือ หนังสือพิมพ์วอชิงตันไทมส์ ได้รายงานเมื่อสามเดือนที่ผ่านมาและทำนายถึงการจัดฉากรัฐประหารของเออร์โดกาน
หากไม่คำนึงถึงความเป็นไปได้ของทั้งสองทฤษฎีว่าข้อไหนที่ถูกต้องแล้ว แต่สิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือในวันนี้เออร์โดกานได้ใช้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการแก้ปัญหาและตอบสนองเป้าหมายของตนเองจากเหตุการณ์ 15 กรกฎาคม และกำลังบรรลุเป้าหมายตนอย่างรวดความเร็ว
ตามทฤษฎีแรก เออร์โดกานจะใช้ประโยชน์จากโอกาสที่มาถึงเพื่อก้าวบรรลุเป้าหมายของตน และตามทฤษฎีที่สอง เขาจะใช้โอกาสที่สร้างขึ้นมาเอง ในการพยายามที่จะอำพรางการกระทำของตนเพื่อบรรลุซึ่งเป้าหมายของตน
เป้าหมายที่เออร์โดกานตั้งใจเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการและความพยายามในการแก้ไขอยู่ในขณะนี้ มีดังนี้
1.การกำจัดเจ้าหน้าที่กองทัพ ตุลาการและหน่วยงานอื่น ๆจำนวนมากที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามของรัฐบาลเออร์โดกาน ซึ่งในวันนี้มีผู้พิพากษาเกือบสามพันคนถูกไล่ออกโดยคำสั่งของเออร์โดกาน หรือกำลังรอการพิจารณาคดีและมีการลาออก มีทหารมากกว่าสามพันนายทหารถูกไล่ออกจากกองทัพ หรือถูกกักกัน อีกทั้งมีบุคคลในหน่วยงานอื่นๆอีกจำนวนมากที่ตกอยู่ในการควบคุมตัว และก็ยังมีการจับกุมตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเออร์โดกานคาดการณ์ว่า การกำจัดและการล้างบางกองทัพครั้งนี้จะสามารถให้เขารอดพ้นและได้รับความปลอดภัยจากอันตรายที่อาจจะเกิดจากฝ่ายค้านและฝ่ายต่อต้าน
2.เออร์โดกาน ยังกล่าวหาโดยไม่หลักฐานชัดเจนว่า Fethullah Gulen พันธมิตรในอดีตและคู่แข่งในปัจจุบันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการรัฐประหารครั้งนี้ ซึ่งหมายความว่านี่คือการดำเนินการตามแผนของเออร์โดกานเพื่อกำจัด fethullah Gulenให้พ้นทาง และวันนี้คือก็เป็นโอกาสที่ดีและเหมาะสมอย่างยิ่งในการดำเนินตามแผนดังกล่าว
3.ประชาชนชาวตุรกีมีจิตวิญญาณอันแข็งแกร่งในการต่อต้านยิวไซออนิสต์ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนตุรกีไม่พอใจที่เออร์โดกานฟื้นฟูสัมพันธ์อย่างเป็นทางการอีกครั้งกับยิวไซออนิสต์ ซึ่งเออร์โดกานก็ทราบดีถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้จึงสร้างเหตุการณ์ 15 กรกฎาคมขึ้นมาเพื่อปกปิดความผิดพลาดของตนที่ได้กระทำในสิ่งที่ขัดแย้งกับความต้องการของประชาชน อีกทั้งเป็นการระดมมวลชนในการสนับสนุนเขา ซึ่งมาตรการดังกล่าวแม้ว่าจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการในระยะยาวได้แต่ก็สามารถใช้ประโยชน์ในห้วงเวลาสั้นๆได้เป็นอย่างดี
4.เออร์โดกานต้องการเสียงสนับสนุนจากประชาชนเพื่อทบทวนความสัมพันธ์กับรัสเซียและซีเรีย ซึ่งในมุมมองของเขาแล้ว การสนับสนุนครั้งนี้สามารถได้มาจากการแสดงตนให้เป็นผู้ที่ถูกกดขี่ การรัฐประหารวันที่ 15 กรกฎาคม ไม่ว่าจะเป็นการรัฐประหารจริงหรือการจัดฉาก ล้วนแล้วสามารถสร้างกระแสผู้ถูกกดขี่ให้กับเออร์โดกานในสายตาประชาคมโลกและสามารถตอบสนองเป้าหมายของตนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเป็นการช่วยเหลือให้เขาเปลี่ยนนโยบายของเขาที่มีต่อรัสเซียและซีเรียและประเทศอื่น ๆ
5.นับเป็นเวลานานมาแล้วที่เออร์โดกานพยายามที่จะขยายอำนาจในการเป็นประธานาธิบดี โดยมีเป้าหมายเพื่อไปถึงการเป็นจักรพรรดิแห่ง “จักรวรรดิออตาเตริก์ยุคใหม่” แม้กระทั่งเพื่อนสนิทของเขาก็ตกเป็นเหยื่อเพื่อการนี้ ตอนนี้เขาคิดว่าด้วยการบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามจะสามารถโปรยเส้นทางที่เรียบง่ายในการก้าวไปสู่ตำแหน่งที่คาดหวังและจินตนาการไว้ และด้วยการแก้ปัญหาเหล่านี้สามารถก้าวถึงความฝันของตนให้เป็นจริง
6.ความผิดพลาดที่น่าอับอายของเออร์โดกานคือการจุดไฟสงครามในซีเรีย การแทรกแซงทางทหารในอิรักและการยืนเคียงข้างกับพันธมิตรซาอุฯในการสนับสนุนผู้ก่อการร้ายตักฟีรี ( Takfiri ) และนอกเหนือจากที่เขาถูกตราหน้าว่าเป็นผู้คลังไคล้สงคราม จอมแทรกแซงและผู้สนับสนุนการก่อการร้ายแล้ว สถานการณ์ภายในประเทศตุรกีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจและความปลอดภัยยังคงอยู่ในภาวะที่สั่นคลอนอย่างรุนแรง ดังนั้นเออร์โดกานจึงต้องการที่จะใช้โอกาสนี้เป็นข้ออ้างให้กับประชาชน และโยนความผิดให้กับผู้อื่นเพื่อให้ตนหลุดพ้นจากข้อครหาและการถูกซักถาม
เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เออร์โดกานตั้งใจที่จะใช้การ “รัฐประหารเยียวยา” เป็นทางผ่านเพื่อบรรลุเป้าหมายแห่งการแผ่อำนาจตน แต่เนื่องจากไม่มีผู้ปกครองคนใดที่สามารถบรรลุเป้าหมายของตนได้หากปราศจากความซื่อสัตย์กับประชาชนและเจริญรอยตามวิถีแห่งสัจธรรมและยุติธรรม และแน่นอนยิ่งเออร์โดกานก็ไม่สามารถก้าวไปถึงความฝันของตนได้ การปรากฏตัวของประชาชนตุรกีในเมืองต่างๆมิได้หมายความว่าประชาชนนิยมชื่นชอบเออร์โดกานและพรรค AKP เสมอไป ประชาชนชาวตุรกียังคงมีความทรงจำอันขมขื่นที่ต่อกองทัพตุรกี ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงออกมายืนหยัดและต่อต้านการแทรกแซงทางทหาร และประชาชนเหล่านี้แหละที่ไม่พึงพอใจสักเท่าไหร่กับเออร์โดกาน และเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมก็จะออกห่างจากเออร์โดกาน ซึ่งในอนาคตอันใกล้จะมีความชัดเจนว่า “รัฐประหารเยียวยา” ไม่อาจแก้ปัญหาได้