farsnews – วอชิงตันโพสต์ เขียนว่า สืบเนื่องจากที่ฮิซบุลเลาะฮ์มีอาวุธที่ทันสมัยไว้ในครอบครอง เช่นขีปนาวุธต่อต้านรถถัง “Kornet” และจรวดพิสัยกลางหลายพันลูกจึงเป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอล
วอชิงตันโพสต์ อเมริกา ได้เขียนรายงานในหัวข้อ “ศักยภาพด้านกองกำลังทหารของฮิซบุลเลาะฮ์ในเลบานอน ” ว่า ในวันนี้ฮิซบุลเลาะฮ์ได้กลายเป็นกองกำลังที่มีความแข็งแกร่งในภูมิภาค และยิ่งมีความแข็งแกร่งมากขึ้นหลังจากที่กองกำลังนับพันคนที่เข้าร่วมสงครามกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในซีเรีย เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนรัฐบาลบัชชาร์ อะซาด
ในรายงานชิ้นนี้ เผยว่า กองกำลังฮิซบุลเลาะฮ์ได้รับการฝึกฝนโดยผู้บัญชาการทหารของอิหร่าน และฮิซบุลเลาะฮ์ยังมีอาวุธที่ทันสมัยไว้ในครอบครอง เช่นขีปนาวุธต่อต้านรถถัง “Kornet” รุ่นที่สี่ และจรวดพิสัยกลางหลายพันลูก มีโดรน ปืนใหญ่และรถถังอีกจำนวนมาก
อีเลียส ฮันนา นายพลผู้ปลดเกษียณของเลบานอนและอาจารย์ของมหาวิทยาลัยอเมริกาในเบรุต กล่าวว่า: ” ในปี 2006 ฮิซบุลเลาะฮ์เป็นเพียงกองกำลังอาสาแต่ในวันนี้กลายเป็นกองทัพที่มีความคลาสสิก ”
หนังสือพิมพ์ดังกล่าวยังได้ชี้ถึงการปะทะและการทำสงครามระหว่างฮิซบุลเลาะฮ์กับอิสราเอล ว่า เมื่อสิบปีก่อน ฮิซบุลเลาะฮ์มีจรวดพิสัยใกล้แค่ 4000 ลูกที่สามารถยิงใส่อิสราเอล ทว่าในวันนี้ มีจรวดมากถึง 100,000 ลูก และหากสงครามเกิดขึ้นเมื่อใดก็สามารถที่จะกำหนดเป้าหมายทุกพื้นที่ในอิสราเอล
ผู้บัญชาการระดับสูงของอิสราเอลกล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ฮิซบุลเลาะฮ์เป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวที่สุดสำหรับอิสราเอล หากเปรียบเทียบจากสิบปีก่อน และภัยคุกคามของฮะมาสที่มีต่ออิสราเอลนั้น ถือว่าไม่มีความสำคัญใดๆหากเทียบกับฮิซบุลเลาะฮ์
นายพล “Ayznkvt” หัวหน้าเสนาธิการทหารอิสราเอล ได้กล่าวเมื่อต้นปีนี้ว่า เนื่องจากการดำเนินการโครงการนิวเคลียร์อิหร่านต้องล่าช้าลงหลังบรรลุข้อตกลง ดังนั้นฮิซบุลเลาะฮ์ จึงเป็น“ศัตรูตัวหลัก”ของอิสราเอล
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอล ได้กล่าวว่า หมู่บ้านทางตอนใต้เลบานอนนับสิบแห่งกลายเป็นฐานทัพลับของฮิซบุลเลาะฮ์ และเป็นฐานในการยิงขีปนาวุธ ซึ่งอาวุธต่างๆเหล่านี้จะใช้ระบบทางไกลในการควบคุม
หนึ่งในผู้บัญชาการพลร่มหน่วยจู่โจมอิสราเอลซึ่งได้เข้าร่วมในสงครามปี 2006 กับฮิซบุลเลาะฮ์ ได้กล่าวว่าฮิซบุลเลาะฮ์ไม่ใช่ขบวนการ กลุ่มองค์กรหรือการเคลื่อนไหวระดับรากหญ้า แต่เป็นกองทัพ ซึ่งสงครามและการต่อสู้ครั้งต่อไปจะเป็นสงครามที่ยากลำบากมากขึ้น และพวกเขาก็รู้ดีในสิ่งนี้
ในช่วงท้ายของรายงานหนังสือพิมพ์อเมริกา ได้ชี้ถึงคำพูดหนึ่งของ ไซมอน อบูฟาเฏล เป็นนักวิเคราะห์การเมืองของเลบานอน ซึ่งเขาได้ทำนายว่า ในสงครามครั้งต่อไป ฮิซบุลเลาะฮ์จะทำให้อิสราเอลได้รับความความเสียหายอย่างใหญ่หลวงทั้งความเสียหายในเมือง โรงไฟฟ้าและสนามบินของอิสราเอล
เขากล่าวเสริมว่า ขีปนาวุธของฮิซบุลเลาะฮ์ในการทำสงครามครั้งใหม่กับอิสราเอลนั้น เสมือนเป็นบทลงโทษที่น่ากลัวอย่างมาก การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการต่อสู้เพื่อกำหนดฝ่ายชนะหรือฝ่ายพ่ายแพ้ แต่เป็นสงครามที่จะเกิดการทำลายล้างทั้งสองฝ่าย
ก่อนหน้านี้สำนักข่าว “บีบีซี” ทำการวิเคราะห์ในเรื่องศักยภาพของกองกำลังฮิซบุลเลาะฮ์เลบานอน ว่า หลังจากสงครามหนึ่งเดือน ปี 2006 ระหว่างอิสราเอลกับฮิซบุลเลาะฮ์ ผ่านไป กองกำลังนี้ได้พัฒนาตนเองจึงสามารถกลายเป็นกองกำลังอาสาที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดในตะวันออกกลาง ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่ฮิซบุลเลาะฮ์สามารถเข้าไปแทรกซึมและมีอิทธิพลภายในเลบานอนเท่านั้น แต่ยังสามารถเข้าไปมีอิทธิในสงครามกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในซีเรียอีกด้วย
บีบีซี ได้ชี้ถึงการเปลี่ยนแปลทางการเมืองที่เกิดขึ้นในฮิซบุลเลาะฮ์ ว่า จากการที่ฮิซบุลเลาะฮ์เป็นพรรคหนึ่งที่มีเพาเวอร์จำกัด แต่ในวันนี้กลายเป็นพรรคที่มีความแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพทางการเมืองมากขึ้น และในปี 2008 ที่เกิดปฏิกิริยาทหาร ฮิซบุลเลาะฮ์ยังสามารถยับยั้งการโหวตในคณะรัฐมนตรีเลบานอนได้ ฮิซบุลเลาะฮ์ได้ใช้สิทธิในการวิโต้ของเขาเป็นเวลาสองปีเพื่อยับยั้งในการเลือกประธานาธิบดีที่ตนนั้นไม่เห็นชอบด้วย
รายงานดังกล่าวชี้ว่า ในคลังแสงของฮิซบุลเลาะฮ์ ในปี2006 มีจรวดและขีปนาวุธจำนวน 33,000 ลูก แต่ในวันนี้มีมากถึง 150,000 ลูก อีกทั้งมีสมาชิกในกองกำลังอีกจำนวน 20,000 กว่าคน