มีดบั่นคอบาทหลวงวัย 90 ปี แนวคิดแบบนี้ผลิตมาจากโรงงานของสำนักคิดใด ?

970
แฟ้มภาพ บาทหลวงวัย 90 ปี ผู้ตกเป็นเหยื่อของการก่อการร้าย

“เงิน”จากผู้ปกครอง ส่วน “คำวินิจฉัย” จากบรรดาอุลามาอ์  ทั้งสองเสมือนเป็นยาชูกำลังที่ทรงอิทธิพลที่สุด ในการสร้างโรงเรียนต่างๆ ทั่วโลกโดยเฉพาะในปากีสถาน อีกทั้งการสร้างมัสยิด ศูนย์วิชาการของซาอุดิอาระเบียในอเมริกาและยุโรป

มีดที่บั่นคอของบาทหลวงวัย 90  ปี  เมื่อวันที่  26   กรกฎาคม ที่ผ่านมาในโบสถ์ ในแคว้นนอร์มังดีของฝรั่งเศส   ผลิตมาจากโรงงานคำวินิจฉัย (คำฟัตวา)ในประเทศซาอุดิอาระเบีย

แม้แต่รถบรรทุกที่ไล่บดขยี้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ในเมืองนีซ์ฝรั่งเศส ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับสิบคน ก็มาจากโรงงานดังกล่าวเช่นกัน  มันเหมือนกับระเบิดและกระสุนชนิดต่างๆที่ลอบสังหารและกราดยิงผู้บริสุทธิ์นับจากเยอรมันถึงตะวันออกกลาง

บุคคลที่หนีออกจากบ้านและหันหลังให้กับชีวิตที่สุขสบายด้วยการเลือก “ที่จะก้าวเดินในความตาย”   ไม่ว่าจากอเมริกาถึงอังกฤษ จากจีนถึงเชชเนีย ก็ได้หลั่งไหลเข้าสู่ซีเรีย เพื่อเป็นทหารภายใต้ ชื่อ “รัฐอิสลาม”  ในการก่อสงครามกับผู้ปฏิเสธที่ไม่อ้างหาคำอ้างใดๆในด้านวัตถุ

เราไม่สามารถกล่าวได้ว่ามือระเบิดฆ่าตัวตายที่เดินไปมาท่ามกลางประชาชนในตรอกซอยและท้องตลาด  เพื่อส่งบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาในยุโรปหรือตะวันออกกลางเข้าสู่ความตายเพียงเพราะสนองความสุขสบายหรือใช้ชีวิตอยู่บนความสุขสบายจากทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต

ผู้ก่อการร้ายที่ใช้มีดไล่แทงผู้คนที่เดินไปมา และรู้อีกว่าหลังจากนั้นไม่นานจะตกเป็นเป้ายิงของตำรวจที่จะทำให้ตนนั้นเสียชีวิตได้  แน่นอนยิ่งในความคิดของเขาย่อมมีอะไรที่เหนือการจินตนาการของเราที่ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
ทว่ามีปัจจัยอันใดหรือที่สามารถดึงดูดบรรดาเยาวชนหนุ่มสาวทั่วทั้งโลกเข้าสู่หลุมแห่งความหายนะครั้งนี้ ?  กลุ่มที่เข่นฆ่าประชาชนในซีเรียและอิรักในแต่ละวัน หรือในอีกซีกหนึ่งของโลก หรือซีกไหนของโลก ล้วนแล้วได้ใช้อาวุธปืน ระเบิด มีด  และรถบรรทุกในการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งสิ้น แต่ถามว่าผู้ก่อการร้ายเหล่านี้เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วกลายเป็นผู้ก่อการร้ายในทันทีทันใดกระนั้นหรือ ?  หรือว่ามันเป็นกระบวน ในการล้างสมองบุคคลเหล่านี้ให้มีความคิดสุดโต่งและหัวรุนแรงเช่นนี้  ?

สำหรับการสืบหาที่มาและรากเหง้าของความคิดหัวรุนแรงตักฟีรีนี้ จะต้องถอยห่างออกจากที่เกิดเหตุสักเล็กน้อย แล้วหันไปมองยังทุ่งทะเลทรายในตะวันออกลาง คือ ประเทศ  “ซาอุดิอาระเบีย”  และในประเทศนี้ก็ต้องย้อนไปดูที่บรรดาอุลามาอ์ซาอุดิอาระเบียที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นกับผู้ปกครอง

“เงิน”จากผู้ปกครอง ส่วน “คำวินิจฉัย” จากบรรดาอุลามาอ์  ทั้งสองเสมือนเป็นยาชูกำลังที่ทรงอิทธิพลที่สุด ในการสร้างโรงเรียนต่างๆทั่วโลกโดยเฉพาะในปากีสถาน อีกทั้งการสร้างมัสยิด ศูนย์วิชาการของซาอุดิอาระเบียในอเมริกาและยุโรป

โรงเรียนในปากีสถาน คือสถานที่ศึกษาของบรรดาสมาชิกกลุ่มตอลิบันที่ได้ยึดครองอัฟกานิสถานในวันนี้อีกทั้งได้สร้างกลุ่มก่อการร้ายที่ใหญ่โตในยุดสมัยของเขา

แฟ้มภาพ มัสยิด ฟะฮัด กษัตริย์ของซาอุดิอาระเบีย ในบอสเนีย
แฟ้มภาพ มัสยิด ฟะฮัด กษัตริย์ของซาอุดิอาระเบีย ในบอสเนีย

มัสยิดและสถาบันอิสลามในตะวันตกได้รับการจัดตั้งขึ้นโดยซาอุฯที่อยู่ในลักษณะของตาข่าย ที่ทอดแห่ไปในทะเลอันกว้างใหญ่ของประเทศเหล่านี้ เพื่อการตกเบ็ดบรรดาเยาวชนในมุสลิมติดแหอันนี้ และการฝึกอบรมพวกเขาให้กลายเป็นพวกถือตนประเสริฐกว่าชนกลุ่มอื่นในบรรดาประชาชน โดยมีหลักความเชื่อว่าการเข่นฆ่าบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะทำให้โลกมีความสะอาดขึ้รและนำพาตนเองไปสู่สรวงสวรรค์ !

ในคำสอนของนักวิชาการและอุลามาอ์ซาอุดีอาระเบียนั้น ไม่เพียงแต่จะถือว่าคนต่างศาสนิกเท่านั้น ที่ทำให้โลกใบนี้สกปรก แต่ก็ยังกล่าวมุสลิมที่เห็นต่างกับพวกเขาอีกด้วย ที่จะต้องได้รับบทลงโทษถึงตาย ดังคำฟัตวานี้ของ  “นัสเซอร์ อัลโอมาร์”  มุฟตีชื่อดังของซาอุดีอาระเบียและศาสตราจารย์แห่งมหาลัยอิสลามมูฮัมหมัด อิบนุ ซาอูด ” ที่มีคำวินิจฉัยให้สั่งฆ่ามุสลิมที่เห็นต่างกับตน โดยเฉพาะมุสลิมนิกายชีอะฮ์ในรูปแบบที่เหี้ยมโหดและป่าเถื่อน

แฟ้มภาพ นาศิร อัลโอมาร์ มุฟตีชื่อดังของซาอุดีอาระเบีย
แฟ้มภาพ นาศิร อัลโอมาร์ มุฟตีชื่อดังของซาอุดีอาระเบีย

จะมีเพียงหลักคำสอนของสำนักคิดนี้เท่านั้นที่อนุญาตให้สังหารผู้คิดต่างจากตน  เช่น การตัดคอบาทหลวงในโบสถ์หรือขายผู้หญิงที่ไม่ใช่มุสลิมในเมืองโมซูลอิรักและเมืองรักกา ( Raqqa ) ซีเรีย และการวางระเบิดในปารีสและการโจมตีก่อการร้ายในอันส์บาค เยอรมนีและ….

ในการต่อสู้กับการก่อการร้ายนั้นการปลดอาวุธจากผู้ก่อการร้ายนั้นไม่เป็นการเพียงพอ  ต้องมีการปรับทัศนะคติบรรดาผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ที่เป็นมันสองในการกดระเบิดฆ่าตัวตายด้วยซึ่งมันเป็นสิ่งจำเป็น    แต่สิ่งที่สำคัญมากไปกว่านี้คือการทำลายล้างรากเหง้าที่มีการแพร่เชื้ออันตรายไปสู่สมอง

หากโลกต้องการจะอยู่ในความสงบสุข  หากชาวฝรั่งเศสไม่ต้องการที่เห็นการถูกล่าลาจากรถบรรทุกเช่นวนเฉลิมฉลองวัยชาติอีก หากเยอรมันไม่ต้องการที่ตกอยู่ในความหวาดวิตกและหวาดผวาในการเดินห้าง  หากสเปนและอังกฤษไมต้องการได้ยินเสียงของระเบิดและกลิ่นเลือดในสถานีรถไฟใต้ดินอีกครั้ง  จะมีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่เป็นพื้นฐานสำคัญ นั้นคือการยับยั้งซาอุดีอาระเบีย ซาอุดีอาระเบียที่ความพยายามและความมุ่งมั่นที่จะใช้ petrodollars ของเขาเพื่อกดดันให้รัฐบาลตะวันตกนิ่งเงียบ

อ้างอิง : http://www.asriran.com