เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายสำหรับกลุ่มก่อการร้ายไอซิสจริงหรือ??

irna  –  การปรากฏตัวของผู้สนับสนุนของกลุ่มก่อการร้ายอิสลามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในสถานการณ์ที่กลุ่มก่อการร้ายไอซิสกำลังอ่อนตัวลงในตะวันออกกลาง แสดงให้เห็นว่า ไอซิสไม่มีทางเลือกใดนอกจากจะหันเข้ามาปักหลักยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอาจถือได้ว่านี่คือฐานที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสตักฟีรี

นักวิเคราะห์บางคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้แสดงความกังวลกรณีที่มีการเคลื่อนย้ายสมาชิกของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสจากตะวันออกกลางมายังในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเนื่องจากการสมาชิกบางกลุ่มโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ที่ให้การสนับสนุนของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส สามารถกล่าวได้ว่าเป็นการปูทางสำหรับการปรากฏตัวของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในภูมิภาคนี้ที่เคลื่อนย้ายออกจากตะวันออกกลางได้เป็นอย่างดี

การปรากฏตัวของกลุ่มก่อการร้ายบางกลุ่ม เช่น กลุ่ม อาบู ซายัฟ  และ Jemaah Islamiyah ในภูมิภาค และในด้านหนึ่งประสบการณ์ในก่อการร้ายที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ทางในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ และในถนนของเมืองหลวงประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย ที่มีการบันทึกร่องรอยว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส ทำให้เป็นการตอกย้ำการคาดการณ์ในการปรากฏตัวของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในภูมิภาคได้อย่างชัดเจน

ฮาเรซ โมฮัมหมัด นักข่าวชาวมาเลเซียได้เขียนบทความฉบับวันศุกร์ในหนังสือพิมพ์ ‘New Straits Times’   โดยชี้ในประเด็นนี้และกล่าวว่า แม้ว่าผู้ก่อการร้ายจะมีการเติบโตในมาเลเซียแต่ก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อประเทศนี้  แต่ทว่ามาเลเซียอาจจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากผู้ก่อการร้ายจากจากอิรักและซีเรียได้หันมาโฟกัสยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น

ตามความเชื่อของเขา การสูญเสียการปรากฏตัวในอิรักและซีเรีย ในวันนี้ทำให้มีความกลัว ว่าผู้ก่อการร้ายต่างชาติจะทยอยและหลั่งไหลเข้าสู่ภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้เอเชีย และจากนั้นมาเลเซียก็จะเผชิญกับภัยคุกคามที่ร้ายแรง
ในความเป็นจริงแล้วบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านการก่อการร้ายมีความกังวลในประเด็นที่ว่า ส่วนมากของผู้ก่อการร้ายนั้นยังไม่เป็นที่รู้จัก และอาจเป็นไปได้ว่าจะปฏิบัติการโจมตีการก่อการร้ายภูมิภาค  และกลุ่มผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ล้วนได้รับการฝึกฝนภาคสนามซึ่งมีประสบการณ์ในการใช้วัตถุระเบิดและอาวุธอื่น ๆมาแล้ว

ในสถานการณ์วันนี้กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้สูญเสียพื้นที่ในอิรักและซีเรีย และหากพิจารณาจากการปฏิบัติการและความเคลื่อนไหวที่พวกเขาทำมานั้นมีความพยายามที่จะแพร่กระจายอิทธิพลของตนในภูมิภาคนี้ให้มากและกว้างขวางขึ้น
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับตำรวจมาเลเซียฝ่ายต่อต้านการก่อการร้ายไอซิส เผยกับหนังสือพิมพ์ ‘New Straits Times’    กรณีความพยายามของไอซิสในการขยายตัวในส่วนอื่น ๆในภูมิภาคนี้ ว่า ในประเด็นนี้จะสามารถเห็นการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่เป็นสมาชิกไอซิสและพันธมิตรไอซิสในหลายๆประเทศมากขึ้น

เขากล่าวว่า การระบุตัวผู้ก่อการร้ายต่างชาตินั้นถือเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับเจ้าหน้าที่มาเลเซีย  แม้นว่าจะสามารถระบุตัวผู้ก่อการร้ายท้องถิ่นและผู้ที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านเช่นอินโดนีเซียก็ตาม และหากพิจารณาการที่พวกเขาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานข่าวกรองทำให้โอกาสในการตรวจสอบยิ่งมีความยุ่งยากขึ้น

แม้นว่าการพิจารณาในเรื่องนี้มีความสำคัญและจำเป็น และการปรากฏตัวของไอซิสในภูมิภาคนี้ในความเป็นจริงแล้วมิได้หมายความว่าพวกเขามีความพยายามที่จะขยายขอบเขตของกิจกรรมการก่อการร้ายของกลุ่มก็ตาม  แต่ทว่าเมื่อพวกเขาอ่อนแอลงในตะวันออกกลางจึงไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากต้องหาฐานใหม่สำหรับพวกเขา และทางเลือกที่ดีสำหรับการนี้เมื่อพิจารณาจากเงื่อนไขและปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นทำให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความเหมาะสมที่สุดสำหรับพวกเขา

ในประเด็นนี้ ‘อาหมัด มะห์มูดีย์ ‘ ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลและต่อต้านการก่อการร้ายและที่ปรึกษาของตำรวจรัฐบาลมาเลเซียออกมากล่าวและแสดงปฏิกิริยาในเรื่องนี้ โดยให้สัมภาษณ์กับ Asia News Network  ว่า การปรากฏตัวของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากพวกเขา ต้องการชดเชยการสูญเสียพื้นที่ของพวกเขาในประเทศซีเรียและอิรัก

เขากล่าวว่า พื้นที่ยึดครองของไอซิสกำลังลดเหลือน้อยลงทุกขณะ  และในเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อจิตใจของสมาชิกในกลุ่ม  แม้แต่ในโลกไซเบอร์ในหมู่ผู้สนับสนุนของกลุ่มก็เกิดคำถามขึ้นมา มันกำลังเกิดอะไรขึ้น ??

ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลและต่อต้านการก่อการร้ายและที่ปรึกษาของตำรวจรัฐบาลมาเลเซีย กล่าวเสริมว่า ไอซิสได้รับการสนับสนุนอย่างไร ?  พวกเขาจะต้องเข้าสู่วงแหวนความขัดแย้งรอบสองกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือว่าเข้าสู่วงแหวนที่สามนั้นคือการเข้ามาสู่ความขัดแย้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ถ้อยแถลงของผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลและต่อต้านการก่อการร้ายและที่ปรึกษาของตำรวจรัฐบาลมาเลเซีย  เป็นการตอกย้ำในประเด็นที่ว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังได้รับความสนใจจากกลุ่มก่อการร้ายไอซิส

Asia News Network   อ้างรายงานที่ออกมาโดยกระทรวงกลาโหมอเมริกาในช่วงเดือนพฤษภาคมปีนี้  ว่า ไอซิสได้สูญเสียพื้นที่ยึดครองของตนในอิรักประมาณ 45% และในซีเรียอีกร้อยละ 10

การสูญเสียดินแดนควบคุมโดยกลุ่มก่อการร้ายในด้านหนึ่ง และการเรียกร้องจากสมาชิกที่สนับสนุนพวกในภูมิภาคให้เข้าร่วมสมทบกับพวกเขา  และกลับเรียกร้องให้เข้ามาในทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์แทนที่จะมุ่งหน้าไปยังตะวันออกกลางซึ่งนี่คือเหตุผลที่จะเพิ่มน้ำหนักความเป็นไปได้ของการปรากฏตัวของไอซิสในพื้นที่นี้

หากตั้งข้อสมมุติฐานการปรากฏตัวของไอซิสในภูมิภาคนี้  แนวทางการรับมือของรัฐบาลในการเผชิญหน้ากับกลุ่มก่อการร้ายในระดับภูมิภาคจะเป็นเช่นไร  เป็นปมคำถามที่ยังคงอยู่ในความสับสนของนักวิเคราะห์อีกหลายคน
อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทยและฟิลิปปินส์เป็นพื้นที่หลักที่เป็นความสนใจของไอซิสในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแต่ละประเทศมีประสบการณ์และกำลังเผชิญหน้ากับกลุ่มก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดนอย่างต่อเนื่องจนถึงวันนี้

นอกเหนือไปจากประสบการณ์ของประเทศเหล่านี้ในการจัดการกับกลุ่มก่อการร้ายภายตามเขตแดนของตนแล้ว  เนื่องจากความกังวลที่ผ่านมาเกี่ยวกับการเข้ามาของผู้ก่อการร้ายต่างชาติจากชายแดนของตัวเอง ทำให้พวกเขาพยายามที่วางกฎระเบียบและข้อบังคับอย่างเข้มงวดเพื่อสามารถบังคับใช้ในพื้นอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกเหนือจากการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางกฎหมายและกฎระเบียบและความร่วมมือระดับภูมิภาคระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนแล้ว  ในบรรดาประเทศที่ตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มก่อการร้ายนั้นยังเป็นประเด็นหนึ่งที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการเผชิญหน้าของประเทศเกี่ยวกับปรากฏการณ์การก่อการร้ายอีกด้วย

ประเทศเหล่านี้หากมีการเผชิญหน้ากับกลุ่มก่อการร้ายจริง จำเป็นที่จะต้องนำเอาประสบการณ์ที่ผ่านมาในการดำเนินการต่อต้านการก่อการร้าย  ซึ่งประสบการณ์ครั้งล่าสุดในกรณีคือความร่วมมือระหว่างฟิลิปปินส์อินโดนีเซียและมาเลเซียในการสร้างหน่วยลาดตระเวนทางทะเลร่วมกันในการที่จะกำจัดผู้ก่อการร้ายอาบู ซายัฟและกลุ่มที่มีการลักพาตัวและเรียกค่าไถ่ในเขตภูมิภาค

ประเด็นหนึ่งที่มีความน่าสนใจในความร่วมมือนี้คือประเทศฟิลิปปินส์ได้พึ่งพาประเทศเพื่อนบ้าน แม้นว่าก่อนหน้านี้จะมีอเมริกาที่ให้การสนับสนุนแต่ก็ยังล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

การดำเนินการเช่นนี้และกรณีที่คล้ายกันในประวัติศาสตร์ของประเทศในภูมิภาคนี้สามารถเห็นได้ว่าการปรากฏตัวของไอซิสในภูมิภาค  ว่า หากประเทศเหล่านี้สามารถบั่นทอนและลดอำนาจบรรดาผู้ให้การสนับสนุนและสปอนเซอร์หลักของการก่อการร้ายในภูมิภาค และพวกเขาเองเผชิญหน้าโดยตรงและมีความอิสระในการรับมือกับไอซิสแล้วเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะบรรลุผลลัพธ์ที่ดีกว่า

แปลจาก http://www.irna.ir/fa/News/82176266/