รัฐบาลตะวันตกมีส่วนร่วมต่ออาชญากรรมที่ร้ายแรงในเยเมน

1832

jamnews – รัฐบาลตะวันตกที่เรียกร้องสิทธิมนุษยชนแต่กลับให้การสนับสนุนซาอุดีอาระเบียโจมตีเยเมนทางอากาศ พวกเขาไม่เพียงแค่ปิดตาดูการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ในประเทศอาหรับเยเมนเท่านั้น แต่พวกเขากับ ขายอาวุธให้กษัตริย์ซาอุดิอาระเบียเพิ่มมากขึ้น

องค์กรการกุศลออกซ์แฟม ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การซื้อขายระหว่างอังกฤษกับซาอุดีอาระเบีย โดยกล่าวว่าอาวุธเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในการโจมตีเยเมน

องค์กรการกุศลออกซ์แฟม ระบุว่า รัฐบาลอังกฤษเคยเป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งหนึ่งของสนธิสัญญาการค้าอาวุธแต่ตอนนี้มันได้กลายเป็นชาติหนึ่งที่มีการละเมิดและฝ่าฝืนรายใหญ่ที่สุด

บรรดาผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชนเชื่อว่ามีการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมในสงครามเยเมน    อังกฤษอ้างว่าการซื้อขายอาวุธกับซาอุดิอาระเบียมีความสอดคล้องกับนโยบายของอังกฤษ

สำนักข่าว บีบีซี  รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษได้ออกมากล่าวซ้ำ ๆว่า ไม่มีหลักฐานที่จะชี้ให้เห็นว่าซาอุดิอาระเบียโจมตีเป้าหมายพลเรือน

นอกจากนั้นรัฐบาลอังกฤษเองก็ออกมาอ้างว่า ไม่มีหลักฐานที่จะชี้ให้เห็นว่าซาอุดิอาระเบียโจมตีเป้าหมายพลเรือน

สนธิสัญญาควบคุมอาวุธ เป็นกฎบัตรระหว่างประเทศเพื่อกำหนดการค้าอาวุธทั่วๆไป วัตถุประสงค์ของสนธิสัญญานี้ป้องกันการค้าอาวุธเถื่อน

ประเทศผู้ส่งออกรายสำคัญเช่น  อังกฤษ ได้ให้สัตยาบันต่อกฎบัตรฉบับนี้แล้ว และให้คำมั่นว่าจะยึดมั่นต่อกฎเกณฑ์อันเข้มงวดของกฎบัตรฉบับนี้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่การยุติการจัดส่งอาวุธให้แก่เหล่าผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลก  สนธิสัญญาฉบับนี้จะบังคับให้แต่ละประเทศจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลการส่งออกอาวุธแห่งชาติ โดยรัฐต่างๆ ต้องประเมินว่าอาวุธแต่ละชิ้นสามารถถูกนำไปใช้หลบเลี่ยงการห้ามส่งสินค้าระหว่างประเทศ, ใช้เพื่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และอาชญากรรมสงครามหรือตกอยู่ในมือผู้ก่อการร้ายและขบวนการอาชญากรรมได้หรือไม่