สำนักข่าวอิรนา (irna) ของอิหร่านรายงานบทสัมภาษณ์ ดร.จรัญ มะลูลีม นักวิชาการอิสลามและอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ได้วิจารณ์นโยบายและการบริหารจัดการเรื่องฮัจญ์ของราชวงศ์ซาอุ ซึ่งระบุว่า ถ้าซาอุดิอาระเบียยังไม่หยุดยั้งนโยบายที่รุนแรง มุมมองของประชาชาติมุสลิมที่มีต่อซาอุดิอาระเบียนั้นจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่แย่ลง
ดร. จรัญ มะลูลีม นักวิชาการอิสลามและอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิรนา เมื่อเร็วๆ นี้ว่า อิหร่านได้แสดงให้เห็นถึงนโยบายเพื่อสันติภาพและสร้างความสัมพันธ์ของตน หากซาอุดิอาระเบียยังไม่หยุดยั้งนโยบายที่รุนแรง มุมมองของประชาชาติมุสลิมที่มีต่อซาอุดิอาระเบียนั้นจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่แย่ลง
เขาได้ชี้ถึงโศกนาฏกรรมที่มินา เมื่อปีที่ผ่านมาอันเนื่องจากการบริหารจัดการที่ไม่ดีของราชวงศ์ซาอูดทำให้ผู้แสวงบุญนับพันคนต้องเสียชีวิตถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจอย่างมาก
เขากล่าวเสริมว่า ฮัจญ์เป็นกฎข้อบังคับหนึ่งของศาสนาอิสลาม ซึ่งจะมีเป็นประจำทุกปี และจำต้องมีการอำนวยความปลอดภัยให้กับมวลมุสลิมก็จะเข้าร่วมในพิธีฮัจญ์และนี่คือหน้าที่ของซาอุดิอาระเบียที่จะต้องบริการและเตรียมความพร้อมให้กับบรรดาผู้แสวงบุญ
นักวิชาการอิสลามและผู้เชี่ยวชาญในประเด็นโลกอิสลาม ได้ชี้ถึงนโยบายของซาอุดิอาระเบียและการไม่สำนึกและขอโทษของราชวงศ์ซาอูด ต่อประเทศอิสลามและชาวมุสลิมที่ได้ละเลยในหน้าที่ในช่วงเทศกาลฮัจญ์ปีที่ผ่านมา ว่า อิหร่านถือเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากเหตุการณ์ที่มินา
เขาได้ย้ำถึงเรื่องฮัจญ์ ในประเด็นที่ว่าฮัจญ์เป็นประเด็นนานาชาติของประเทศอิสลามทั้งหลาย โดยเสนอแนะให้ประเทศอิสลามจัดตั้งสมาคมเพื่อปรับปรุงการจัดกิจกรรมฮัจญ์และมีบทบาทมากยิ่งขึ้น
ดร. จรัญ ชี้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง และสงครามซีเรีย การอพยพลี้ภัยจำนวนมากของผู้บริสุทธิ์ไปยังประเทศต่างๆ ว่า ประเทศต่างๆเช่นซาอุดิอาระเบียต้องทำหน้าที่ในการปรับปรุงความสัมพันธ์กับประเทศอื่น ๆ เพื่อที่จะสร้างสันติภาพและเสถียรภาพให้เกิดขึ้นในภูมิภาค
เขากล่าวเสริมว่า นโยบายอิหร่านแสดงให้เห็นว่าเป็นประเทศที่ต้องการความสงบสันติและสร้างความสัมพันธ์กับประเทศอื่นๆ และซาอุดีอาระเบียควรพิจารณานโยบายของตน