เอบีนิวส์ทูเดย์ – อาลีริฎอ อะรอฟี อธิการบดีมหาวิทยาลัยมุสตอฟานานาชาติ ประเทศอิหร่าน ส่งหนังสือแสดงความเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผ่านทางสถานเอกอัคราชทูตไทย ณ กรุงเตหะราน
อาลีริฎอ อะรอฟี อธิการบดีมหาวิทยาลัยมุสตอฟานานาชาติ ประเทศอิหร่าน ได้ส่งหนังสือแสดงความเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านทาง นายรัศมี จิตต์ธรรม เอกอัคราชทูตไทย ประจำอิหร่าน ณ กรุงเตหะราน โดยมีเนื้อความว่า
เรียน ฯพณฯ รัศมี จิตต์ธรรม เอกอัคราชทูตไทย ประจำประเทศอิหร่าน
ข้าพเจ้าในฐานะตัวแทนของมหาวิทยาลัยมุสตอฟานานาชาติ ประเทศอิหร่าน ขอแสดงความเสียใจต่อท่านและปวงชนชาวไทย ต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่และมีความปราดเปรื่อง
สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านเป็นมหามิตรกันมาอย่างยาวนานกับประเทศไทย อีกทั้งญามิอะตุลมุสตอฟาอิหร่านก็มีความสัมพันธ์ที่ดีและยาวนานกับเอกอัคราชทูตไทย ประจำกรุงเตหะราน และ หวังว่าจะเห็นการพัฒนาความสัมพันธ์ฉันท์มิตรที่ยั่งยืนตลอดไป
นายอาลีริฎอ อะรอฟี
ขณะที่ทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน โดยนายรชา อารีพรรค อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูต (Chargé d’affaires a.i.) ก็ได้ทำหนังสือตอบกลับในนามสถานเอกอัครราชทูตไทย ขอบคุณอธิการบดีมหาวิทยาลัยมุสตอฟานานาชาติ สำหรับการร่วมเศร้าโศกกับคนไทยในห้วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดนี้
กล่าวสำหรับมหาวิทยาลัยมุสตอฟานานาชาติ ตั้งอยู่ที่เมืองกุม ประเทศอิหร่าน นับเป็นมหาวิทยาลัยนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน เปิดการเรียนการสอนเกี่ยวกับอิสลามศึกษาในสาขาต่างๆ โดยมีนักศึกษาจากทั่วทุกมุมโลกที่มาศึกษาด้านศาสนาอิสลามที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้
นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีคนไทยที่เรียนจบมาจากมหาวิทยามุสตอฟานานาชาติประมาณ 150 คน และยังมีคนไทยที่กำลังศึกษาอยู่ในปัจจุบันทั้งชายและหญิงอีกประมาณ 70 คน
ส่วน นายอาลีริฎอ อะรอฟี นั้นนอกจากดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยมุสตอฟานานาชาติแล้ว เขายังเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาคนสำคัญของอายาตุลเลาะห์ คอเมนเอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน รวมทั้งดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ของอิหร่าน อีกหลายตำแหน่ง