สงคราม“อิสราเอล-กาซา” ในการประเมินของผู้บัญชาการทหารอิหร่าน

1347

 

 

สำนักข่าวฟาร์สของอิหร่านรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายพล ฮูเซน ซาลามีย์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอิหร่าน  ได้ร่วมเสวนาในรายการโทรทัศน์ของอิหร่านช่องหนึ่ง  โดยได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์สำคัญในประเทศอิหร่าน และโดยเฉพาะสถานการณ์เกี่ยวกับกองกำลังต่อสู้ของปาเลสไตน์  หรือ “ฮามาส” ในประเด็นต่างๆ

โดย ในช่วงเริ่มต้นนั้น นายพลซาลามีย์  ได้กล่าวเชิดชูวีรกรรมของเหล่าผู้พลีชีพ ในโลกอิสลาม เพื่อต่อสู้กับ ไซออนิสต์ โดยเฉพาะบรรดา “ชะฮีด” ผู้พลีชีพชาวปาเลสไตน์ และชี้ว่า“ไม่ ต้องสงสัยใดๆ เลยว่า หลายปีที่ผ่านมา การเมืองในตะวันออกกลางและยุทธศาสตร์ต่างๆ ที่สหรัฐใช้ ในโลกอิสลามนั้น เป็นตัวประกันความมั่นคงให้กับการเมืองของรัฐเถื่อนไซออนิสต์”

เกมการเมืองของสหรัฐ เป็นหลักประกันให้ความมั่นคงของรัฐเถื่อนไซออนิสต์

นายพล ฮูเซน ซาลามีย์  ให้ความเห็นว่า “ ในความเป็นจริงแล้ว สหรัฐฯ มักจะมองโลกอิสลามและโลกอาหรับ โดยผ่านหน้าต่างและดวงตาของอิสราเอล  ด้วยเหตุนี้หลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้สืบเนื่องมากจากสาเหตุดังกล่าว  และจากมุมมองของพวกเขา ไซออนิสต์อยู่ในสถานการณ์เปราะบางที่ถูกปิดล้อมด้วยโลกอิสลาม สหรัฐอเมริกา และไซออนิสต์ ยังถืออีกว่า วันหนึ่งอำนาจของรัฐเถื่อนเหล่านี้จะมีพลังเพิ่มขึ้น โดยอำนาจของอิสลามรอบๆ จะต้องอ่อนแอลง และนี่คือรูปแบบทางยุทธศาสตร์อย่างหนึ่งทางการทหาร คือการทำให้การเมืองในโลกอิสลามอ่อนแอลง ในท้ายที่สุดพวกเขาก็จะเข้าควบคุมได้อย่างเบ็ดเสร็จ

พวกเขาต้องการแยกซีเรียออกแนวหน้ากลุ่มประเทศที่ต้านทาน และยืนหยัด

นายพล ซาลามีย์ ชี้ว่า สิ่งที่ปรากฎให้เห็นในซีเรีย คือ การยืนหยัดและการต้านทานอย่างเข้มแข็ง ซึ่งด้วยสาเหตุนี้ เป้าหมายหลักก็คือการแยกซีเรีย ประเทศซึ่งถือเป็นแกนกลางของบรรดาประเทศ ที่ได้ต่อต้าน และยืนหยัดจากการรุกรานให้ออกไปจากการรวมกลุ่มกับประเทศอื่นๆ  สหรัฐและโลกตะวันตกกำลัง ดำเนินการในเรื่องนี้จนกว่าซีเรียจะเป็นประเทศที่ไร้ความมั่นคง ไร้ความสงบ และความปลอดภัย ทำให้หลุดไปจากสายรัดเข็มขัดของผู้ยืนหยัด และทำให้ประเทศนี้กลับไปแก้ปัญหาภายในแทนที่จะต้องมาต่อสู้กับไซออนิสต์

นายพล ซาลามีย์ ย้ำว่า “ขบวนการ ISIS เกิดขึ้นมาได้ ก็ด้วยการชาร์จอุดมการณ์และอาวุธของอเมริกัน เพื่อผ่าอิรักออกเป็นชิ้นๆ ซึ่งสหรัฐเองได้ดำเนินการในสิ่งนี้อยู่ เพื่อลดอิทธิพลของสาธารณะรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน”

 

สหรัฐและการสร้างสถานการณ์ในประเทศต่างๆ เป็นไปเพื่อสร้างภาพลักษณ์ความน่ากลัวให้อิหร่าน

นายพล ฮูเซน ซาลามีย์ ชี้ว่า “อียิปต์ ซาอุดิอาระเบีย และจอร์แดน เป็นสามประเทศที่ได้กลายเป็นพันธมิตร กับสหรัฐ ประเทศทั้งสามเล่นเกมการเมืองตามจังหวะแผนการเมืองของสหรัฐ และยังเป็นการเมืองในรูปแบบไซออนิสต์  เมื่อสถานการณ์ต่างๆ ปรากฏขึ้นในโลกอิสลาม บรรยากาศทางการเมืองที่สร้างความพร้อมรูปแบบใหม่จึงเกิดขึ้น และอิทธิพลใหม่ ในโลกอิสลามก็แปรเปลี่ยนทิศทางไปด้วยสาเหตุนี้”

“สหรัฐ ได้เข้าคุกคามอิหร่าน ทำหน้าที่แทนอิสราเอล และพยายามนำเสนอภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้กับอิหร่าน และทำให้ประเทศอื่นๆ มองอิหร่าน เป็นประเทศอันตรายที่น่าหวาดกลัว เพื่อให้เหล่ากองทัพในโลกอิสลาม เตรียมทำศึกกับการเมืองของอิหร่าน นอกจากนี้พวกเขายังได้สร้างแนวคิดอิสลามใหม่ โดยสร้างกำลังพล ในประเทศต่างๆ เพื่อทำสงครามกับอิสลามดั้งเดิม  นี่คือความหมาย ของการสร้างความขัดแยง ในแวดวง อิสลาม”

ประเทศอาหรับจะเล่นการเมืองโดยร่วมมือกับไซออนิสต์มากขึ้น จนกระทั่งสามารถต้านทานได้

นายพล ฮูเซน ซาลามีย์ กล่าวว่า “ที่รัฐเถื่อนไซออนิสต์เลือกโจมตีกาซ่าในเวลานี้ ก็เพราะพวกเขารู้สึกว่า ขณะนี้เหล่าประเทศอาหรับเริ่มที่จะให้ความร่วมมือกับพวกเขามากขึ้นในทางการ เมือง จนพวกเขา สามารถที่จะต้านทานต่อปาเลสไตน์ได้”

“ หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของรัฐเถื่อนไซออนิสต์  ก็คือการขยายอิทธิพลเพื่อบดบังความจริง หมายถึง เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตนั้น รัฐเถื่อนไซออนิสต์ ต้องการที่จะลบเหตุการณ์ในอดีตพวกเขาเคยก่อไว้ จากความทรงจำ ของผู้คนทั้งโลก และเปลี่ยนแปลงมัน”
“ก่อนหน้าการการปฏิวัติอิสลาม อาหรับต้องพ่ายแพ้ในทุกสงครามที่รบกับไซออนิสต์  ทำให้เกิดการสังหารหมู่ อย่าง เช่น ในซอบรา และชะทีลา โดย เอเรียล ชารอน และ ในปี 1982 อิสราเอล ก็ยังได้รับชัยชนะในการทำสงครามกับอาหรับในเวลานั้นอีก เวลาเดียว ฮิสบุลเลาะฮ์ ก็ถูกสร้างขึ้น ภายใต้แนวคิดการปฏิวัติอิสลาม และ สุนทรพจน์ ของอิมามโคมัยนี”
“ในปี 1996 ฮิสบุลเลาะฮ์ ได้แจงเป้าหมายในสงคราม 16 วัน  โดยการรับมือกับไซออนิสต์ ต่อมา ฮามาส และ ญิฮาดอิสลาม จึงถือกำเนิดขึ้น และ การปฏิวัติอิสลามได้กลายเป็นแกนใหม่ในการเผชิญหน้ากับไซออนิสต์  ในอีกด้านหนึ่งการถ่อยร่นของไซออนิสต์ ในปี 2000 จากชายแดนเลบานอน คือปฐมแห่งความพ่ายแพ้อย่างเป็นทางการของอิสราเอล และเหตุผลก็คือ ฮิสบุลเลาะฮ์ รู้จักที่จะเรียนรู้กฎการต่อสู้ และการใช้อาวุธที่เพียงพอ พร้อมด้วยความเชื่อ ความศรัทธา และศาสนา ในการทำสงคราม กับอิสราเอล

อิสราเอล เริ่มพ่ายแพ้หลังสงคราม 33 วัน

ในปี 2006 สงคราม 33 วัน คือ หนึ่งในความพ่ายแพ้ ในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล ในช่วงเวลานั้น โลกทั้งใบต่างรับรู้ว่า อิสราเอลมีกองทัพที่เเข็งแกร่งเป็นอันดับ 5 ของโลก ต้องพ่ายแพ้อย่างไม่น่าเป็นไปได้ แต่ทว่าในสงครามนี้ ความน่าเชื่อถือของแนวคิดมุสาต้องลดน้อยลง และเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือ ของกองทัพอิสราเอล ในศึกครั้งนั้น พวกเขาไม่อาจจะพึ่ง รถถัง ได้เลย

กลุ่มนักรบปาเลสไตน์ ในกาซ่า จึงได้รับการชี้นำ จากชัยชนะของฮิสบุลเลาะฮ์ในครั้งนี้ และในปี 2008 อิสราเอลก็โจมตีกาซ่าอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้กลุ่มฮามาสสามารถรับมือกับอิสราเอล ได้ถึง 22 วัน  และทำให้อิสราเอลต้องร่นถอยจากบ้านเมืองของพวกเขาได้ ในอีกด้านหนึ่ง ปี 2012 ไซออนิสต์ก็ได้โจมตี กาซ่า อีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้ชาวปาเลสไตน์ได้รับอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยและดียิ่งขึ้น และได้เรียนรู้กลยุทธ์ต่างๆ ในการทำสงคราม

อิสราเอล กำลังดำเนินการสร้างภาพลักษณ์ให้กับตัวเอง ในสงครามกาซ่า

ซาลามีย์ กล่าวว่า “ในศึกครั้งนี้ อิสราเอล พยายามที่จะสร้างภาพลักษณ์ใหม่ขึ้นมา โดยการอ้างความพ่ายแพ้ของกองทัพอิสราเอล โดยลบล้างความทรงจำของชาวโลก ที่เคยจดจำว่าพวกเขาเคยพ่ายแพ้  ด้วยการเพิกเฉยของโลกอิสลาม , ปัญหาภายในประเทศ , และการสร้างโดมเหล็ก จะทำให้อิสราเอลรอดพ้นจากความพ่ายแพ้ในและนำชัยชนะในการโจมตีครั้งนี้ได้”

นายพลฮูเซน ยังได้อธิบายอีกว่า สิ่งสำคัญที่สุดและกุญแจสำคัญซึ่งเป็นปัจจัยในการโจมตีกาซ่า คือ การสร้างใบหน้าโฉมใหม่ให้ไซออนิสต์ เป็นไปได้ว่าสงครามในอดีต  ส่วนหนึ่ง ฮามาส ได้ยืมกำลังทางทหารในการสู้รบ แต่ในวันนี้ พวกเขาสามารถที่จะสร้างอำนาจด้วยตัวเอง  และสามารถที่จะส่งจรวดมิซไซล์ และขีปนาวุธ สู่รัฐเถื่อนไซออนิสต์

ขีปนาวุธ ของปาเลสไตน์ มีรัศมีการยิง 160 กิโลเมตรแล้วในวันนี้

นาย พล ฮูเซน ซาลามีย ได้เน้นย้ำว่า เมื่อฝ่ายกองกำลังต้านทานยิงจรวดเข้าสู่ ไฮฟา นั่นหมายถึง จรวดของพวกเขามีรัศมียิงไกลได้ถึง 160 กิโลเมตร และบอกกับเราอีกว่า ฮามาส สามารถยิงมิซไซล์ได้ในทุกๆจุดของไซออนิสต์

ฮิสบุลเลาะฮ์ เตรียมพร้อมสำหรับ พายุ

ซาลามีย ชี้ว่า ในวันนี้ผู้อยู่อาศัยในแผ่นดินที่ขโมยมานั้นรู้สึกไม่ปลอดภัย และทุกๆ แผ่นดินที่อิสราเอล ขโมยมานั้น เปลี่ยนสภาพแวดล้อมในด้านความปลอดภัย อิสราเอลไม่ได้ต้องการทำให้แผ่นดินที่ขโมยมา อยู่ในความปลอดภัย จริงๆแล้วความปลอกภัยอยู่ในระดับหนึ่ง ที่ด้านหนึ่งฮิสบุลเลาะฮ์มีอำนาจ และพร้อมที่สร้างพายุในแผ่นดินที่ถูกขโมยมา ซึ่งมันจะทำลายอำนาจและอาวุธของพวกเขา และในอีกด้านหนึ่ง อิสราเอลต้องเผชิญหน้ากับฮามาส ที่เพียบพร้อมไปด้วยกลยุทธ์ทางการศึก อาวุธ และจรวด อาวุธใหม่ของฮามาส ได้ทำลายรถถังของอิสราเอล ไป 11 คัน  และทำให้รถถัง อีก 48 คัน ต้องชำรุด

ไฟจากจรวด ของฮามาส จะไม่มีวันมอดดับ

นายพลซาลามี ชี้ว่า  มีหลายอุโมงค์ ที่อิสราเอล ไม่สามารถที่จะดับ ไฟจรวด ได้ ลูกหลานของฮามาส จะเข้าถึงฐานทัพของพวกเขา เหมือนการคืบคลานของค่ำคืน และจะเข้าคุกคามทหารของอิสราเอล นี่คือสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า ไปถึงเป้าหมายที่เล็กน้อยที่สุดของพวกเขาได้

ฮามาสมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการทำสงคราม

ซาลามีย์ กล่าวว่า อิสราเอลเชื่อว่าพวกเขาได้ทำลายอุโมงค์ลับ ไป 32 จุด และกล่าวด้วยความเชื่ออันนี้ว่า มีอุโมงค์แค่ 32 แห่ง ถ้าหากสงครามดำเนินต่อไป อีก 10 วัน คิดหรือว่า อิสราเอล จะไม่ออกมาให้ข้อมูลถึงการทำลายอุโมงค์แห่งใหม่ สิ่งอำนวยความสะดวก และความสามารถต่างๆ อยู่ในมือของฮามาส ซึ่งในเงื่อนไขนี้ ทำให้อิสราเอล ไม่สามารถที่จะทำการควบคุมสงครามได้อีก

ชัยชนะของฮามาส ในสงครามข่าว

ตัวแทนกองทัพการปฏิวัติอิสลาม ยังได้กล่าวอีกว่า “จากการมีเทคโนโลยี และอาวุธยุทโธปกรณ์ และการทำงานทางด้านข้อมูลข่าวสารที่เพิ่มพูน ในลักษณะนี้ ไซออนิสต์จะสามารถกลบอุโมงค์ หลายร้อยกิโลเมตรได้อย่างไร และชาวปาเลสไตน์เอง ก็ได้เปลี่ยนความคิดต่างๆ เป็นพลังในการพิทักษ์แผ่นดินของพวกเขา ในขณะที่อิสราเอล ยังไม่มีความสามารถที่จะยืนยันทีมงานของตัวเองได้  หรือจะเป็นคลังแสงซึ่งเป็นที่เก็บจรวด หรือแม้กระทั่งส่วนสำคัญของอุโมงค์เหล่านี้ ที่พวกเขาอ้างว่าได้ทำลายลงไป พวกเขายังยืนยันไม่ได้ ว่า สิ่งที่ทีมงานของพวกเขาอ้างนั้นเป็นจริง? นี่คือ สิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า ฮามาส มีประสิทธิภาพในด้านการข่าว มากกว่า อิสราเอลแล้ว ในตอนนี้

ไม่มีข้อกำจัดในการช่วยเหลือมุสลิม และผู้ที่อ่อนแอ

ซาลามีย์ กล่าวว่า  เหตุผลในการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ คือ เหตุผลเดียวกับที่อัลกุรอ่านได้กล่าวไว้ว่า เหตุใดพวกเจ้าถึงไม่ต่อสู้ เพื่อมุสลิมที่ถูกขับไล่ออกจากบ้านของพวกเขา เราจึงมีหน้าที่และภารกิจสำคัญที่จะต้องช่วยเหลือและสนับสนุนบรรดามุสลิมและ ผู้อ่อนแอในทุกๆ ด้าน และมิติเหล่านี้ จะต้องไม่มีข้อจำกัด มันเป็นไปได้อย่างไรที่ยุโรป ตะวันตก และสหรัฐ สามารถร่วมมือกัน  ในขณะที่ประชาชนที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้จะถูกจำกัดอยู่ในกองเพลิงจะ ถูกเผาไหม้ โดยที่จะไม่ให้รัฐอิสลามแห่งอิหร่านเคลื่อนไหวใดๆ ภายใต้แกนกลางของโลกอิสลาม ”

เรากำลังดำเนินการสร้างอำนาจภายในให้กับโลกอิสลาม

ซาลามีย์ ได้อธิบายว่า อำนาจของฮามาส ได้รับแรงบันดาลใจ จาก สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน เขากล่าวว่า สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านต้องการสร้างชีวิตให้กับฮามาส และปกป้องพวกเขาจากอิสราเอล และไม่เคยละทิ้งความพยายามจนมาถึงทุกวันนี้ เหตุผลของอิหร่านก็คือ อำนาจ อำนาจในทุกมุมของโลกอิสลาม จะประจักษ์ภายหลังจาก การสร้างความมั่นคงภายใน ด้วยตัวเอง ไม่ใช่หยิบยืมอำนาจ และสิ่งนี้ มันเกิดขึ้นแล้ว

การสนับสนุน การช่วยเหลือ ทางด้านจิตใจ การเมือง วัตถุ และทุกๆ การสนับสนุน ทำให้ศัตรูคิดว่า การออกคำสั่งเป็นงานของเรา และงานนี้ เป็นสิ่งที่เปิดเผย ปาเลสไตน์ คือ ส่วนหนึ่งของร่างกายอิสลาม และ สิ่งที่ผู้นำของเราต้องการ ก็คือการปกป้องบรรดามุสลิมผู้ถูกกดขี่  ซึ่งนี่สิ่งหนึ่งที่เราภาคภูมิใจ  เราอยู่ในวิถีตรงข้ามกับประเทศอาหรับบางประเทศที่ทำตัวเป็น โล่ให้สหรัฐ ประเทศอาหรับเหล่านี้ต้องการสร้างสงครามภายในให้เกิดขึ้นในโลกอิสลาม  เราเคยประกาศไปแล้ว ว่า ชีอะฮ์ และ ซุนนี่ ไม่มีความแตกต่างใดๆสำหรับเรา ในปาเลสไตน์เองก็ไม่มีชีอะฮ์ แต่เพราะหัวใจของเราร่ำรวยด้วยความรักที่มีต่อประชาชนชาวปาเลสไตน์ และนี่ ก็ไม่ใช่ คำบรรยาย ที่มีแต่ความรู้สึกเท่านั้น  ไม่ว่าชาวปาเลสไตน์จะได้รับความสำเร็จ เกียรติยศ บทเรียน อำนาจ อิสระ เสรีภาพ ทั้งหมดนี้ คือ เหตุผลที่เป็นตัวขับเคลื่อนบนวิถีของอิสลาม ทำไมรถถังของอิสราเอล ไม่สามารถ เข้าสู่กาซ่า ได้ ในระยะ 200 ถึง 300 เมตร แล้วหลังจากนั้น ต้องถอยร่น ออกมา ? ถ้าอิสราเอล สามารถเข้าสู่ถนนของปาเลสไตน์ได้ พวกเขาจะฆ่าสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ทั้งหมด แต่เพราะพวกเขา ไม่สามารถ และไม่มีอำนาจที่จะทำเช่นนี้ได้

เหล่ามหาอำนาจ ต่างอับอาย และโดนดูถูก เมื่อต่อสู้กับ ฮามาส  

นายพลซะลามีย์ ได้เน้นย้ำว่า ในวันนี้ ปาเลลไตน์ เป็นหนึ่ง ประเด็น หนึ่งสถานการณ์ ในโลก ซึ่ง เหล่ามหาอำนาจ ต้องโดนดูถูก และประนาม เมื่อเผชิญหน้า กับปาเลสไตน์ อิสราเอล เพียงแต่ เทไฟ และฆ่าสังหารประชาชน แต่พวกเขาไม่มีอำนาจที่จะสร้างผลประโยชน์ทางการเมืองได้ และในวันนี้ ประชาชนชาวปาเลสไตน์ ค่อย ยืนหยัด เพิ่มมากขึ้น และสงครามที่ไม่เป็นธรรมอันนี้ คือสิ่งแสดงให้เห็นว่า มนุษย์และศรัทธา กำลังเผชิญหน้า กับอาวุธ

การสังหารเด็กชาวกาซ่า คือ การล่มสลายของประชาธิปไตยแบบอเมริกัน

ซาลามีย์ ชี้ถึงเหล่าบรรดาผู้พลีชีพในปาเลสไตน์ว่า “พวกเขา คือ ภาพที่โศกเศร้าที่สุดของโลก และคือ บันทึกชีวิต ที่ชี้ ถึง การล่มสลายของประชาธิปไตยแบบอเมริกัน และ คุณค่าของอเมริกา อิสราเอล คือ ผู้ผลิตการเมืองของตะวันตก ในโลกอิสลาม และคือ ผู้แผ่อิทธิพลทางการเมืองในโลกอิสลาม และพวกเขาได้สร้างฐานทัพแห่งการล่าอาณาจักร ภายใต้การเมืองอันนี้ ในโลกอิสลาม และเหตุผลหนึ่งที่สหรัฐให้การสนับสนุน อิสราเอล ก็เพราะ การลอบบี้ ภายในของไซออนิสต์ในระบอบการเมืองอเมริกัน

เหล่าผู้ก่ออาชญากรรมในฮิโรชิมา และนางาซากี ต้องการที่จะ ปลดอาวุธ โลกที่เหลืออยู่

ซาลามีย์ กล่าวว่า  กองทัพอยุติธรรม ที่สร้างโลกภายใต้การเมืองสหรัฐ ไม่มีทางที่จะออกไปจากกรอบที่สหรัฐได้วางไว้ ตัวอย่าง ที่ดีนั้นคือ เราได้เป็นพยาน ว่า ตะวันตก ได้เผชิญหน้ากับ กลุ่ม 1+5 ในการสร้างสันติภาพจากการใช้พลังงานนิวเคลียของเรา โดยไม่ให้ความยุติธรรมใดๆ ในการเจรจานี้ ในขณะที่ รัฐเถื่อนไซออนิสต์ มีนิวเคลียร์ไว้ในครอบครองอย่างชัดเจน และไม่มีคำพูดใดๆในโลก ที่จะกล่าวออกมาเท่าเทียมกับการนี้ บรรดาบุคคลที่ สร้าง อาชญากรรม ในฮิโรชิมา และนางาซากิ ต้องการที่จะสร้างโลกที่เหลืออยู่โดยการปลดอาวุธทุกๆคน และให้พวกเขามีอาวุธแต่เพียงผู้เดียว ดังนั้น การปฏิวัติอิสลาม จึงเกิดขึ้น จนกระทั่ง ระบบนี้ ต้องพังทลายลงไป ในปาเลสไตน์ ก็เป็นเช่นนี้ ถ้าพวกเขา มีความสามารถ พวกเขาจะไม่อนุญาตให้ ดวงอาทิตย์ ขึ้นในกาซ่า และก้อนเมฆลอยล่องในดินแดนแห่งนี้ แน่นอน

การต่อสู้อย่างชอบธรรมของฮามาส  เป็นสิ่งที่ประเทศอาหรับต่างปิดปากเงียบ

ซาลามีย์ ชี้ถึง สาเหตุที่ เหล่าประเทศอาหรับ อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับฮามาส ว่า ความชอบธรรมของฮามาส เป็นสิ่งที่ประเทศอาหรับต่างปิดปากไปพูดถึง พวกเขาต้องการให้ปาเลสไตน์ เลบานอน และซีเรีย ถูกเชือดอยู่ใต้เท้าของ อิสราเอล เพื่อที่จะรักษาความชอบธรรมของพวกเขาไว้ได้

ความเสียหายจากการหยุดสงคราม เป็นสิ่งที่ปาเลสไตน์ ได้รับผลกระทบมากกว่า การทำสงคราม

ซาลามีย์ ได้ชี้ถึง ข้อเสนอ ในการยุติสงคราม โดยอียิปต์ว่า อิยิปต์ นับเป็นประเทศอาหรับแห่งหนึ่ง ที่อยู่ใกล้กับปาเลสไตน์ ที่ได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็ก และเหล่าแม่ชาวปาเลสไตน์ ได้เป็นอย่างดี และพวกเขายังเห็นระเบิดที่ถูกทิ้งลงมาในปาเลสไตน์ อีกด้วย แต่ก็ปิด ราฟาฮ เพราะมันชัดเจนอยู่แล้ว ว่า ข้อเสนอของอียิปต์ เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของอิสราเอล และมันเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ ข้อเสนอนี้ ดำเนินไปเพื่อ ให้ ฮามาส ทิ้งอาวุธ แต่เราต่างก็รู้ว่า การยุติสงคราม จะส่งผลเสียให้กับชาวปาเลสไตน์ มากกว่า การทำสงครามเสียอีก

อิสราเอล และสหรัฐ จะยอมให้เกียริติในการเผชิญหน้ากับอำนาจเท่านั้น

นายพล ฮูเซน ซาลามีย์ ชี้ว่า “รัฐเถื่อนไซออนิสต์ และสหรัฐอเมริกา เข้าใจถึงเหตุผลของการใช้อำนาจ ได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่อำนาจในการใช้เหตุผล และพวกเขา จะเกรงใจ ต่ออำนาจเท่านั้น  และในทุกวันนี้ พวกเขา ได้ขึ้นบัญชี ฮิสบุลเลาะฮ์ และกองกำลัง ต่างๆ ไว้ในระดับอันตราย ซึ่งเส้นทางนี้่ คือ แกนกลางของรัฐเถื่อนไซออนิสต์

มีอุโมงค์ไหนบ่าง ที่อิสราเอล ไม่สามารถ เคลื่อนไหว บนภากพื้นดินได้  และอุโมงค์ไหนบ้างที่อิสราเอล สามารถเคลื่อนพลได้

ซาลามีย์ เน้นย้ำถึง ถึงความพ่ายแพ้ ของไซออนิสต์ ในสงคราม ว่า มีอุโมงค์ไหนบ้าง ที่กองทัพอิสราเอล สามารถเคลื่อนพลภาคพื้นดินได้ และอุโมงค์ใหนบ้างที่อิสราเอล ทำไม่ได้ พวกเขา ทำได้แค่ โจมตีทางอากาศ และปล่อยระเบิด ซึ่ง ทางฮามาส ก็จะยิงจรวดในการตอบโต้เช่นกัน

กองทัพฮามาส มีศักดิ์ศรี และความเป็นลูกผู้ชาย

ซาลามีย์ กล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตของทหารฝ่ายไซ ออนิสต์ คือ 67 คน ซึ่ง 64 คนเป็นทหาร และ3คนเป็นพลเรือน นี่คือการแสดงให้เห็นถึง ไหวพริบ และจริยธรรม ของกองทัพฝ่ายฮามาส  ในขณะที่ อิสราเอล ได้ สังหาร พลเรือน ชาวปาเลสไตน์ ไป 2,000 คน

โดมเหล็ก ทำงานได้ อย่างมาก 20 เปอร์เซ็นต์

ซาลามีย์ ได้เผยถึง การทำงานของโดมเหล็ก ว่า ไม่มีทางที่ อาวุธที่ใช้สำหรับการป้องกัน จะสามารถยับยั้ง อาวุธที่ใช้โจมตีได้ โดมเหล็กไม่สามารถที่จะหยุดยั้ง จรวดของชาวปาเลสไตน์ มันสามารถทำงานได้อย่างมากเพียง 20 เปอร์เซ็นต์


เขตเวสแบงก์ จะติดอาวุธ ในที่สุด

ผบ.ซาลามี ชี้ถึง บทบาทของเขคเวสแบงค์ว่า ” เขตเวสแบงก์ได้สร้างกองกำลังของตนเอง ภายใต้ความกดดันทางการเมือง และ ภายใต้ การปกครอง ของไซออนิสต์ และถึงแม้ว่า ปาเลสไตน์ จะมี หัวใจ เพียงดวงเดียว แต่ก็ด้วยหัวใจดวงนี้ ที่ทำให้ ชาวปาเลสไตน์ รวมกันเป็นปึกเเผ่นในวันนี้ ซึ่งนั้น คือผลจากสงครามในครั้งนี้

แน่นอนว่า เวสแบงก์และกาซ่า จะดำเนินการร่วมกัน อย่างเป็นระบบ และ จะติดอาวุธอย่างเต็มประสิทธิภาพในท้ายที่สุด แน่นอนว่าในตอนนี้ พวกเขาสู้ด้วยก้อนหิน กาซ่าเองก็สู้ด้วยก้อนหิน และสู้ด้วย จรวดมิซไซล์ และ เครื่องบินไร้คนขับ ซึ่งนี้ คือ สิ่งที่ เกิดขึ้นแล้ว

 

ที่มา http://farsnews.com/newstext.php?nn=13930519000013