sputniknews – นักวิเคราะห์ต่างมีความเห็นพ้องต้องกันว่าการลอบสังหารนาย Andre Gnadyvvych Karlf ทูตรัสเซียในอังการานั้น มันเกี่ยวข้องกับความพ่ายแพ้ของผู้ก่อการร้ายในอาเลปโป แน่นอนว่ามือลอบสังหารมีความมั่นใจว่าการลอบสังหารนี้ไม่อาจที่จะทำลายความสัมพันธ์ของตุรกีและรัสเซียได้ ดังนั้นคำถามมีอยู่ว่าทำไมจึงลอบสงหารทูตรัสเซียในอังการา?
ทันทีที่เกิดการลอบสังหารเอกอัครราชทูตรัสเซียในอังการา เจ้าหน้าที่ตุรกีได้โยนความผิดให้กับกลุ่มสนับสนุนฟัตฮุลลาฮ์ กูเลน และทำการตำหนิสหรัฐอเมริกาและตะวันตกสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่จะอย่างไรก็ตามบรรดาผู้สังเกตการณ์ที่ได้เฝ้าตรวจสอบพื้นที่สาธารณะของตุรกีในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาบ่งบอกว่าเป็นบรรยากาศที่ตึงเครียดและยุ่งเยิงเป็นอย่างมากและมีการโฆษณาชวนเชื่อของสื่อๆที่มีต่อรัสเซียและอิหร่าน ซึ่งเหตุการณ์ในตุรกีนั้นมันจะรุนแรงขึ้นและเกรงว่าอาจจะมีเหตุการณ์ที่เลวร้ายอย่างไม่คาดฝันเกิดขึ้น
นักวิเคราะห์หลายคนแม้ในระดับมือสมัครเล่นก็สามารถบอกได้ว่าสถานทูตและนักการทูตจากรัสเซียและอิหร่านในอังการาไม่มีความปลอดภัยในชีวิตแม้แต่น้อย และเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะถูกลอบสังหารได้ทุกเมื่อหรือจะเกิดการประท้วงโจมตีสถานทูต
ในเรื่องนี้รัฐบาลตุรกีมีบทบาทสำคัญในการปั่นความคิดของประชาชนที่มีต่อรัสเซียและอิหร่าน และไม่สามารถที่จะโยนความผิดอันนี้ให้กับผู้อื่นได้ ทุกคนรู้ว่าหลังจากความพยายามทำรัฐประหารในประเทศล้มเหลว หน่วยงานรักษาความปลอดภัยจะมีการเข้มงวดกวดขันในการปราบปรามการชุมนุมสี่หรือห้าคนในสถานที่สาธารณะ แล้วนับประสาอะไรคนหลายร้อยคนที่ทำการชุมนุมกันหน้าสถานทูตของรัสเซียและอิหร่านแต่กลับสามารถดำเนินการชุมนุมได้เฉย
จากสถานการณ์ดังกล่าวกองกำลังความมั่นคงตุรกีต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยมากขึ้นเพื่อป้องกันความปลอดภัยและชีวิตของนักการทูตรัสเซีย แต่เรากลับเห็นว่าฆาตกรสามารถเข้าไปในสถานที่ที่เต็มไปด้วยกองกำลังความมั่นคงได้อย่างง่ายดายหลังจากนั้นก็ได้ลงมือสังหารเอกอัครราชทูตรัสเซียอย่างเลือดเย็น
รัฐบาลตุรกีและกองกำลังรักษาความปลอดภัยที่ไม่สามารถที่จะจินตนาการได้ว่ากล่าวหาผู้สนับสนุนของ ฟัตฮุลลาฮ์ กูเลน อยู่เบื้องหลังนั้นสามารถปัดหน้าที่ของตนเองได้ จากนั้นเรื่องราวนี้ก็จบลงและกูเลนต้องออกมารับผิดชอบในกรณีนี้
หากนึกภาพว่ามือสังหารได้ตัดสินใจลงมือทำคนเดียวถือว่ามันเป็นการจินตนาการที่ดิบเป็นอย่างมาก เพราะเงื่อนไขและเทคนิคการดำเนินการดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ามีการวางแผนอย่างละเอียดรอบคอบจึงจะสามารถลอบสังหารทูตได้ เป็นการวางแผนอย่างแม่นยำซึ่งบรรดาผู้ปฏิบัติการรู้ว่าเป้าหมายคือใครและทูตจะเดินทางไปไหนเมื่อไหร่ และโอกาสที่ดีที่สุดที่จะลอบสังหารทูตที่ไหน และสามารถที่จะเข้าไปปฏิบัติการอย่างไร จากนั้นผู้ก่อการร้ายก็ถูกฆ่าตายโดยไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ
ทุกกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังรู้ว่ารัฐบาลรัสเซียที่มีชั้นเชิงมากในด้านนี้ย่อมเข้าใจในสิ่งนี้เป็นอย่างดีว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร และการลอบสังหารทูตรัสเซียในอังการานอกเหนือจากเพื่อต้องการตัดความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศแล้วยังมีเป้าหมายเพื่อส่งสาส์นไปยังรัสเซียอีกด้วย
ปรากฏการณ์แห่งความสำเร็จของกองทัพซีเรียในการปลดปล่อยอาเลปโป และการสนับสนุนที่เต็มที่ของรัสเซียที่มีต่อรัฐบาลอันชอบธรรมของซีเรีย ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือในเวทีระหว่างประเทศสร้างความโกรธแค้นให้กับบรรดาผู้สนับสนุนผู้ก่อการร้ายทั้งหลาย
เรื่องราวทั้งหมดทางตะวันออกของอาเลปโปและความวุ่นวายทั้งหมดที่สื่อตะวันตกได้โฆษณาชวนเชื่อ หาใช่ว่าเพราะพวกเขามีความกังวลต่อพลเรือนผู้หญิงและเด็กๆ แต่เพราะพวกเขาเป็นห่วงว่าเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของพวกเขาถูกปิดล้อมอยู่ที่นั่น
ตามสถิติล่าสุดที่ Bashar Al-Jaafari ทูตซีเรียในสหประชาชาติได้เปิดเผยว่า มีหน่วยงานความมั่นคงและเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองอเมริกัน – อังกฤษ – ฝรั่งเศส – ตุรกี – ซาอุดิอาระเบียหลายร้อยคนติดอยู่ในอาเลปโปตะวันออก และไม่กล้าออกมา เพราะพวกเขากลัวว่าจะเกิดเหตุกับพวกเขาและอาจจะถูกจับตัว
มีมติของสหประชาชาติในเรื่องนี้ที่เสนอให้มีการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าสู่ซีเรียซึ่งบรรดาผู้สนับสนุนผู้ก่อการร้ายต้องการให้แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่ของพวกเขามีความปลอดภัยดี
การยืนกรานของรัสเซียในการป้องกันและมีมาตรการที่เข้มงวดในการถอนตัวของพวกเขาออกจากตะวันออกของอาเลปโปนั้น สามารถเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักในการลอบสังหารนักการทูตรัสเซียในอังการาเพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือนรัสเซีย
อีกเหตุผลหนึ่งที่สามารถอ้างได้คือความสัมพันธ์ที่อบอุ่นและจริงใจที่ไม่คาดคิดระหว่างรัสเซีย – ตุรกีและอิหร่าน ซึ่งทำให้หลายกลุ่มมีความโกรธแค้นมาก
ทั้งสามจะมีการประชุมสามฝ่ายในกรุงมอสโกเพื่อพิจารณาแนวทางในการแก้ปัญหาวิกฤตซีเรีย โดยมีนาย Gnadyvvych Karlf เป็นผู้ประสานให้เกิดความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างรัสเซียและตุรกี เป็นความสัมพันธ์ที่หลายๆประเทศไม่พอใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาติอาหรับในอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งประเทศเหล่านี้ได้ลงทุนนับพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างสงครามและความขัดแย้งในซีเรียและถือว่าตนมีบทบาทและกุญเจสำคัญในเรื่องนี้ แต่ทว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ร่วมประชุมในมอสโกและไม่ได้มีบทบาทและสถานภาพดั่งที่ต้องการและแน่นอนยิ่งเมื่อเหตุการณ์กลับไม่เป็นดั่งใจต้องการจึงเป็นเรื่องปกติและธรรมชาติที่ทำให้พวกเขาได้รับบทเรียนราคาแพง
พวกเขารู้สึกว่าถูกตุรกีแทงจากด้านหลังและหันกลับไปจับมือกับรัสเซียและอิหร่าน ดังนั้นการปฏิบัติการดังกล่าวต้องการจะบอกว่าพวกเขายังอยู่ในใจกลางกรุงอังการาและยังสามารถที่จะลอบสังหารเจ้าหน้าที่ระดับสูงและนักการทูต ซึ่งสาส์นอันนี้ไม่เพียงแค่รัสเซียแต่ยังรวมถึงรัฐบาลตุรกีอีกด้วย
แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าตัวเองว่า การลอบสังหารเอกอัครราชทูตรัสเซียก็ไม่น่าที่จะส่งผลกระทบเชิงความสัมพันธ์รัสเซีย-ตุรกี อย่างไรก็ตามจากนี้ไปทั้งสองทูตของรัสเซียและอิหร่านในตุรกีจะต้องมีความระมัดระวังมากขึ้นและสร้างขอบเขตจำกัดในความสัมพันธ์ของพวกเขากับประชาชนให้รัดกุมมากกว่าเดิม
อีกตัวเลือกหนึ่งที่สามารถหยิบยกมานำเสนอกรณีการลอบสังหารคือ บางกลุ่มไม่พอใจต่อการหยุดยิงในซีเรียและต้องการให้เกิดการต่อสู้และการเผาไหม้อย่างต่อเนื่องด้วยเหตุผลนี้จึงทำการลอบสังหารเอกอัครราชทูตรัสเซีย เพื่อให้รัสเซียแสดงปฏิกิริยาตอบโต้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในซีเรีย ด้วยเหตุนี้มันจะปะทุไฟสงครามอีกครั้ง ทำให้การประกาศหยุดยิงล้มเหลว และการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย – อิหร่านและตุรกีเป็นในมอสโกต้องยกเลิกโดยปริยาย
นอกเหนือนั้นภาคธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศตุรกีซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้หลักของประเทศก็ต้องได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เพราะว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากรัสเซียและอิหร่านที่ก็จะลังเลที่จะเดินทางไปยังตุรกี และต่างก็จะอยู่ความภวังค์ ในการตัดสินใจเป็นเวลานานว่าประเทศที่ไม่สามารถให้ความปลอดภัยแก่เอกอัครราชทูตแล้วจะสามารถให้ความปลอดภัยแก่พวกเราได้หรือไม่ ? ด้วยเหตุนี้จึงก่อให้เกิดความเสียหายทางการเงินขนาดใหญ่ให้กับรัฐบาลตุรกี และทำให้กระเป๋าของประเทศที่ให้การสนับสนุนผู้ก่อการร้ายในสงครามซีเรียนับพันล้านดอลลาร์ต้องเสียเปล่า
อีกด้านหนึ่งเราไม่ควรลืมว่าบรรดาผู้ก่อการร้ายในซีเรียและอิรักจำนวนมากเดินไปมาอย่างอิสระในตุรกีสถานการณ์ความปลอดภัยตุรกีเนื่องจากข้อพิพาททางการเมืองภายในประเทศระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้านมีความซับซ้อนมาก เกิดการเผชิญหน้าระหว่างรัฐบาลตุรกีกับชาวเคิร์ดที่อ้างเพื่อดำเนินการก่อการร้ายภายในประเทศตุรกีและสถานที่อื่น ๆ
แน่นอนผลของการตรวจสอบและสอบสวนจะแสดงให้เห็นว่าประเทศใดหรือชาติใดที่อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารครั้งนี้ และพวกเขารู้ว่ารัสเซียจะตอบโต้อย่างแน่นอน นั่นเป็นเหตุผลที่เราสามารถพูดได้ว่าเรื่องนี้จะไม่จบลงเพียงเท่านี้แต่มันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการลอบสังหารบรรดาทูต
อย่างไรก็ตามตุรกีในวันนี้เต็มไปด้วยงูและแมงป่อง และมันจะกัดคนหนึ่งคนใดได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าประชาชนคนธรรมดา บรรดานักเดินทางและนักการทูตในตุรกีที่จะเป็นตัวเลือกสุดท้ายของพวกเขา