7 เหตุการณ์ที่จะเปลี่ยนโลกในปี 2017 !

2469

alalam – หนังสือพิมพ์อังกฤษ “เดลี่เอ็กซ์เพรส” ทำการวิเคราะห์แปดเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงโลกโดยรวมในปี 2017 ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากผ่านเหตุการณ์ครั้งสำคัญในช่วงท้ายของปีที่ผ่านมา

การที่อังกฤษออกจากสมาชิกสหภาพยุโรปครั้งประวัติศาสตร์ตามความประสงค์ของพลเมืองของตนถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ส่งอิทธิพลในปี 2016

อย่างไรก็ตามเจ็ดการเปลี่ยนแปลงตามรายงานที่คาดว่าจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโลกในช่วงปีปัจจุบันมีดังนี้

1. การเข้าสู่ทำเนียบขาวของ โดนัลด์ ทรัมป์

โดนัลด์ทรัมป์ ประธานาธิบดีของอเมริกาแห่งพรรครีพับลิกันมีการเตรียมการอย่างเป็นทางการที่จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ยี่สิบมกราคมในทำเนียบขาว ซึ่งเขาสามารถคว้าชัยในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วในการเลือกตั้งประธานาธิบดี

ทรัมป์ให้สัญญาที่จะทำการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน พร้อมกับคาดหวังที่จะแสดงปฏิกิริยาต่อความสำเร็จของบารักโอบาอดีตประธานาธิบดีของอเมริกาในการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน

นอกจากนี้โลกกำลังรอการตอบสนองของรัสเซียเกี่ยวกับการตัดสินใจของโอบามาที่ได้ขับไล่นักการทูตของรัสเซียจำนวน 35 คนในข้อหาแทรกแซงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา

ความสัมพันธ์ของอเมริกากับอิสราเอลหลังจากการมีมติคัดค้านการตั้งถิ่นฐานของยิวไซออนิสต์ จากจอห์นเคอร์รีรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ล้วนเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ชาวโลกให้ความสนใจต่อจุดยืนของรัฐบาลชุดใหม่ของอเมริกาที่มีต่อเหตุการณ์ดังกล่าว

  1. การเจรจาซีเรีย

การหยุดยิงในซีเรียมีขึ้นเมื่อวันที่ 29 ธันวาคมระหว่างทั้งสองประเทศเป็นรัสเซียและตุรกี คาดหวังว่าการเจรจาที่จะขึ้นในกรุงอัสตานาในเดือนนี้จะเป็นไปในทิศทางที่ดี

  1. เริ่มต้นการเจรจาในการที่อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์อังกฤษ “เดลี่เอ็กซ์เพรส” เทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้เตรียมสนธิสัญญาลิสบอน 50 ข้อในการเปิดตัวในช่วงปลายเดือนมีนาคมปีนี้  และการกระทำนี้มีความเป็นไปได้ที่สูงที่จะเข้าสู่ขั้นตอนทางกฎหมายซึ่งจะนำไปสู่การเจรจาการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป คาดหวังว่าการเจรจาที่ได้ใช้เวลาสองปีที่ผ่านมาจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ของอังกฤษกับยุโรปและประเทศอื่นๆ

  1. การเลือกตั้งเนเธอร์แลนด์

ตามกำหนดการจะมีการเลือกตั้งรัฐสภาดัตช์ในช่วงเดือนมีนาคม  ถ้า “Geert Wilders ‘นักการเมืองหัวรุนแรงต่อต้านศาสนาอิสลามชาวดัตช์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในฐานะเป็นศัตรูของชาวมุสลิมและผู้ลี้ภัยได้เป็นประธานรัฐสภา ตามการคาดการณ์ของหนังสือพิมพ์นี้พรรคขวาสุดก็จะได้รับความนิยมในยุโรปอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่เหตุการณ์หลังจากทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาและได้ผ่านการอนุมัติการลาออกของอังกฤษจากสหภาพยุโรป  ซึ่ง Wilders ได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะทำการปิดมัสยิด สั่งห้ามนำเข้าอัลกุรอานในและการลงประชามติให้ประเทศของเขายังคงอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไป

  1. การเลือกตั้งฝรั่งเศส

การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในสองขั้นตอน ขั้นตอกแรกในเดือนเมษายนและครั้งที่สองจะจัดขึ้นพฤษภาคม คาดว่า “มารีนเลอแปน” พรรค “National Front” พรรคฝ่ายขวาจัดของฝรั่งเศสจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี  แต่อย่างไรก็ตามหลายคนมองว่า “ฟรองซัวส์ฟียง” ผู้ท้าชิงรีพับลิกันในฝรั่งเศสซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวาสายกลางเหมาะสมกว่าในการเป็นผ็สมัครชิงประธานาธิบดี ซึ่งเขาถูกรู้จักในนามของผู้ให้การสนับสนุนประธานาธิบดีรัสเซียวลาดิมีร์ปูติน

ข้อสังเกตจากหนังสือพิมพ์ “เดลี่เอ็กซ์เพรส”คือ ชัยชนะของมารีนเลอแปน ที่มีความเป็นปฏิปักษ์ต่อชาวมุสลิมและผู้อพยพจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างหนักต่อชาติยุโรป เพราะเขาเองก็ได้ส่งเสียงออกมาแล้วที่จะให้ฝรั่งเศสถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป

  1. การเลือกตั้งของเยอรมนี

ความล้มเหลวของ Angela Merkel นายกรัฐมนตรีเยอรมันในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อองค์กรระหว่างประเทศเสรีนิยมในตะวันตกและสหภาพยุโรป  ในขณะที่มีข่าวลือออกมาพูดถึงอิทธิพลของรัสเซียที่ได้แทรกซึมในความคิดของพลเรือนเยอรมัน

  1. สภาคองเกรสของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

“สีจิ้นผิง” ประธานาธิบดีจีนจะพยายามที่จะเพิ่มพลังพรรคคอมมิวนิสต์จีนให้มั่นคงในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ทรัปม์มีความพยายามที่จะนำสหรัฐอเมริกาไปสู่การถูกโดดเดี่ยว

ข้อสังเกตคือว่าประเทศจีนมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก คาดว่าเศรษฐกิจโลกอยู่ในร่มเงาของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีที่ผ่านมาและจะทรงมีอิทธิพลต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต