islamtimes – จากอาชญากรรมอันโหดเหี้ยมของลูกหลานอบูละฮับที่ยังปรากฏอย่างต่อเนื่องในเยเมน ทำให้องค์กรสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนได้ออกมาเรียกร้องให้เหล่าพันธมิตรของซาอุฯ หยุดการขายอาวุธให้กับรัฐที่เป็นอาชญากรนี้
สองปีแล้วที่เห็นภาพบาดใจที่กระแทกลงบนความรู้สึกของคนจากอาชญากรรมทั้งหลายของซาอุฯ ในเยเมนได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้เครื่องบินรบทั้งหลายของซาอุฯ ได้โจมตีเยเมนทางอากาศอย่างโหดเหี้ยมมุ่งเป้าโจมตี โรงเรียนอัลฟะลาห์ในเขตพื้นที่มะอ์ศ็อร์ เมืองเนฮัม ซานา หลายครั้ง ทำให้มีนักเรียนเสียชีวิต ภาพเรือนร่างที่แหลกเป็นชิ้นๆ ของเด็กเหล่านี้ได้ถูกตีแผ่ออกมา โดยเฉพาะภาพของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อวัยวะบางส่วนได้ขาดออกจากกัน ร่างที่ไร้ลมหายใจของเธอนอนอยู่เคียงข้างหนังสือและกระเป๋านักเรียน ช่างเป็นภาพที่ทำให้หัวใจทั้งหลายเจ็บปวดยิ่งนัก อาชญากรรมทั้งหมดเหล่านี้ของลูกหลานอบูละฮับเกิดขึ้นด้วยกับการสนับสนุนของตะวันตก
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอังกฤษได้ออกมาเปิดเผยว่า อังกฤษได้ขายระเบิดดาวกระจาย 500 ลูกให้กับราชวงศ์ซาอูด ล่าสุดอาชญากรรมดังกล่าวได้ทำให้องค์กรสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนออกมาคัดค้านอีกครั้ง
ตามรายงานของสำนักข่าวตัสนีม องค์กรสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนได้ออกมาเรียกร้องจากรัฐบาลที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบการละเมิดกฎหมายสงครามในเยเมนทั้งหมด พร้อมร้องขอให้หยุดการขายอาวุธให้กับซาอุฯ ในทันที
รายงานดังกล่าวเผยว่า กองกำลังพันธมิตรภายใต้การนำของซาอุฯ ได้โจมตีบ้านเรือน ตลาด โรงพยาบาล สถานศึกษา โรงงานและมัสยิดต่างๆ อย่างผิดกฎหมาย
สมาชิกทั้งหลายของยูเอ็นจะต้องกดดันฝ่ายต่างๆ เพื่อหยุดการเข่นฆ่าประชาชนพลเรือนที่ไม่ใช่ทหาร และปิดฉากการสร้างความทุกข์ทรมานให้กับพวกเขาเสียที องค์กรนี้ตอกย้ำว่า 61 กรณีการโจมตีทางอากาศของกองกำลังแนวร่วมภายใต้การนำของสหรัฐฯ ได้ถูกบันทึกไว้
ตามรายงานดังกล่าวเปิดเผยเช่นเดียวกันว่ากองกำลังพันธมิตรซาอุฯ ได้ใช้ระเบิดดาวกระจายในเยเมน และสหรัฐฯ กับอังกฤษยังคงไม่หยุดขายอาวุธให้กับซาอุดิอาระเบีย จะได้เห็นได้ว่า ในปี 2015 สหรัฐฯ ได้อนุมัติการขายอาวุธให้กับซาอุฯ ในมูลค่า 20 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่อังกฤษก็ไม่น้อยหน้าได้อนุมัติการซื้อขายอาวุธให้กับกรุงริยาดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านดอลลาร์ด้วยกัน
การก่ออาชญากรรมครั้งใหม่ล่าสุดของซาอุดิอาระเบียทีมีต่อเด็กๆและบรรดาสตรี
เป้าหมายการโจมตีครั้งใหม่ล่าสุดของเรือรบซาอุฯ คือพื้นที่พลเรือนแห่งหนึ่งในจังหวัดตะอิซ เยเมน ทำให้มีผู้สังเวยชีวิตอย่างน้อย 17 ราย และบาดเจ็บอีก 13 ราย เช่นเดียวกัน ในเมืองอัลฮะดีดะฮ์ ซาอุฯ ได้โจมตีไปยังบ้านหลังหนึ่งซึ่งมีเด็กและผู้หญิงเสียชีวิต 7 ราย
ขณะเดียวกันกองกำลังและคณะประชาชนเยเมนก็ประสบความสำเร็จในการตอบโต้ไปยังอาชญากรรมดังกล่าว โดยการสร้างความล้มเหลวให้กับปฏิบัติการณ์ต่างๆ ของสมุนรับจ้างซาอุฯ โจมตีฐานที่มั่นทางการทหารทั้งหลายของประเทศนี้ เป็นเหตุให้สมุนรับจ้างซาอุฯ เสียชีวิตและรถยนต์หุ้มเกราะจำนวนหนึ่งถูกทำลาย.