kayhan.ir – ในขณะที่กองทัพของอิรักและซีเรียกำลังทำลายที่หลบภัยหลังสุดท้ายของกลุ่มก่อการร้ายตักฟีรีไอซิส และประชาชนของประเทศทั้งสองนี้ก็กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเฉลิมฉลองชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่อยู่นั้น เหล่าสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนการก่อการร้ายกำลังรวมหัวกันวางแผนที่อันตรายรอบใหม่อีกครั้ง
เหล่าผู้สนับสนุนการก่อการร้ายกำลังเปลี่ยนแผนของตนหลังเล็งเห็นถึงชัยชนะอันใกล้ของกองกำลังอิรักและซีเรียที่มีต่อไอซิส และอัลนุศรา ฟรอน์ในพื้นที่ต่างๆ เป้าหมายใหม่ของพวกเขาในอิรักคือการดึงให้สังคมมุสลิมซุนนีขึ้นมาเผชิญหน้ากับมุสลิมชีอะฮ์และรัฐบาลชีอะฮ์อีกครั้ง และแผนนี้ได้เริ่มขึ้นแล้วภายใต้นามการประชุมของอิรักที่ถูกจัดขึ้นนอกประเทศนี้ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ในซีเรียก็เช่นกันแผนการที่ซับซ้อนกำลังก่อตัวขึ้น
การมองโดยภาพรวมไปยังการประชุมนัดต่างๆ ที่น่าสงสัย บ่งชี้ว่าเหล่าบรรดาผู้สนับสนุนการก่อการร้ายมีความกังวลอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ที่เกิดขึ้น พวกเขาต้องการเริ่มแผนการใหม่ ต้องการเสี่ยงอีกครั้งก่อนที่จะสายเกินไป และทำให้ผลกระทบจากความพ่ายแพ้ของกลุ่มก่อการร้ายในอิรักและซีเรียมาถึงพวกเขา
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาบรรดาผู้หนุนหลังการก่อการร้ายไอซิสในอิรักได้จัดการประชุมหารือที่น่าสงสัยขึ้นมา 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ในเจนีวา และครั้งที่สองเมื่อวันที่ 7 มีนาคมในเมืองอิสตันบูลของตุรกี
ในการประชุม ณ อิสตันบูล ผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหมดได้รวมตัวกัน ประเทศทั้งหลายที่หนุนหลังไอซิสและกลุ่มก่อการร้ายตักฟีรี อาทิเช่น ตุรกี กาตาร์ และซาอุฯ ได้ส่งตัวแทนของตนเข้าร่วมการประชุมหารือดังกล่าวและจากอิรักเองก็มีการปรากฏตัวของบุคคลต่างๆ เฉกเช่น ” อะซามะฮ์ อัลนะญีฟี” และพี่ชายของเขา ” อะซีล ” ” เคาะมีซ อัลคันญัร ” ” ศอลิฮ์ มุฏลัก ” ( ขบวนการอัลอารบียะฮ์ ) ” รอเฟีอย์ อัลอีซาวา” และ ” ฏอริก อัลฮาชิมี ” ( สองผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวพันการก่อการร้าย ) และ ” อัยยาด อัลซามิรออี ” ( พรรคอิสลาม )
เป็นเรื่องน่าแปลกที่เหล่าผู้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวต่างไม่ให้ความสนใจใดๆ ต่อชัยชนะทั้งหลายที่กำลังเกิดขึ้นของกองกำลังอิรัก แต่กลับพูดถึงประเด็นความขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอิรักก่อนการมาของไอซิสขึ้นมาอีกครั้ง การสร้างพื้นที่ชุมชนซุนนี การสลายกองกำลังอาสาประชาชน และการมอบสิทธิ์การกำหนดชะตากรรมให้แก่ชาวเคิร์ดในภาคตะวันออกของอิรัก เหล่านี้ล้วนเป็นความต้องการของเหล่าผู้เข้าร่วมการประชุมในอิสตันบูล
เมื่อข่าวดังกล่าวได้ถูกตีแผ่ออกมา กองกำลังแห่งชาติอิรักโดยการนำของซัยยิดอัมมาร ฮะกีม ได้แถลงการณ์โต้ตอบว่า : ในขณะที่กองกำลังความมั่นคง กองกำลังอาสาประชาชน และกองกำลังชนเผ่าต่างๆ ของอิรักกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการได้รับชัยชนะครั้งใหญ่เหนือไอซิสอยู่นั้น ในนอกประเทศของอิรักกลับมีการจัดประชุมที่น่าสงสัยขึ้นมาด้วยการสนับสนุนของบางประเทศในภูมภาค
คณะตัวแทนจำนวนหนึ่งของรัฐสภาอิรักก็ได้รวมตัวการรวบรวมลายเซ็นเพื่อให้ทางศาลพิพากษาบุคคลทั้งหมดที่เข้าร่วมการประชุมในอิสตันบูล
แต่ทว่า ในซีเรียสถานการณ์กำลังซับซ้อนและอันตรายกว่า ดังที่ทราบกันดี ว่ากองกำลังต้านทานและกองทัพซีเรียได้รับชันชนะครั้งสำคัญต่างๆ ในประเทศนี้ แต่ชัยชนะดังกล่าวมาพร้อมกับการเพิ่มกองกำลังสหรัฐฯ ในจังหวัดต่างๆ ของอเลปโป ฮะซะเกาะฮ์ และรักเกาะฮ์ ซึ่งขณะนี้กองกำลังสหรัฐฯ ในซีเรียมีถึง 1,000 นาย
ขณะเดียวกันกองกำลังตุรกีก็ปรากฏตัวในภาคเหนือของซีเรีย และกองกำลังฝ่ายกบฏซีเรียที่อยู่ในการสนับสนุนของประเทศนี้ได้เข้าควบคุมเมืองอัลบาบซีเรีย สหรัฐฯ และตุรกีกำลังแสวงหาเป้าหมายร่วมกันในซีเรีย สร้างพื้นที่เซฟโซนในภาคเหนือ ควบคุมเมืองมินบัจญ์ และรักเกาะฮ์ และเสริมสร้างการปรากฏตัวของตนในภูมิภาคให้แข็งแกร่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นประเด็นชาวเคิร์ดทำให้อังการ่าไม่พอใจวอชิงตันอย่างรุนแรงที่สนับสนุนชาวเคิร์ดซีเรีย
โดยภาพรวมแล้ว ประเทศทั้งหมดที่หนุนหลังการก่อการร้ายรวมทั้งยูเอ็นมีเป้าหมายเดียวกันในซีเรีย นั่นคือการลงจากอำนาจของบัชชาร์ อัสซาด สโลแกนที่พวกเขาต้องการให้เป็นจริงตลอดหกปีที่ผ่านมาแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ในขณะเดียวกันการหนุนหลังของอังการ่าต่อไอซิสยังคงดำเนินอยู่
เมื่อวานนี้สำนักข่าวตัสนีมได้รายงานเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า กองกำลังซีเรียประสบความสำเร็จในการยึดอาวุธจำนวนมากที่ถูกส่งให้กับไอซิสโดยผ่านตุรกีในตอนเหนือของอาเลปโป
สเตฟาน เดอ มิสตูรา ทูตพิเศษด้านซีเรียของสหประชาชาติได้เผยเช่นกันว่า ด้วยกับการปรากฏตัวของบัชชาร อัสซาด การจัดการเลือกตั้งในซีเรียเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ !
ความหมายของคำพูดดังกล่าวคือยูเอ็นมิได้ปิติยินดีกับชัยชนะทั้งหลายของกองกำลังซีเรีย นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ยูเอ็นแสดงจุดยืนต่อต้านบัชชาร์อย่างชัดเจน และเรียกร้องให้เขาลงจากอำนาจ ยูเอ็นที่มาเพื่อเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย !
ขณะเดียวกันนอกเหนือจากความขัดแย้งระหว่างอังการ่ากับวอชิงตันเกี่ยวกับประเด็นชาวเคิร์ดซีเรียแล้ว ยังมีความขัดแย้งเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างรัสเซียและตะวันตกเกี่ยวกับซีเรียอีกด้วย ความพยายามของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการสร้างระยะห่างระหว่างรัสเซียและอิหร่านเป็นที่ชัดเจน และตุรกีเองก็นำตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องในประเด็นนี้ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกีกล่าวอย่างเป็นทางการว่าจะพยายามจนกว่าจะทำให้สหรัฐฯ และรัสเซียมีจุดยืนที่ใกล้เคียงกันในการสร้างพื้นที่เซฟโซนในซีเรีย ซึ่งเป้าหมายของตุรกี ณ ตอนนี้คือเมืองรักเกาะฮ์ของซีเรียดังที่เขาได้กล่าวในการพบปะกับปูตินในมอสโก การวางแผนดังกล่าวสำหรับเมืองรักเกาะฮ์เกิดขึ้นในขณะที่ซีเรียผู้เป็นเจ้าของประเทศย้ำอยู่หลายต่อหลายครั้งว่า การปรากฏตัวของกองกำลังตุรกีในซีเรียนั้นผิดกฎหมาย เพนตากอนเผยเช่นเดียวกันว่า จะร่วมมือกับรัสเซียในการปฏิบัติการณ์ในซีเรีย
เกี่ยวกับประเด็นการเคลื่อนไหวที่น่าสงสัยได้มีรายงานออกมาจากวอชิงตันว่า กองกำลังสหรัฐฯ เตรียมพร้อมสำหรับทำสงครามกับไอซิส แต่ทว่าความหมายของปฏิบัติการณ์ดังกล่าวมิได้มีสิ่งใดนอกเหนือไปจากการลงจากอำนาจของบัชชาร์ อัสซาด และกำจัดภัยอันตรายออกจากชายแดน ทั้งหลายของรัฐเถื่อนไซออนิสต์
การกำจัดอิหร่านและฮิซบุลลอฮ์ออกจากการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงในซีเรียคือเป้าหมายของสหรัฐฯ และตุรกี แม้รัสเซียจะมีจุดยืนที่ตรงข้ามเกี่ยวกับประเด็นนี้ แต่ยังไม่เผยออกมาอย่างชัดเจนว่าคัดค้านนโยบายครั้งใหม่ของสหรัฐ ฯ และตุรกีในซีเรียหรือไม่…. !?