อยาตุลเลาะฮ์ นะมัร บากิรุลนัมร์ นักต่อสู้เพื่อสิทธิประชาชน ผู้ถูกซาอุสั่งประหารชีวิต

929

บุคคลสำคัญที่ กำลังเป็นกระแสของการประท้วงใน ตะวันออกกลาง อยู่ในขณะนี้ ก็คือ เชค นะมัร หรือ อยาตุลเลาะฮ์ เชค นะมัร บากิรุลนัมร์ สิ่งที่ โลกอิสลาม กำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ ก็คือ การสั่งประหารชีวิต เชคนะมัร โดยศาลซาอุ 

ซึ่งในวันนี้เราจะพูดถึง ชีวประวัติการต่อสู้ของ เชคนะมัร หรือ วิเคราะห์หาสาเหตุที่ทำให้ศาลซาอุ ต้องตัดสินประหารชีวิตเชคผู้นี้

สำนักข่าวอัลมะนาร รายงานว่า การแสดงความกล้าหาญของเชคนะมัร ที่ไม่กลัวเกรงต่อเหล่าผู้มีอิทธิพล ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนจนนำไปสู่การจับกุมและการออกคำสั่งประหารชีวิตท่าน โดยอาจเป็นไปได้ว่า คำสั่งประหารชีวิต อาจจะเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ในภายภาคหน้า

เชคนะมัร เกิดใน ปี ฮศ 1379 เมือง อาวามียะฮ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในเมืองของ จังหวัด กาตีฟ ทางด้านตะวันออกของ ซาอุดิอาราเบีย ท่านได้เข้ารับการศึกษาชั้นประถมในโรงเรียนของเมืองอาวามียะฮ และหลังจากนั้น ท่านได้เดินทางมายังอิหร่านในปี 1399 เพื่อศึกษาศาสนา ภายหลังจากศึกษาได้เป็นระยะเวลาประมาณ 10 ปี ท่านได้เดินทางไปยังซัยนาบียะฮ ประเทศซีเรีย

อาจารย์ของเชคนะมัร ล้วนเป็นบุคคลแถวหน้า เช่น ซัยยิด มูฮัมมัด ตะกีย์ อัลมุดัรริซ หลังจากเรียนศาสนาได้ระยะหนึ่ง ท่านจะสำเร็จการศึกษาในระดับอิจติฮาด หรือผู้มีความสามารถในการออกคำวินิจฉัยทางศาสนา และเมื่อสำเร็จการศึกษา ท่านได้จัดสอน และ เผยแพร่ศาสนา ในเวลาต่อมา

ใน ปี 2011 หลังจากที่ ระบบเผด็จการ ในตูนีเซีย และอิยิปต์ ล่มสลาย เกิดการประท้วงขึ้นในบาห์เรน ทางซาอุดิอาราเบียได้สั่งห้ามไม่ให้เชคนะมัร ขึ้นกล่าวปราศัย และห้ามทำการสอน ตั้งแต่ปี 2008 เพราะเล็งเห็นว่า การปราศัย ของท่าน เกี่ยวกับ เสรีภาพทางการเมือง ทำให้เกิดการตื่นตัวของโลกอิสลาม

ในช่วงนั้น กองกำลังฝ่ายทหารบาห์เรน ได้ร่วมกับกองกำลังของซาอุปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงต่อรัฐบาลในเมืองอัลกาตีฟ   หลังจากนั้นการประท้วงในบาห์เรน ก็เริ่มแพร่กระจายมากขึ้น

โดยทางเจ้าหน้าที่ ระดับสูงของซาอุ ได้จับกุม บรรดาผู้ประท้วงในเมืองกาตีฟ นับร้อยคน ด้วยข้อหาเข้าร่วมการเคลื่อนไหว เพื่อทำการประท้วง

เชค นะมัร เป็นซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำการประท้วง ได้ต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิความเป็นประชาชนชาวซาอุ โดยได้ประท้วงและมีความต้องการที่จะปกป้องความเชื่อ และสิทธิเสียงของประชาชน

เมื่อสถานการณ์เริ่ม บานปลาย กองกำลังซาอุจึงตัดสินใจติดอาวุธให้แก่เหล่าทหาร เพื่อใช้ในการปราบปรามจราจลอย่างถอนรากถอนโคน การตัดสินใจของกองทัพนำไปสู่ความรุนแรงในเมืองต่างๆ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ถึงกระนั้นทางกลุ่มผู้ประท้วงก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้ให้กับความรุนแรง ที่ทางฝ่ายทหารเลือกใช้ปฏิบัติกับประชาชน แต่เป็นเพราะ เชคนะมัร ได้ขอให้ยกเลิกการเคลื่อนไหวของประชาชน และเยาวชนในเมืองอัลอาวามียะฮ สถานการณ์จึงค่อยสงบลง

หนึ่งในคำปราศัยที่ เป็นที่เลื่องลือ ของเชค ก็คือ “เสียงคำรามของราชสีห์ที่เรียกร้องสัจธรรมนั้น ดังยิ่งกว่าเสียงปืน”  

คำกล่าวอันนี้ของท่าน ได้ปลุกจิตใจบรรดาประชาชนชาวซาอุ ทำให้พวกเขาไม่กลัวสิ่งใด และเดินหน้าเพื่อเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมต่อไป แม้ว่าจะต้องเจอกับห่ากระสุนปืนก็ตาม กระนั้นทางการซาอุ ก็ยังคงยึดวิธีติดอาวุธให้ทหารในการแก้ปัญหาต่อไป จนทำให้ ประชาชนชาว อัลอาวามียะฮ เสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก หลังจากเหตุการณ์นองเลือด และเพราะการยึดหลักการของท่าน ในการกล่าวคำปราศัย  โดยได้ ตะโกนกู่ก้อง เปิดเผยถึงการกระทำของ รัฐบาลซาอุ เช่นการเนรเทศ การทำลายสิทธิเสรีภาพของประชาชน และการจำกัดผลประโยชน์ ต่างๆ ในอื่นๆ

ในปี 2012 ซาอุ เห็นว่า หากปล่อยให้ เชคนะมัร พูดต่อไป จะทำให้บัลลังค์ของพวกเขาต้องสั่นคลอน จึงได้วางแผนลอบโจมตีเชค ในถนนเส้นหนึ่ง มีการกราดยิงกระสุนใส่รถของท่าน โดยการนี้ ทำให้ท่านถูกยิงด้วยกระสุนไม่ทราบ ชนิด 4 นัด และ ได้ลักพาตัวท่าน หลังจากนั้น พวกเขาได้ พาท่านไปรักษาที่ โรงพยาบาล อัซซารอน แล้งจึงย้ายไป โรงพยาบาล ทหาร ในริยาซ และหลังจากนั้นได้ย้ายท่านไปขังไว้ในเรือนจำในเวลาต่อมา

การจับกุมตัวเชคนะมัร ได้ทำให้เกิดกระแสการประท้วง อย่างแพร่หลายในซาอุดิอาราเบีย และจากการประท้วง ก็มีหลายคนที่ถูกสังหารเสียชีวิต

ล่าสุดทางศาส ซาอุ ได้สั่งประหารเชคนะมัร แต่สถานการณ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา การประหารเชคนะมัร

นักการศาสนานิ กายชีอะฮท่านนี้ ถูกสั่งประหาร เพราะเรียกร้องสิทธิของประชาชน และเรียกร้องสิทธิให้กับนัก โทษทางการเมือง การกระทำของท่านนั่น ควรได้รับการสรรเสริญ ไม่ใช่ การประหาร และแน่นอน ถ้าหากมีการประหารชีวิตเกิดขึ้น เลือดทุกหยดของท่าน จะสั่นคลอนบัลลังค์ของราชวงศ์ซาอูด และนำสู่การล่มสลาย อย่างเร็ววัน