jamnews – ในปี 1989 เป็นวันอสัญกรรมของอิมามโคมัยนีผู้สถาปนารัฐอิสลามอิหร่าน ได้มีประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมในพิธีฝังศพท่านอย่างเนืองแน่นอย่างไม่เคยมีปรากฏมาก่อน และในวันนี้ถึงแม้นว่าจะผ่านพ้นไปหลายสิบปีแล้วก็ตาม ในวันครบรอบอสัญกรรมของท่านปีนี้ก็ยังได้รับการตอบรับและจัดงานครบรอบอย่างยิ่งใหญ่มากกว่าเดิม
หนังสือพิมพ์อเมริกา นิวยอร์กไทม์ส เขียนรายงานชิ้นหนึ่ง ภายใต้หัวข้อ “รูฮุลลอฮ์ โคมัยนี บุรุษผู้ทำให้ทั้งโลกทั้งผองตกตะลึง” ในวาระครบรอบวันอสัญกรรมของผู้สถาปนารัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ว่า ในวันอสัญกรรมของอิมามโคมัยนีผู้สถาปนารัฐอิสลามอิหร่านในปี 1989 ได้มีประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมในพิธีฝังศพอย่างเนืองแน่นชนิดที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อน และในวันนี้ถึงแม้นว่าจะผ่านพ้นไปหลายสิบปีแล้วก็ตาม ในวันครบรอบอสัญกรรมของท่านปีนี้ก็ยังได้รับการตอบรับและจัดงานครบรอบอย่างยิ่งใหญ่มากกว่าเดิม
หนังสือพิมพ์อเมริกา นิวยอร์กไทม์ส เขียนเสริมว่า ประชาชนนับล้านคนได้เข้าร่วมในพิธีฝังศพของท่าน ทำให้พิธีฝังศพเต็มไปด้วยความยากลำบาก เขากลายเป็นบุคคลสำคัญสำหรับชาวอิหร่าน ประชาชาติทั้งหลายและผู้นำในบางประเทศ ตลอดชีวิตของเขาต้องประสบกับอุปสรรค์ปัญหาต่างๆมากมาย อาทิเช่น การต่อสู้กับกษัตริย์ชาห์ปาลาวี แห่งอิหร่าน การถูกเนรเทศและสงครามอิรักอิหร่าน
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้รายงานอีกว่า หลังจากถูกเนรเทศ เมื่อเขาได้เดินทางกลับถึงกรุงเตหะราน เขาปรากฏตัวในสภาพที่ใส่ชุดนักการศาสนาที่มีผ้าสาระบั่นสีดำ เคราขาว และดวงตาสีดำเข้ม อันเป็นการบ่งบอกว่าเขามีเจตนารมณ์และนโยบายที่แน่วแน่และมั่นคงสำหรับมาตุภูมิของเขา อยาตุลลอฮ์ โคมัยนีตระหนักและรับรู้ถึงภารกิจอันศักดิ์สิทธิของเขาได้เป็นอย่างดี ซึ่งเขามีความเชื่อว่าอิหร่านจะต้องหลุดพ้นออกจากความเสื่อมโทรม ความเสียหายจากตะวันตก และต้องหลุดพ้นจากการเป็นสมุนรับใช้ของตะวันตกและสถาปนารัฐอิสลามขึ้นมา
รายงานชิ้นดังกล่าวยังเขียนเสริมว่า ในประเทศอิหร่านประชาชนจะรู้จักเขาในนาม “อิมามโคมัยนี่” และประชาชานชาวอิหร่านก็จะนับถือและให้เกียตริเขาเป็นอย่างมาก เมื่อเขาได้เสียชีวิตลงบรรดาผู้ปฏิบัติตามก็ได้สร้างสุสานอันใหญ่โตให้กับเขา จนถึงวันนี้หลังจาก 27 ปี ของการเสียชีวิต สุสานของเขากลายเป็นสถานที่ที่สำคัญและถูกสร้างอย่างใหญ่โตมโหฬาร และเป็นสถานที่หนึ่งในการจัดกิจกรรมทางศาสนา งานอสัญกรรมของเขาจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปีในสถานที่แห่งนี้
