ถอดความและเรียบเรียง โดย ฮุจญตุลอิสลาม ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี
ท่าน รอซูลและบรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์ ได้รายงานเรื่อราวต่างๆที่เกี่ยวข้องกับท่านอิมามมะฮ์ดี ทั้งในแง่ที่เกี่ยวกับการหายตัว(ฆอยบะฮ์ )การปรากฏตัวอีกครั้งหนึ่ง การต่อสู้ของท่านและบุคลิกภาพต่างๆที่เกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดี ซึ่งรายงานเหล่านี้ได้รับการถ่ายทอดอย่างแพร่หลายจากบรรดาสาวกและสหายของรอง ซูล และอิมามผู้บริสุทธิ์ เจ้าของหนังสืออัลอิมามอัล มะฮ์ดี ได้บันทึกชื่อของศอฮาบะฮ์ 50 ท่านชื่อของตาบีอีนอีก 50 ท่านที่ได้ทำการรายงานหะดีษที่เกี่ยวกับอิมามมะฮ์ดี บรรดากวีมุสลิมได้เขียนบทกวีไว้อย่างมากมายที่เกี่ยวกับท่านอิมามและส่วนมาก ของบทกวีนั้นได้เขียนก่อนประสูติของท่านอีมามมะฮ์ดีนับศตวรรษ
กะเมต นักกวีเอกของชีอะฮ์ ได้แต่งบทกวีบรรยายเกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดี ต่อหน้าท่านอิมามบากิร ( อ ) และยังได้ถามท่านอิมามบากิร(อ)เกี่ยวกับเวลาที่อิมามจะปรากฏ ดิอบัล คุซาอี กวีเอกอีกท่านหนึ่งที่แต่งบทกวีเกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดี ต่อหน้าท่านอิมามริฎอ( อ ) ซึ่งคุซาอี ได้กล่าวขึ้นว่า ถ้าไม่ใช่เพราะความหวังที่ฉันมีในวันนี้หรือพรุ่งนี้ (หมายถึงการมาของท่านอิมามมะฮ์ดี ) หัวใจของฉันก็ตามสลายไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพวกเขา(หมายถึงสิ่งที่ เกิดขึ้นกับอะหฺลุลบัยต์ ) ความหวังนั้นก็คือ การปรากฏของอิมามท่านหนึ่งซึ่งไม่มีข้อสงสัยในการปรากฏขึ้น
” เขาจะยืนหยัดด้วยพระนามแห่งอัลลอฮและจากบารอกัตของพระองค์ (และเขา) จะเป็นผู้แยกแยะในหมู่พวกเราระหว่างสัจธรรมกับความเท็จ(และเขา)จะเป็นผู้ตอบแทนรางวัลและบทลงโทษ
หลังจากที่ คุซาอี ได้อ่านกวีบทนี้จบ ท่านอิมาม ริฎอ ( อ ) จึงได้กล่าวกับเขาว่า
“โอ้ คุซาอี เอ๋ยบทกวีบทนี้ พระเจ้าเป็นผู้ใส่ลงไปในปากของเจ้า เจ้ารู้ไหนว่าอิมามคือใคร ? คุซาอี ได้ตอบว่า ฉันไม่รู้ ฉันรู้แต่เพียงว่า จะมีอิมามท่านหนึ่งจากลูกหลานของท่าน ปรากฏขึ้นและเขาจะทำให้โลกเต็มไปด้วยความสันติและยุติธรรม ท่านอิมามริฎอ (อ) จึงกล่าวขึ้นมา โอ้ คุซาอี อิมามหลังจากฉัน คือมุฮัมมัด(อิมามญะวาด) บุตรชายของฉัน และหลังจากเขาก็คือ บุตรชายของเขา อะลี( อิมามฮาดี) และหลังจากเขา ( อะลี ) ก็คือบุตรชายของเขา ฮะซัน ( อิมามอัสการี )และหลังจากเขา ( ฮะซัน) ก็บุตรของเขา ฮุจญัตอัลกออิม( อิมามมะฮ์ดี ) ซึ่งในการเร้นหายของเขา จะต้องรอคอยและในการปรากฏของเขาจะต้องภักดี และถึงแม้ว่าโลกนี้จะมีเวลาเหลืออยู่อีกเพียงวันเดียว อัลลอฮฺก็จะทำให้วันนั้นยืดยาวจนกระทั่งกออิม( อิมามมะฮ์ดี )ปรากฏและทำให้โลกเต็มไปด้วยความสันติและยุติธรรมหลักจากที่มันได้เต็มไป ด้วยความอธรรมและการกดขี่
และบางครั้งบรรดานักกวี หรือ ลูกศิษย์ของบรรดาดาอิมามผู้บริสุทธิ์ ได้ถามกับท่านอย่างตรงไปตรงมาว่าท่านหรือเปล่าที่เป็น กออิม ? หรือท่านหรือเปล่า คือ มะฮ์ดีที่ผู้ถูกรอคอย (อัลมุนตะซ็อร ) บรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์ ก็จะทำการตอบชี้แจง สิ่งที่เกี่ยวกับอิมามกออิม( มะฮ์ดี ) ตามความเหมาะสมของเวลาและโอกาส
และจากการที่หะดีษที่เกี่ยวกับท่านอิมาม มะฮ์ดี ( อ )เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในหมู่มุสลิม จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมีการกล่าวอ้างเท็จขึ้นเกี่ยวกับการเป็น อัลมะฮ์ดี หรือนำเอาเรื่องนี้ไปใช้ประโยชน์ ในทางที่ผิดตั้งแต่ในสมัยที่อิมามมะฮ์ดีจริงยังไม่ประสูติ อย่างเช่น พวกกัยสานียะฮ์ ทั้งที่กลุ่มนี้เกิดขึ้นมาก่อนที่ท่านอิมามมะฮ์ดีจะถือกำเนิดถึง 200 ปี
โดย พวกเขาได้อ้างว่า มุหัมมัด อัลหานาฟียะฮ์ คืออิมามมะฮ์ดีผู้ถูกรอคอย และเชื่อกันว่าได้เร้นหายไปและจะกลับมาปรากฏ อีกครั้งหนึ่งโดยได้นำหะดีษและหลักฐานต่างๆจากท่านรอสูล ( ศ ) และอิมามผู้บริสุทธิ์ได้พูดถึงมะฮ์ดีตัวจริงมาเป็นข้อกล่าวอ้าง เช่นเดียวกับพวกราชวงศ์ อับบาสียะฮ์ ก็ได้สร้างเรื่องเท็จในทำนองนี้ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งในสมัยของเคาะลีฟะห์ มะฮ์ดี อับบาซี ซึ่งได้ตั้งชื่อตัวเองว่า มะฮ์ดี เพื่อที่จะได้ใช้ประโยชน์จากความเชื่อที่ประชาชาติรอคอยท่านอิมามมะฮ์ดีตัวจริง
อุละมาอฺสุนนี่และชีอะห์ ได้บันทึกหะดีษที่เกี่ยวกับท่านอีมามมะฮ์ดี ไว้อย่างมากมาย จาก มุสนัด อะห์มัด อิบนิ ฮัมบัล และ เศาะหี้หบุคอรี เป็นส่วนหนึ่งจากหนังสือหะดีษที่มาตรฐานของ อะห์ลิสซุนนะห์ ที่ได้เขียนขึ้นก่อนการถือกำเนิดของท่านอิมาม มะฮ์ดี และหนังสือทั้งสองเล่มนี้ก็ได้รายงานหะดีษต่างๆที่เกี่ยวกับอิมามมะห์ดีไว้ เป็นจำนวนมาก
หนังสือ มะชีคะห์ เขียนโดย หะสัน บิน มะห์บูบ ซึ่ง เช็คก็อบริสีย์ ได้กล่าวไว้ว่า หนังสือเล่มนี้ได้เขียนขึ้น 100 ปีก่อนการเร้นหายครั้งใหญ่( ฆอยบะตุลกุบรอ) ของท่านอิมามมะฮ์ดี ซึ่งในหนังสือเล่มนี้ได้รายงาน เรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับการเร้นหายของท่านอิมามมะฮ์ดี และ เชคตูซี ได้กล่าวต่อไปอีกว่าหะดีษต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเร้นหายของท่านอิมามมะฮ์ดี ได้ถูกบันทึกไว้อย่างมากมายโดยนักหะดีษชาวชีอะฮ์ ตั้งแต่สมัยของท่านอิมามบากิร และอิมามญะอฟัร( อ )
นักวิชาการชาวชีอะฮ์และสุนนี่ได้เขียนหนังสือไว้อย่างมากมายเกี่ยวกับอิมาม มะฮ์ดีผู้ถูกสัญญา ซึ่งบางเล่มได้เขียนขึ้นก่อนการถือกำเนิดของท่านอิมามมะฮ์ดี ( อ ) รอวาญานี อุละมาอชาวสุนนี่ มรณะในปีที่ 250 ฮิจเราะฮ์ ได้เขียนหนังสือ อัคบารุลมะฮ์ดี ไว้ตั้งแต่ก่อนการถือกำเนิดของท่านอิมามมะฮ์ดี เช่นเดียวกันในหมู่อุละมาอชีอะฮ์ ท่านอันมาฎี เขียน การกำเนิดและการเร้นหายของท่านอิมามมะฮ์ดี ไว้ตั้งแต่ก่อนการถือกำเนิดและเร้นหายของท่านอิมาม
หะดีษและเรื่องของท่านอิมามมะฮ์ดีนั้นมีมากมายและเป็นเรื่องชัดแจ้งที่สุด เรื่องหนึ่งในอิสลามซึ่งเป็นการยากที่จะหาเรื่องอื่นมาเปรียบเทียบถึงความ ชัดแจ้งของมัน นอกเหนือจากอุละมาอชีอะฮ์เองแล้ว อุละมาอสุนนี่จำนวนมากก็ยอมรับว่า หะดีษที่เกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดี นั้นชัดแจ้งถึงขั้น มุตะวาติร อย่าเช่นท่าน สั้จญาซี อุลามะอชาวสุนนะห์ เจ้าของหนังสือ มานากิบุลชาฟีอี มรณะภาพเมื่อปีที่ 363 แห่งฮิจเราะฮ์ ท่านได้กล่าวไว้ว่า หะดีษที่เกี่ยวกับอิมามมะฮ์ดี ที่รายงานจากท่านเราะสูลุลลอฮนั้นความชัดแจ้งของมันถึงขั้น มุตะวาติร
เจ้าของหนังสือ อิมามมะฮ์ดี ได้เขียนไว้ในหนังสือของท่านว่าถ้าเรารวบรวมริวายะฮ์ต่างๆที่รายงานโดยทั้ง ชีอะฮ์และสุนนี่ที่เกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดี เราจะพบว่ามันมีมากกว่าหกพันหะดีษ ซึ่งถือว่าเป็น ตัวเลขที่ยิ่งใหญ่อย่างมาก ซึ่งแม้แต่เรื่องสำคัญอื่นๆในอิสลามที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปไม่มีข้อโต้ แย้งและสงสัยเลยในการยอมรับมัน ก็ยังไม่มีรายงานถึงหกพันหะดีษ
ดังนั้นบนพื้นฐานเหล่านี้ มุสลิมตั้งแต่ยุคแรกของอิสลามได้รับรู้และเข้าใจถึงพันธะสัญญาอันยิ่งใหญ่ นี้ และโดยเฉพาะชีอะฮ์ ผู้ได้รับการฝึกฝนจากครอบครัวอันบริสุทธิ์
(อะห์ ลุลบัยต์) มีความเชื่อที่มั่นคงและสมบูรณ์ได้ทำการรอคอยการกำเนิดและการกลับมาอีกครั้ง หนึ่งของท่านอิมามมะฮ์ดี อยู่ทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา
หลักฐานจากหะดีษต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดี นั้นได้ชี้ชัดให้รู้ว่า ท่านอิมามมะฮ์ดีนั้นมาจากบะนีฮาชิม เป็นลูกหลานของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ)สืบเชื้อสายมาจากสายเลือดของผู้นำแห่งบรรดาชะฮีด อิมามฮุเชน(อ) พ่อของท่านชื่อ ฮะซัน( อิมามอัสสการี ) ส่วนชื่อท่านอิมามมะฮ์ดีนั้นมีชื่อและฉายา เหมือนกับชื่อและฉายาของท่านศาสดา มุฮัมมัด (ศอล) การกำเนิดและการมีชีวิตของท่านเป็นความลับ การเร้นหาย(ฆอยบะฮ์ ) มีสองครั้งซึ่งครั้งแรกเป็นระยะเวลาอันสั้น ( ฆอยบะตุลศุฆรอ) และครั้งที่สองเรียกว่า ฆอยบะตุลกุบรอ ซึ่งเป็นการเร้นหายที่มีระยะเวลาอันยาวนานตราบเท่าที่อัลลอฮทรงประสงค์ และด้วยคำสั่งของพระองค์จะกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งหนึ่ง เพื่อทำการปฏิวัติและนำโลกเข้าสู่การปกครองของอิสลามและจะทำให้โลกเต็มไป ด้วยความสันติและยุติธรรมหลักจากที่มันได้เต็มไปด้วยความอยุติธรรมและการ กดขี่
โดยในหะดีษเหล่านี้ได้อธิบายอย่างละเอียดถึงบุคลิกรูปร่างและหน้าตาของอิมาม คนที่สิบสองท่านนี้ ซึ่งเราจะนำมาเป็นตัวอย่างดังนี้
ตัวอย่างจากหะดีษของอะฮลิสสุนนะฮ์ ท่านศาสดา (ศล) ได้ย้ำถึงความแน่นอนของการปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดีว่า
ถึง แม้ว่าโลกนี้มีเวลาเหลืออีกเพียงวันเดียวอัลลอฮ ก็จะส่งชายคนหนึ่งจากเรา มาบนโลกนี้และจะทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยความยุติธรรม หลังจากที่มีมันได้เคยเต็มไปด้วยความยุติธรรมและกดขี่ (จากมุสนัด อะหมัด อิบนิ ฮัมบัล)
ท่าน ศาสดา (ศอล) กล่าวไว้ว่า วันกิยามัตจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าชายคนหนึ่งจากอะห์ลุลบัยต์ของฉัน จะปรากฏตัวและทำให้ภารกิจ ของฉันสมบูรณ์ด้วยมือของเขา ชื่อของเขาเหมือนชื่อของฉัน
(จากมุสนัด อะหมัด อิบนิ ฮัมบัล)
ท่านเราะสูลุลลอฮ (ศ็อล) ได้กล่าวว่า เหมือนกับอะลีเป็นผู้นำ หลัก จากฉัน กออิม อัลมุนตะซ็อร (อิมามมะฮ์ดี) ก็คือผู้นำจากฉัน เมือตอนที่เขาปรากฏตัวเขาจะทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยความสันติและยุติธรรม หลังจากที่มันได้ไปด้วย ความอธรรมและการกดขี่ ขอสาบานด้วย พระนามแห่งอัลลอฮว่าผู้ที่สามารถจะยืนหยัดอย่างมั่นคงต่อศาสนาในช่วงของการ เร้นหายของเขานั้นหายากยิ่งกว่าเหล็กไหล
ท่านญาบีร ได้ลุกขึ้นถามว่า โอ้ศาสดาแห่งอัลลอฮ กออิมลูกหลานของท่านมีการเร้นหายด้วยหรือ ?
ท่านศาสดา ตอบ แน่นอนขอสาบานด้วยพระผู้อภิบาลของฉัน ผู้ศรัทธาจะถูกทดสอบจนบริสุทธิ์ และผู้ ปฏิเสธจะถูกทำให้พินาศโอ้ ญาบีเอ๋ยเรื่องนี้นั้นเป็นความลับอันหนึ่งจากความลับทั้งหลายจากอัลลอฮ ดังนั้นจนหลีกห่างจากความสงสัย เพราะการสงสัยในกิจกรรมของอัลลอฮนั้นเป็นการปฏิเสธ (กุฟร์)
(จากหนังสือ ยะนาบีอุล มะวัดดะฮ์)
ท่าน หญิงอุมมุ สะละมะฮ์ ได้รายงานว่า ท่านเราะสูลุลลอฮ (ศ็อล) ได้พูดถึงมะฮ์ดีถูกสัญญาและย้ำว่า แน่นอนมันเป็นเรื่อจริงและมาจากลูกหลานของฟาฏิมะฮ์
(จากหนังสือมุสตัดร็อก อัลหากิม)
ท่าน สัลมาม อัลฟาริซี ได้กล่าวว่า วันหนึ่งฉันได้ไปหาท่านเราะสูลุลลอฮ (ศ็อล) และพบว่า ฮุเซนลูกของอะลีนั่งอยู่บนตักของท่านศาสดา และท่านก็ได้จูบไปที่ดวงตาและริมฝีปากของฮุเซนและกล่าวขึ้นว่า เจ้าคือซัยยิดลูกของซัยยิด เจ้าคืออิมามลูกของอิมามและน้องของอิมาม เจ้าคือฮุจญัตของอัลลอฮ ลูกของฮุจญัต และน้องของฮุจญัต (บทพิสูจน์แห่งอัลลอฮ) และเจ้า (ฮุเซน) คือบิดาของเก้าฮุจญัตแห่งอัลลอฮ ซึ่งคนที่เก้านั้นคือ กออิม (อิมามะฮ์ดี)
(จากหนังสือ ยะนาบีอุล มะวัดดะฮ์)
ท่านอิมามริฎิอ (อ) ได้ล่าวว่า คอลาฟุศ – ศอและห์ คือลูกของฮะสัน บินอะลี อัลอัสการีและคือมะฮ์ดีผู้ถูกสัญญา
(จากหนังสือ ยะนาบีอุล มะวัดดะฮ์)
ท่าน รอซูลุลลอฮ (ศ็ลล) ได้กล่าว ของแจ้งข่าวดีให้แก่พวกเจ้าในเรื่องของมะฮ์ดี เขาจะปรากฏขึ้นในอุมมะฮ์ของฉันในขณะที่อุมมาะฮ์กำลังแตกแยกและสั่นคลอน เขาจะทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยความยุติธรรม หลังจากที่มันได้เต็มไปด้วยความอธรรมและการกดขี่ ทั้งชาวฟ้าและชาวดิน จะมีความสุขและพึงพอใจต่อเขา
(จากมุสนัด อะหมัด อิบนิ ฮัมบัล)
ท่านอิมามริฎอ ( อ ) ได้กล่าวว่า ไม่มีศาสนาสำคัญผู้ที่ไม่มีตักวา และผู้ที่มีเยรติยิ่งในสู้เจ้า ณ อัลลอฮ นั้นคือผู้ที่มีตักวามากกว่า หลังจากนั้นท่านอิมามได้กล่าวเสริมขึ้นว่า หลานคนที่ 4 จากวงศ์วานของฉัน เป็นบุตรของหญิงที่เป็นทาส ซึ่งอัลลอฮจะให้เขาเป็นผู้นำความสะอาดโลก จากความอยุติธรรมและการกดขี่ แลยะเขาคือผู้ที่ประชาชนสงสัยและลังเลเกี่ยวกับการกำเนิดของเขา เขาคือเจ้าแห่งการเร้นหาย (ฆอยบะฮ์) และเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้งอีกครั้งหนึ่งเขาทำให้โลกนี้สว่างไสวด้วยรัศมีแห่ งอัลลอฮ และเขาจะเป็นผู้วางตาชั่งแห่งความยุติธรรมในหมู่ประชาชาติ และวันนั้นจะไม่มีผู้ใดสามารถที่จะทำการละเมิดหรือกดขี่ผู้ใดได้อีก
(จากหนังสือ ยะนาบีอุล มะวัดดะฮ์)
ท่านอะมีรุ้ลมุอมินีน อะลี ( อ ) ได้กล่าวว่า อัลลอฮจะทำให้กลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้น ซึ่งพวกเขารักอัลลอฮ และอัลลอฮก็ทรงรักพวกเขา และอัลลอฮจะทำให้พวกเขาได้รับอำนาจการปกครองจากพระองค์ คนหนึ่งจากหมู่พวกเขาจะถูกปกปิดซ่อนเร้นเอาไว้ และเขาผู้นั้นคือมะฮ์ดีผู้ถูกสัญญาไว้….. ซึ่งเขาทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยความสันติและยุติธรรมโดยปราศจากความลำบากใดๆ สำหรับเขาในการนี้ ในวัยทารกเขาจะห่างไกลจากบิดาและมารดา…… และเขาจะพิชิตเมืองต่างๆ ของมุสลิมด้วยสันติ โลกในวันนั้นพร้อมแล้วที่จะรองรับเขา
คำพูดเขา จะได้รับการต้อนรับ จากหนุ่มและแก่จะภักดีต่อเขา เขาจะทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยความสันติและยุติธรรม หลักจากที่มันได้เคยเต็มไปด้วยความอธรรมและการกดขี่ และในเวลานั้นตำแหน่งแห่งอิมามัตจะถึงจุดสมบูรณ์ มัน และตำแหน่งคอลิฟะฮ์ที่แท้จริงก็จะปรากฏขึ้น และอัลลอฮจะทำให้ผู้ที่อยู่ในหลุมฝันศพฟื้นขึ้น พวกเขาจะฟื้นขึ้นมาในตอนเช้าและพบว่าตัวเองไม่ได้อยูในหลุมฝังศพ จากการปรากฏตัวของมะฮ์ดี แผ่นดินจะสดใสและเจริญงองาม น้ำอันใสบริสุทธิ์ไหลไปทุกลำธาร ความวุ่นวาย การแย่งชิงและกดขี่จะถูกขจัดออกไป ความประเสริฐและสิริมงคล (บะรอกะฮ์) จะถูกประทานลงมา และไม่มีความจำเป็นใดๆ อีกที่ฉันจะบรรยายถึงสิ่งที่จะตามมาหลังจากนั้นอีกเพียงแต่ฝากสลามจากฉันไป ยังโลกนั้นด้วยเถิด
(จากหนังสือ ยะนาบีอุล มะวัดดะฮ์)